Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2530
มิตซูบิชิ วีเอส-2000วิดีโอโปรเจคเตอร์หัวหอกใหม่ของกันยงวัฒนา             

 


   
search resources

กันยงวัฒนา
มิตซูบิชิ อิเล็กทริก
ประพนธ์ โพธิวรคุณ
Electric




ย่ำค่ำวันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม ห้องวิภาวดีบอลล์รูม เอ-บี โรงแรมไฮแอท เซ็นทรัลพลาซ่า ดูคึกคักเป็นพิเศษ แขกเหรื่อเกือบครึ่งพัน ทยอยกันเข้ามาในงานแนะนำ "มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอ โปรเจคเตอร์ และจอบิ๊กสกรีน ขนาด 200 นิ้ว" ของบริษัทกันยงวัฒนา ตัแวทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทมิตซูบิชิ อิเลคทริค

เดินเข้าไปในห้องวิภาวดีบอลล์รูม 2 ห้องประกบกัน ซ้ายมือตั้งไว้ด้วยโทรทัศน์หลายขนาดแน่นอนเป็นผลิตภัณฑ์ของ"มิตซูบิชิ" ตัวที่เป็น "พระเอก" ของกลุ่มโทรทัศน์ก็คือ โทรทัศน์ขนาดจอ 37 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงอย่างดี กระหึ่มไปเกือบครึ่งห้อง

มองไปที่บริเวณขวามือของห้อง เห็นจอ "บิ๊กสกรีน 200 นิ้ว" ขนาดมหึมาติดผนังห้องถัดจากบิ๊กสกรีน ประมาณ 9 ฟุต เป็นวีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ "พระเอกตัวจิรง" ของงานขนาดใหญ่ขนาด 2 คนยกหนักถึง 150 กิโลกรัม

"นี่เป็นวิดีโอโปรเจคเตอร์ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น เพราะวิดีโอโปรเจคเตอร์โดยทั่วไปจะมีข้อเสียอยู่ที่ความคมชัดและความสว่าง คือ ภาพไม่ค่อยชัดและไม่สว่างเท่าที่ควร แต่วีเอส-2000 สามารถลบจุดบอดนี้ได้ เพราะมิตซูบิชิได้ทุ่มเทพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องทำให้วีเอส-2000 มีความคมชัดด้วยระบบ OPTICAL COUPLING SYSTEM ที่ใส่ SILICONE เข้าไประหว่างภาพและเลนส์ ขจัดแสงสะท้อน ทำให้ภาพคมชัดถึง 300%" ประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท กันยงวัฒนา บอก "ผู้จัดการ" วันเปิด PRESS CONFERENCE

"จุดเด่นของวีเอส-2000 คือ สามารถขยายจอภาพได้ตั้งแต่ 120 นิ้ว - 200 นิ้ว โดยที่ความคมชัดและสว่างเหมือนกับต้นฉบับ ด้วยประสิทธิภาพที่มีการพัฒนาการสูงสุด หลอดภาพใหญ่ถึง 13 นิ้ว ซึ่งเป็นหลอดภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำงานร่วมกันถึง 3 หลอด ผ่านเลนส์แบบ HIGH SPEED ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 9.6 นิ้ว ช่วยขยายความสว่างของแสงได้มากกว่าถึง 650 ลูเมนส์ 3.5 เท่าของหลอดภาพขนาด 7 นิ้ว แบบเก่าที่ใช้กันอยู่ทั่วไป" กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาดโอ่คุณสมบัติของ "วีเอส-2000"

"ระบบการปรับโฟกัสแบบ ELECTROMAGNETIC เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ วีเอส-2000 ภาพคมชัดเหนือกว่ายี่ห้ออื่น นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องเสียงระบบเซ็นเซอร์ราวน์ได้ พรุ่งนี้คุณก็คอยดูคอยฟังก็แล้วกัน ว่ามันจะมันส์แค่ไหน พูดไปตอนนี้ก็ไม่เห็นความมันส์" ทศพร อร่ามรัศมีวาณิชย์ ผุ้จัดการฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า กล่าวเสริม พร้อมกับท้าทายให้ "ผู้จัดการ" ไปชมประสิทธิภาพของผลิตภัรพ์ไฮเทคตัวใหม่ของกันยงวัฒนา

งานเริ่มเปิดเมื่อทศพร อร่ามรัศมีวาณิชย์ ขึ้นไปเกริ่นนำตามด้วยมิสเตอร์เอช. อิตะ กรรมการรองผู้จัดการบริษัทกันยงวัฒนา ฝ่ายบริหาร โดยพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น มีล่ามแปลเป็นภาษาไทย จบลงด้วยการพูดถึงคุณสมบัติของสินค้าตัวใหม่ ความเป็นมาที่นำเข้าโดยประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการฝ่ายการตลาด

หลังจากนั้น ก็เป็นการโชว์ประสิทธิภาพของ วีเอส-2000 และจอบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงขนาดมหึมา กระหึ่มไปทั้งห้องวิภาวดีบอลล์รูม ด้วยความตื่นเต้น ทึ่งกับประสิทธิภาพจากภาพและเสียง ประกอบกับความมันส์ระดับ 5 ดาวของภาพยนตร์สามเรื่องที่นำมาเสนอเฉพาะช่วงมันส์ ๆ 2001 : SPACE ODYSSEY ท็อปกัน และแฟล็ชแดนซ์

ออกจะเป็นการเปิดตัวที่ค่อนข้างจะลงทุนมากเกินไป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ "ในงานพรุ่งนี้เราไม่ได้หวังว่าจะขายได้มาก ขายได้เครื่องนึงก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะในอเมริกาหรือญี่ปุ่นเองก็ขายได้ไม่เท่าไหร่ อีกอย่างก็คือ ใครจะซื้ออีกประมาณ 3-5 เดือนจึงจะได้ของเพราะว่าเราจะรวมออเดอร์จากหลายประเทศแล้วจึงจะลงมือผลิต" ประพนธ์บอกกับ "ผู้จัดการ"

ประพนธ์ ยังบอกกับ "ผู้จัดการ" อีกว่าที่นำเอาผลิตภัณฑ์ตัวนี้เข้ามาเพราะ "เพื่อไม่ให้ล้าหลัง เพื่อให้รู้ว่าเราก็ทันสมัยเหมือนกัน"

ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของกันยงวัฒนานี้ ที่ขายยากเพราะว่าราคาสูง เฉพาะตัววีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ก็ตกเครื่องละ 1,750,000 บาท กับจอบิ๊กสกรีนอีก 110,000 บาท ตัวปรับจากระบบ NTSC (ระบบของสหรัฐฯ) มาเป็นระบบ PAL ของไทยก็อีก 172,000 บาท นี่ยังไม่รวมระบบเครื่องเสียงอีกหลายแสนและตัวเครื่องควบคุมเบ็ดเสร็จก็ตกสองล้านกว่าบาท

นอกจากมิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ และบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว แล้วกันยงวัฒนายังให้ความสำคัญกับการแนะนำโทรทัศน์ขนาดจอใหญ่ คือ 28 นิ้ว - 37 นิ้วอีกด้วย

เพราะเมื่อเอ่ยถึงบริษัทมิตซูบิชิแล้ว เกือบทุกคนจะนึกถึงบริษัทที่ขายสินค้าทุกชนิดตั้งแต่ "ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ" กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ เป็นบริษัทที่มีกิจการแทบทุกชนิดจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร ธนาคารมิตซูบิชิ ก็ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร "ยูโรมันนี่" ปีล่าสุด

มิตซูบิชิ ยังได้แตกแขนงมีบริษัทต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ที่บริษัท MITSUBISHI MOTOR จัดการอยู่ ทางด้านอุตสาหกรรมเคมีก็มีบริษัท MITSUBISHI CHEMICAL INDUSTRIES นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่แตกแขนงออกไปยังกิจการต่าง ๆ มากมาย เช่น MITSUBISHI GAS CHEMICAL, MITSUBISHI HEAVY INDUSTRIES ที่ติดอันดับ 22 จาก "FORTUNE" เล่มล่าสุด MITSUBISHI OIL, MITSUBISHI RAYON MITSUBISHI PETROCHEMICAL, MITSUBISHI ENGINEERING & SHIBLDG และ MITSUBISHI METAL

ทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มีบริษัทมิตซูบิชิอิเล็กทริค ซึ่งใหญ่เป็นอันดับที่ 48 จากการจัดอันดับของ FORTUNE ด้วยยอดขาย 9,401,584,000 ดอลลาร์ สินทรัพย์ 10,321,047,000 ดอลลาร์ รายได้สุทธิ 120,985,000 ดอลลาร์ และจ้างงานถึง 71,479 คน

สำหรับในเมืองไทย บริษัทกันยงวัฒนาเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย และยังมีบริษัทกันยงอิเล็กทริคแมนูแฟคเจอริ่ง ผลิตและส่งออก พัดลม เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และตู้เย็น เป็นบริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่นกันยงวัฒนามียอดขายในปีที่แล้ว 885,45,000 บาท เป็นรองก็เพียงแต่บริษัทซิว เนชั่นแนล เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เท่านั้น และในด้านกำไร กันยงมาเป็นที่สาม 25,716,000 บาท รองจากบริษัทซิว เนชั่นแนล เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส เจ้าเก่า และบริษัทซิวในเครือเดียวกันเท่านั้น

ถึงแม้ว่ากันยงวัฒนาจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ของกิจการประเภทเดียวกัน แต่ยอดขายและกำไรก็ห่างจกอันดับหนึ่งอยู่มาก "ที่สำคัญก็คือ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวทำเงินให้กับกันยงฯ ไม่ใช่โทรทัศน์แต่เป็นเครื่องปรับอากาศและพัดลม โทรทัศน์นั้นมียี่ห้อเนชั่นแนลเป็นเจ้าตลาดอยู่ กันยงเองเขาก็อยากจะทำตลาดโทรทัศน์ เพราะเป็นตลาดที่จะเป็นตัวทำเงินให้บริษัทมาก ถ้าสามารถแย่งมาร์เก็ตแชร์มาได้ แต่การที่จะไปชิงส่วนแบ่งการตลาดจากเจ้าตลาดเดิมไม่ใช่ของง่าย โดยเฉพาะเจ้าตลาดเดิม คือ "เนชั่นแนล" ผู้ไม่ยอมสยบต่อกลยุทธ์ทุกรูปแบบ" แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกต

"กันยงวัฒนาจึงต้องเข้าไปเล่นตลาด โทรทัศน์เครื่องใหญ่ คือ ใหญ่กว่าขนาด 14 นิ้ว และ 20 นิ้ว นั่นคือ เขาจะไปเล่นตลาด 28 นิ้ว - 37 นิ้ว แต่การที่จะทำให้คนเชื่อถือในคุณภาพโทรทัศน์ของมิตซูบิชิ กันยงก็ต้องสร้างภาพพจน์ว่า มิตซูบิชินั้น "ปราดเปรื่องเรื่องเทคโนโลยี" เรียกว่าต้องทำให้คนทั่วไปรู้ว่า ในด้านเทคโนโลยีมิตซูบิชิไม่เป็นรองใคร และออกจะล้ำหน้ากว่ายี่ห้ออื่นด้วยซ้ำ เขาถึงได้ลงทุนนำเอา มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ และจอบิ๊กสกรีน 200 นิ้ว เข้ามาและเปิดตัวอย่างใหญ่โต ซึ่งถ้าดูแล้วสำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตัวนี้แล้ว บอกเลยว่า ขายได้ตัวนึงก็นับว่าเก่งมากแล้ว แสดงว่าการลงทุนในครั้งนี้ไม่คุ้มถ้าดูเฉพาะวิดีโอโปรเจคเตอร์" แหล่งข่าวแสดงเหตุผล

"แต่คุณอย่าลืมว่า ปลายปี เขาจะนำเอาโทรทัศน์เครื่องขนาดจอใหญ่เข้ามา ก็อย่างที่คุณเห็นแล้วนี่ว่า เขาได้ให้ความสำคัญกับโทรทัศน์ขนาดจอ 37 นิ้วมาก ในงาน PRESS CONFERENCE วันที่ 13 ส.ค. เขาก็กล่าวถึงบ่อย วันเปิดตัวเขาถึงกับให้เครื่อง 37 นิ้ว เป็นพระรองของงาน หรือว่าเป็นพระเอกในหมู่โทรทัศน์ก็ได้เรียกว่า ถ้ากลยุทธ์นี้ของกันยงวัฒนาสำเร็จก็ต้องบอกว่า งานคุ้มค่ากับที่ลงทุน คุณว่าจริงไหม" แหล่งข่าวตบท้ายด้วยการถาม "ผู้จัดการ"

อย่างนี้จะเรียกว่า มิตซูบิชิ วีเอส-2000 วิดีโอโปรเจคเตอร์ เป็นหัวหอกระดับไฮเทค ของกันยงวัฒนาเห็นจะไม่ผิดไปจากความจริงนัก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us