Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน30 มิถุนายน 2552
กองทุนฟื้นฟูฯรอบอร์ดเคาะราคาขายสคิบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย
โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.




กองทุนฟื้นฟูเสนอแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินที่เหลืออยู่ รวมถึงการขายหุ้นนครหลวงไทย ก่อนปิดตัวในปี 56 ระบุขั้นตอนต้องให้บอร์ดกองทุนกำหนดราคาขายขั้นต่ำ เสนอต่อกระทรวงการคลังแล้วจึงจัดจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน คาดปลายเดือนก.ค.นี้สรุปเสนอบอร์ดก่อนส่งคลังตัดสินชี้ขาดต่อไป และหากในปี 56 มีทรัพย์เหลืออยู่ต้องโอนให้คลังจัดการ ด้าน"โฆสิต"ยันกรณีขายหุ้นสินเอเซียให้ ICBC ต้องรอการตัดสินจากคลัง เหตุผู้ซื้อต้องการถือหุ้นใหญ่

นางทองอุไร ลิ้มปิติ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(กองทุนฟื้นฟูฯ) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯครั้งที่ผ่านมา คณะกรรมการได้สั่งให้กองทุนฟื้นฟูฯกลับไปดำเนินการเพิ่มเติมถึงแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน รวมถึงหุ้นของสถาบันการเงินที่กองทุนฟื้นฟูฯถืออยู่ด้วย ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯต้องมีหลากหลายทางเลือกในการจัดการทรัพย์สินเพื่อเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดกองทุนฟื้นฟูฯในการประชุมครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้

ทั้งนี้ ในส่วนของราคาขายหุ้นของธนาคารนครหลวงไทยต้องให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯกำหนดราคาขายขั้นต่ำ ซึ่งหากได้ข้อสรุปแนวทางและรายละเอียดทุกอย่างแล้ว จึงจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป และหลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนในการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน (เอฟเอ) ซึ่งจะทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ช่วยของกองทุนฟื้นฟูฯ

โดยผู้ที่ทำหน้าที่เอฟเอต้องต้องมีการเปิดประมูลขายหุ้น และส่งรายละเอียดไปให้แก่ผู้ที่สนใจหรือรายอื่นๆในเครือข่าย จึงจำเป็นที่การคัดเลือกเอฟเอจะต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน โปร่งใส และที่สำคัญต้องมีการเปิดประมูลให้ผู้ที่สนใจเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างด้วย

"แม้สุดท้ายหากมีการจัดจ้างเอฟเอขึ้น แต่ในอดีตเคยมีกรณีที่เอฟเอที่จ้างขึ้นมานั้นมีทั้งพิจารณาว่าขายหุ้นหรือไม่ขายหุ้น ขึ้นอยู่กับการศึกษาความเหมาะสมและสถานการณ์ขณะนั้นเป็นสำคัญ ซึ่งในส่วนของธนาคารนครหลวงไทยอาจต้องใช้เวลานานกว่าในการดำเนินการขายหุ้นของธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน)ที่ผ่านมา เพราะนครหลวงไทยมีสินทรัพย์เป็นอันดับ 7ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้มีนักลงทุนสนใจหลายราย และในประเทศเหลือแค่ธนาคารพาณิชย์ 2 แห่งที่เราถืออยู่"ผู้จัดการกองทุนฟื้นฟูฯกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในการปิดตัวตามพ.ร.บ.ธปท.ฉบับปัจจุบัน ตามมาตรา 19 ระบุไว้ชัดเจนว่ากองทุนฟื้นฟูฯ ต้องมีการปิดตัวในปี 2556 โดยหากในขณะนั้นยังมีทรัพย์สินเหลือของกองทุนฟื้นฟูฯเหลืออยู่ก็ต้องชำระบัญชีและโอนให้กระทรวงการคลังดูแล และกระทรวงการคลังหรือรัฐบาลที่เป็นผู้ดูแลนโยบายก็ต้องออกกฎหมายจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นมารับหน้าที่แทนกองทุนฟื้นฟูฯที่ปิดตัวไป ซึ่งหน่วยงานใหม่นี้จะทำหน้าที่ดูแลสถาบันการเงินเมื่อเกิดปัญหา อาทิ เพิ่มทุนเมื่อสถาบันการเงินรายนั้นในยามที่จำเป็น เพราะส่วนนี้สถาบันประกันเงินฝากไม่สามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของรายได้ที่เก็บจากทรัพย์สินที่เหลืออยู่นั้นจะนำไปเก็บไว้ที่สถาบันประกันเงินฝากทั้งหมด

นางทองอุไรกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีพ.ร.บ.ธปท.ฉบับใหม่ขึ้นมา กองทุนฟื้นฟูฯได้มีการเสนอแผนการจัดการทรัพย์สินที่เหลืออยู่ไปแล้ว 3-4 รอบ ซึ่งเป็นไปตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่การทำหน้าที่หรือขั้นตอนต่างๆ ก่อนจะปิดตัวกองทุนฟื้นฟูฯ หรือในช่วง 4 ปีที่เหลือนี้ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน

อนึ่ง ปัจจุบันกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ถือหุ้นในธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง คือ ธนาคารนครหลวงไทยในสัดส่วน 47.58% หรือ 1,005 ล้านหุ้น และธนาคารกรุงไทย 55.31% หรือ 6,184 ล้านหุ้น

**SCIBดีดรับข่่าวTCAPซื้อ29บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือในวงการว่า ทางคณะกรรมการของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินมีมติเลือก บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อประเมินราคาขายหุ้นของธนาคารนครหลวงไทย ที่กองทุนฟื้นฟูฯ ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 47.58% โดยประเมินราคาขายให้ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ราคา 1.5 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (Book Value) หรือประมาณ 29 บาท โดยคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2 - 3 เดือนนี้

ทั้งนี้ จากข่าวที่ออกมาดังกล่าวได้ส่งผลให้ราคาหุ้นของธนาคารนครหลวงไทยวานนี้ (29 มิ.ย.) มีการเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยมีราคาเปิดตลาดช่วงเช้าอยู่ที่ 14.80 บาท และปิดตลาดที่ราคา 17.00 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือเปลี่ยนแปลง 17.24% โดยราคาระหว่างวันได้ปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 17.60 บาท และราคาต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่ 14.80 บาท

**BBLยันรอคลังตัดสินขายหุ้นACL**

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎฺ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยถึงกรณีที่ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) มีความสนใจที่จะเข้ามาซื้อหุ้นธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ ACL ว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่าอยู่ในขั้นตอนไหน แต่ทราบว่า ICBC ต้องการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารสินเอเซียซึ่งธนาคารกรุงเทพไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของหุ้นดังกล่าว

"ตอนนี้เราคงต้องรอการเจรจา ที่มีการเจรจาทางกระทรวงการคลัง เพราะผู้ซื้อ อยากจะได้ ไม่ใช่เพียงของเรา แต่ผู้ซื้ออยากจะได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คงต้องมีการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์" นายโฆสิตกล่าว

นายโฆสิต กล่าวว่า ในส่วนธนาคารกรุงเทพนั้นได้เจรจากับผู้สนใจซื้อหุ้นของธนาคารสินเอเซียจบไป แล้ว แต่ไม่สามารถขายหุ้นดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุมัติจากทางรัฐบาล ซึ่ง เข้าใจว่าทางผู้ซื้อต้องการเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จึงต้องขึ้นอยู่กับการเจรจากับ ทางรัฐบาลและกระทรวงการคลัง

ส่วนเรื่องราคาการซื้อขายหุ้น คงต้องเป็นการเจรจาระหว่างผู้ซื้อกับกระทรวง การคลังเช่นกัน เพราะการขายหุ้นในส่วนของธนาคารต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลก่อน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาติดปัญหาที่พ.ร.บ.ธนาคารพาณิชย์ ฉบับเดิม อนุญาต ให้ต่างชาติถือหุ้นในสถาบันการเงินไทยได้เกิน 25% เฉพาะกรณีแก้ไขฐานะหรือฟื้นฟูกิจการ ขณะที่ธนาคารสินเอเซียมีต่างชาติถือหุ้นกว่า 20% แล้ว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us