Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน29 มิถุนายน 2552
สินค้าปี53ต้นทุนปรับขึ้นเกินเพดาน"ยรรยง"ชี้เฮ้าส์แบรนด์แก้สินค้าแพง             
 


   
www resources

โฮมเพจ กระทรวงพาณิชย์

   
search resources

กระทรวงพาณิชย์
Commercial and business




ASTV ผู้จัดการรายวัน -พาณิชย์ เผยสินค้าปี 53 แนวโน้มปรับขึ้นเกินพดานที่กำหนดหลังต้นทุนการผลิตสูงขึ้น 3-8% ขณะที่ "ยรรยง" เสนอใช้โซนนิ่งคุมค้าห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ยอมรับสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ในโมเดิร์นเทรดช่วยแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง

ผู้สื่อข่าวรายงาจากกระทรวงพาณิชย์ว่ากรมการค้าภายนคาดการ์แนวโน้มราคาสินคาปี 53 โดยคาดว่าผู้ผลิตสินค้าหลายรายการาจปรับข้นราคาขายเกินกว่ราคาเพดนที่กรมกำหนดเพระต้นทุนการผลิตเพ่มสูงขึนประมาณ 3-8% สินค้าทีคาดว่าจปรับขึ้นเกินราคาพดาน เช่ นมผง คาด้นทุนจะพิ่มขึ้น 5% เหล็ก คาเพิ่มขึน 4-7% ปูนซีแนต์ คาดเิ่มขึ้น 7-8% ของใช้ปรจำวัน ช่ ผงซักฟอก สบู่ แชมพู คาดเพิ่มขึ้น 3-4% ป๋ยเคมี คดเพิ่มขึ้น 5% แบตเตรรี่รถยต์ คาดเพิ่มขึ้น 3%

"ทั้งนี้เป็นผลจากเศรษฐกิจโลก และเศรฐกิจภายในของไทยฟื้นตัวประชาชนมีรายได้ และ มีความสาารถจับจ่ายใช้สอยด้ตามปกติราคาวัถุดิบนำข้าสูงขึ้จากปัจจบันปะมา 10-15% อัตราแลกเลี่ยน อยู่ที่34-35 บาทต่อเหรยญสหรัฐ าคาน้ำมนดิบดูไบเฉลี่ย 65-70 เรียญฯต่บาร์เรล แต่หากเกดเหตุการณ์รุนแรง หรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงอาจทำใหสมมติฐาเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ ส่วนแนวโน้ราคาสินค้าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังทรงตัว อย่างไรก็ตามหกาปีนี้ ราาสินค้าปรับขึ้นจริงกรมจะยึดหลักกกรพิจารณาตามราคาต้นทุนที่ท้จริงที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐบล

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาผลระทบเบื้องต้น จาการปรับาราคาขึ้นของน้ำมันดีเซล โดยคำนวณจากราคาดีเซลหมุนเร็ว ณ วันที่ 22 มิ.ย.52 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 27.39 บาทต่อลิตร เมื่อเปรียเทียบกับราคาในเดือนพ.ค.52 ที่อยู่ที่ 23.84 บาทซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ 73รายการปรบเพิ่มข้นสูงสุด 1.0185% และต่ำสด 0.0139% แต่เป็นการปรับขึ้นไม่มากนักและมีผลทำห้ราคาขายสินค้าเล่านั้น้องปรับขึ้นตามไปด้วย

โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ต้นทุนเพิ่มขึ้นต่ำสุด 0.0157% สูงสุด 0.3877% หมวดของใช้ประจำวัน ต่ำสุด 0.0252% สูงสุด 0.1465% หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ต่ำสุด 0.0339% สูงสุด 0.2461% หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้ ต่ำสุด 0.0579% สูงสุด 0.2111% หมวดขนส่ง ต่ำสุด 0.0139% สูงสุด 0.1717% หมวดวัสดุก่อสร้างต่ำสุด 0.0232% สูงสุด 0.0185% หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ต่ำสุด 0.0140%สูงสุด 0.0647% หมวดปัจจัยการกษตร ต่ำสุด 0.0182% สูงสุด 0.1237% และหมวดทั่วไป ต่ำสุด 0.0241% สูสุด 0.0502%

มีรายงานว่า ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ กลุ่มเกษตรกผู้เลี้ยงกุ้งทั่ประเทศจะเดินทางมากระทรงพาณิชย์เพื่อกดดันให้กระทรวงพาณิชย์เปิดรับจำนำกุ้ง จากเดิมที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) อนุมัติเงิน 600ล้านบาทให้กลุ่มสหกรณ์ช้เงินหมุนเวียนเพื่อทำคอนแทรกฟาร์มิ่งรับซื้อกุ้งกับห้องเย็น อย่างไก็ตาม หากจะมีการเปิดรับจำนำจริง ในสัปดาห์หน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสรุปราคารับจำนำที่เหมะสม

นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการเปิดสัมมนาในหัวข้อทำโชห่วยให้รวยอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือกันหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่าธุรกิจค้าปลีกมีความสำคัญ ซึ่งหากผู้ประกอบการค้าปลีกมีน้อยรายก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยแย่ไปด้วย ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์พยามพลักดันร่างกม.ค้าปลีกฯ เพื่อช่วยผู้ประกอบการโชห่วยแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงต้องพยายามทำต่อไปเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป

"จะให้รายย่อยไปแข่งขันกับรายใหญ่ก็สู้ไม่ได้ แต่ต้องทำให้ธุรกิจรายใหญ่มาเอื้อเฟื้อและสร้างเครือข่ายธุรกิจรายย่อยให้ไปรวมตัวกัน เพื่อความอยู่รอดในการต่อรองราคาและซื้อสินค้า"

สำหรับความความหน้าในการผลักดันร่าง พรบ.ค้าปลีกฯ นั้นได้กำหนดกรอบว่าไว้ในระยะกลางประมาณ 3 ปี โดยเสนอให้รัฐกำหนดระบบโซนนิ่งของห้างค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่ ให้ออกไปอยู่นอกเมือง เพื่อให้ร้านค้าโชห่วยอยู่ได้ ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือจากมหาดไทย และอบต. อบจ. ช่วยกันดูแลค้าปลีกรายย่อย โดยใช้กฎหมายเทศบัญญัติในการออกกฎหมายควบคุมการก่อสร้าง ก็สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง

นายยรรยง กล่าวต่อไปถึงการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงว่าต้องยอมรับว่าการผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของห้างโมเดิรน์เทรดนั้น บางตัวเช่น น้ำมันพืช สามารถช่วยแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงในท้องตลาดได้ ซึ่งตรงนี้ต้องดูเป็นรายสินค้าไปว่าผู้ผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์มีเจตนาอย่างไร

"สินค้าเฮ้าส์แบรนด์บางรายการก็เป็นการช่วยทำให้ราคาสินค้าลดลง ช่วยแก้ปัญหาสินค้าแพงได้ แต่ต้องไม่ใช่เป็นการขายสินค้าต่ำกว่าทุนหรือมีต้องการทำลายคู่แข่งขันหรือโชห่วยรายเล็กๆ "   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us