กู๊ดเยียร์ไม่หวังพึ่งตลาด OEM เปิดเกมรุกเซ็กเมนท์ยางรถยนต์ทดแทน หรือ REM ด้วยยาง ดูราพลัส รุ่นใหม่ เจาะตลาดรถยนต์นั่ง เน้นคุณสมบัติด้าน Functional เหนือคู่แข่งเรื่องอายุการใช้งาน 100,000 กิโลเมตร ขณะที่มิชลิน ยังเดินหน้าสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์แบบ Emotional กับกลุ่มเป้าหมาย แม้ราคาจะสูงกว่า ล่าสุดบริดจสโตนเตรียม ส่งยางรุ่นใหม่สกัดคู่แข่งโต
การหดตัวอย่างรุนแรงของตลาดรถยนต์เมืองไทยในปีนี้ เริ่มส่งผลกระทบกับตลาดชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ โดยเฉพาะตลาดยางรถยนต์ป้อนโรงงานผลิตรถยนต์ หรือ OEM ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะจากปริมาณยอดขายทั้งปี 2552 ที่คาดกันว่าจะมีตัวเลขลดลงจากปีก่อนกว่า 100,000 คัน ทำให้ปริมาณยางในเซ็กเมนท์นี้หายไปกว่า 400,000-500,000 เส้นด้วยเช่นกัน
ดังนั้นผู้ผลิตยางสำหรับตลาด OEM จึงต้องปรับแผน ด้วยการหันมาเน้นทำตลาดยางรถยนต์ในเซ็กเมนท์ REM หรือยางเปลี่ยนทดแทน ซึ่งมีปริมาณใกล้เคียงกัน และปัจจุบันมีแบรนด์ยางรถยนต์ทั้งใหญ่และเล็กอยู่ในตลาดค่อนข้างมาก และการที่แบรนด์ที่มีสินค้าในตลาด OEM รายใหญ่อย่าง กู๊ดเกียร์จะหันมาเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด REM ก็ยิ่งทำให้ยางในเซ็กเมนท์นี้ มีการแข่งขันกันดุเดือดยิ่งขึ้น
สำหรับภาพรวมตลาดยางรถยนต์ที่มีมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทหรือราวๆ13-14ล้านเส้นต่อปี มีส่วนที่เป็นตลาด OEM มากถึง 7 ล้านเส้นต่อปี ส่วนยางทดแทน REM นั้นมีปริมาณ 6 ล้านเส้นต่อปี ปัจจุบัน บริดจสโตนเป็นแบรนด์ที่ครองตลาดส่วนใหญ่ไว้ ทั้ง OEM และ REM มิชลิน ตามมาเป็นอันดับ 2 และกู๊ดเกียร์อยู่ในอันดับรองลงมา
ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ยังส่งให้ผู้บริโภครถยนต์ส่วนหนึ่งต้องมีการปรับตัว ด้วยการชลอการซื้อรถใหม่ และหันมาปรับปรุงยืดอายุการใช้งานรถยนต์ที่มีอยู่ ทำให้เชื่อกันว่าตลาดชิ้นส่วนอะไหล่ และอุปกรณ์บำรุงรักษารถยนต์จะมีการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งตัวเลขปริมาณรถยนต์สะสมที่อยู่ในตลาดเวลานี้อยู่ที่ราว 6-7 ล้านคัน
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยางกู๊ดเยียร์ใหม่ ในรุ่น ดูราพลัส สำหรับรถยนต์นั่ง พร้อมกับสร้างจุดขายให้กับตัวผลิตภัณฑ์ในด้านอายุการใช้งานถึง 100,000 กิโลกรัม เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์กู๊ดเยียร์ในตลาดที่มีการแข่งขันกันสูง
ริชาร์ด เฟลมมิ่ง กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย บริษัท กู๊ดเยียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า แนวโน้มของตลาดทดแทนมีอัตราการเติบโตสูง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่คาดว่าจะโตต่อเนื่อง ดังนั้นกู้ดเยียร์จึงมีการส่งสินค้าใหม่เข้ามายังตลาด ซึ่งมีความคุ้มค่าในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ยาวนานเพราะเมื่อเปรียบเทียบอายุการใช้งานของยางทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 - 50,000 กิโลเมตรแต่ยางตัวใหม่ของกู้ดเยียร์ได้มีการพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานที่ยาวนานกว่า 100,000กิโลเมตร ไม่เพียงเท่านั้นราคาเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่าใกล้เคียงแต่กู้ดเยียร์สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า
ที่ผ่านมากู๊ดเยียร์ จะให้ความสำคัญกับการสร้างจุดขายในด้าน Functional ให้กับตัวผลิตภัณฑ์มาโดยตลาด อย่างเช่น ดูราพลัส สำหรับรถปิกอัพที่เน้นคุณสมบัตการรีดน้ำ และความแข็งแรงของแก้มยาง การยึดเกาะถนน ส่วนในเรื่อง Emotional ประเภทความนุ่มความเงียบนั้น กู๊ดเยียร์มองเป็นเรื่องรอง เพราะฉะนั้นการสื่อสารตัวผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภคของกู๊ดเยียร์จึงเน้นไปที่คุณสมบัติหลักของยางรถยนต์คือ การยึดเกาะ การรีดน้ำ และล่าสุดคือการเพิ่มอายุการใช้งานให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความแตกต่างให้กับตัวผลิตภัณฑ์กับคู่แข่งในตลาด
ส่วนบริดจสโตน นั้นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่ผ่านมา จะเน้นทั้งคุณสมบัติที่เป็น Functional ควบคู่ไปกับ Emotional คือเป็นยางที่เน้นการใช้งานยึดเกาะในทุกสภาพถนน และมีการออกแบบดอกยางใหม่ๆ เพื่อให้ยางมีความเงียบ และความนุ่นนวล ล่าสุดบริดจสโตน เตรียมเปิดตัวยางรุ่นใหม่ในเซ็กเมนท์ REM ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นการตอบโตคู่แข่งที่ต้องการเพิ่มยอดขายในตลาดยางดังกล่าว
ที่ผ่านมาแม้ยางของบริดจสโตน จะมีราคาสู่กว่าคู่แข่ง แต่ด้วยชื่อเสียงที่โดดเด่น และได้รับการยอมรับมากกว่า ทำให้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากที่สุด นอกจากนี้บริดจสโตนมองว่าความแข็งแกร่งด้านตัวแทนจำหน่ายและเครือข่ายถือเป็นหัวใจหลักในการเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาจึงได้เห็นบริดจสโตนเข้าไปซื้อกิจการของเชลล์ ออโต้เซิร์ฟ ซึ่งเป็นศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร และเปลี่ยนชื่อเป็น แอค โดยมีจำนวนสาขาที่ให้บริการ 64 แห่ง รวมไปถึงศูนย์บริการในเครือข่ายที่มีอยู่แล้วอย่าง ค๊อกพิท จำนวน 150 แห่งภายในปีนี้ และออโต้บอยประมาณ 60แห่ง ซึ่งเมื่อรวมตัวแทนจำหน่ายและเครือข่ายที่มีอยู่ก็ทำให้ความได้เปรียบในการกระจายสินค้าเพื่อเข้าหาผู้บริโภคของพวกเขาเหนือคู่แข่งขันรายอื่นๆในตลาด
นอกจากนี้ยังมีแผนจะขยายศูนย์บริการ ประเภทโมเดิร์นเทรด ของตนเองอย่าง ค๊อกพิทและออโต้บอย ให้ครบ 500 แห่ง เพื่อที่จะรองรับกับการขยายตัวของตลาดREMในอนาคต ขณะที่ศูนย์ยางเพื่อรถบรรทุก บีทีซี ก็มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาให้ได้ถึง 60 แห่งด้วยเช่นกัน
ด้านมิชลินนั้น ที่ผ่านมาเน้นทำตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นในด้าน Functional ควบคู่กับการสร้าง Emotional ให้กับตัวสินค้า แต่ Functional ของมิชลิน ที่โดดเด่นคือ คุณสมบัติยางประยยัดน้ำมัน เนื่องจากมั่นใจว่าผู้บริโภคให้การยอมรับในเรื่องการยึดเกาะถนน มาก่อนแล้ว โดยเฉพาะแบรนด์มิชลิน มีจุดแข็งในเรื่องยางสมรรถนะสูง ให้การยึดเกาะถนนที่ดี และก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวยางในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางในรุ่น ไพรมาซี่ แอลซี นอกจากนั้นแล้วยังจะทำการเปิดตัวยางรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดขายของพวกเขาเกี่ยวกับยางประหยัดน้ำมัน และเป็นยางที่นุ่มนวล ไร้เสียงรบกวน
สำหรับยุทธศาสตร์ของมิชลินที่ใช้เจาะตลาดนั้น คือความนุ่ม เงียบ โดยถือเป็นจุดขายของพวกเขา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าในระดับพรีเมียม ทำให้การแข่งขันเรื่องราคาของค่ายนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามตลาดรถหรูที่หดตัวได้กระทบกับกลุ่มยางในระดับนี้ ทำให้มิชลินที่เคยมั่นใจในยอดขายถึงกับต้องมีกรปรับตัว โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะตลาดยางรถยนต์ในกลุ่มต่างๆมากขึ้นการเปิดตัวยางในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางในรุ่น ไพรมาซี่ แอลซี นอกจากนั้นแล้วยังจะทำการเปิดตัวยางรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องและยังคงชูจุดขายของพวกเขาเกี่ยวกับยางประหยัดน้ำมัน และเป็นยางที่นุ่มนวล ไร้เสียงรบกวน
สำหรับยุทธศาสตร์ของมิชลินที่ใช้เจาะตลาดนั้น คือความนุ่ม เงียบ โดยถือเป็นจุดขายของพวกเขา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าในระดับพรีเมียม ทำให้การแข่งขันเรื่องราคาของค่ายนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามตลาดรถหรูที่หดตัวได้กระทบกับกลุ่มยางในระดับนี้ ทำให้มิชลินที่เคยมั่นใจในยอดขายถึงกับต้องมีกรปรับตัว โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะตลาดยางรถยนต์ในกลุ่มต่างๆมากขึ้น Functionalการเปิดตัวยางในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดกลางในรุ่น ไพรมาซี่ แอลซี นอกจากนั้นแล้วยังจะทำการเปิดตัวยางรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องและยังคงชูจุดขายของพวกเขาเกี่ยวกับยางประหยัดน้ำมัน และเป็นยางที่นุ่มนวล ไร้เสียงรบกวน
สำหรับยุทธศาสตร์ของมิชลินที่ใช้เจาะตลาดนั้น คือความนุ่ม เงียบ โดยถือเป็นจุดขายของพวกเขา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าในระดับพรีเมียม ทำให้การแข่งขันเรื่องราคาของค่ายนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามตลาดรถหรูที่หดตัวได้กระทบกับกลุ่มยางในระดับนี้ ทำให้มิชลินที่เคยมั่นใจในยอดขายถึงกับต้องมีกรปรับตัว โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ที่เจาะตลาดยางรถยนต์ในกลุ่มต่างๆมากขึ้นยุทธศาสตร์ของมิชลินที่ใช้เจาะตลาดนั้น คือความนุ่ม เงียบ โดยถือเป็นจุดขายของมิชลิน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าในระดับพรีเมียม ทำให้การแข่งขันเรื่องราคาของค่ายนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นเท่าไรนัก
|