การเปลี่ยนแปลงในตลาดรถยนต์ของไทยในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายหลายรายมีอันเป็นไปตามแต่สภาพของแต่ละบริษัทแล้ว รถยนต์แบรนด์ดังที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานบนท้องถนนไทยจำนวนไม่น้อยยังอันตรธานหายไปจากตลาดด้วย

ความพยายามที่จะกลับเข้าสู่สังเวียนยานยนต์ ของค่ายยนตรกิจเป็นกรณีที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะจากเดิมที่เป็นผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่ ที่มีรถยนต์ยุโรประดับพรีเมียม หลากหลายยี่ห้ออยู่ในการดูแลและมีเครือข่ายกว้างขวาง แต่ในปัจจุบันกลับอยู่ในฐานะยักษ์แคระที่ยังไม่ฟื้นจากฝันร้าย

ล่าสุด ยนตรกิจพยายามปลุก Peugeot ให้กลับขึ้นมาโดดเด่นในตลาดประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่พร้อมเสริมความแข็งแกร่งขององค์กร ด้วยการจัดสรรการบริการ แบรนด์ในเครือยนตรกิจ เพื่อเสริมความมั่นคงและการดำเนินงานให้สอดคล้องกับเปลี่ยนแปลง

พลกฤษณ์ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร ยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ ระบุว่า ช่วงนี้เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเปอโยต์ เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ยนตรกิจทำงานอย่างหนักในการสร้างฐานให้แข็งแกร่ง เพื่อที่จะเติบจากรากฐานนี้ โดยเฉพาะการบริการหลังการขายที่ได้ผ่านการปรับปรุงแล้ว

"ปัจจุบันรถ Peugeot มือหนึ่งมีจำหน่ายที่บลู บ็อกซ์ โชว์รูมถนนรามคำแหงเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แต่หลังจากนี้ยนตรกิจจะทยอยเปิดข้อมูลกลุ่มตัวแทนใหม่ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มของ การมีเครือข่ายทั่วประเทศอีกครั้งและจะเปิดตัวแทนจำหน่ายในใจกลางกรุงเทพฯ อีกด้วย"

การขยับขยายของยนตรกิจ ออโตโมบิลส์ จำกัด ครั้งนี้ คาดว่าจะมีศูนย์ตัวแทนจำหน่าย บลูบ็อกซ์และเซอร์วิสพอยท์ สำหรับ Peugeot ถึง 20 แห่งทั่วประเทศ ภายในปลายปี พ.ศ. 2553

ยังไม่นับรวมถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับมอนเดียล แอสซิสแทนซ์ ซึ่งมีเครือข่ายทั่วประเทศพร้อมระบบ Peugeot call centre ที่เปิดทำงาน 24 ชั่วโมง เพื่อให้บริการช่วยเหลือเมื่อลูกค้า มีเหตุฉุกเฉินบนท้องถนนไม่ว่าจะอยู่จุดไหนในประเทศไทย ซึ่งถือ เป็นความพยายามแก้ไขปัญหาเรื่องบริการหลังการขายและเพิ่มช่องทางสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น

แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะน่าตื่นตาและน่าสนใจในฐานะ ที่เป็นกลไกในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถึงที่สุดแล้ว ยนตรกิจจะสามารถหนุนนำให้ Peugeot นับ เนื่องต่อยอดไปสู่เป้าหมายได้ไกลเพียงใดยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม หวังเพียงแต่ว่า Peugeot ในมือของยนตรกิจจะไม่ต้องถอยกลับมานับหนึ่งเร็วเกินไปนัก