Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์22 มิถุนายน 2552
อินเด็กซ์ฯ เดินเกม Personal Branding พาซูเปอร์สตาร์ ต่อยอดให้ซูเปอร์สตาร์             
 


   
www resources

Index Event Agency Home Page

   
search resources

อินเด็กซ์ อีเวนต์ เอเจนซี่, บมจ.
Branding




โมเดลธุรกิจ Personal Branding ที่อินเด็กซ์ อีเวนท์ เอเจนซี่ เปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเป็นธุรกิจใหม่ในประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ 2 พี่น้อง เกรียงไกร และเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ยังเชื่อว่า ธุรกิจนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลก การสร้างแบรนด์ให้กับบุคคลเสมือนเป็นผลิตภัณฑ์ โดยมองหาช่องทางสร้างรายได้จากศักยภาพรอบตัวที่บุคคลนั้นมีอยู่

ความกว้างใหญ่ของขอบข่ายงาน Personal Branding ไม่เพียงแต่อินเด็กซ์ฯ ต้องเปิดบริษัทใหม่ ในชื่อ ยังดี ขึ้นมาดูแลเท่านั้น หากแต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อินเด็กซ์ อีเวนท์ เอเยนซี่ ต้องปรับเปลี่ยนชื่อองค์กรเป็น อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เพื่อสื่อสารถึงการเปิดกว้างของธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเป้าอยู่กับงานอีเวนต์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ต้องวิ่งไปสู่การเป็นผู้จัดคอนเสิร์ต การผลิตรายการโทรทัศน์ ผลิตหนังสือ หรือแม้กระทั่งผลิตสินค้าที่ระลึก

ยังดี วางเป้าหมายมองหาลูกค้าเพื่อสร้างแบรนด์ ไปใน 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย Artist, Celebrity และ Magazine ที่ล้วนแต่ต้องประสบปัญหารายได้หดหายไปตามสภาพเศรษฐกิจ มี "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค เป็นแบรนด์แรก โดยวางแผนสร้างรายได้จากความสามารถที่ดี้มีอยู่รอบด้าน ทั้งที่ผ่านไปแล้วอย่าง คอนเสิร์ตทุ่งหญ้า สายลม และนมวัว ในไตรมาสแรก และโชว์มหรสพพูดและเพลง เฉลียง 3 ฝ่าย ตอนคนจะไทย ใครจะทน ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไปจนถึงการผลิตรายการโทรทัศน์ และการรับแต่งเพลงให้กับองค์กรต่างๆ โดยตั้งเป้ารายได้แบรนด์แรกในปีแรกมากกว่า 120 ล้านบาท

ล่าสุดยังดีได้เตรียมต่อยอดแบรนด์ของดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค อีกครั้ง ด้วยการจับมือกับ LOVEiS? ค่ายเพลงอินดี้ของบอย โกสิยพงษ์ จัดโปรเจกต์ยักษ์ มหกรรมดนตรี deeBOYD POP FESTที่มีการนำเอาส ?ดี้?นิติพงษ์ และบอย โกสิยพงษ์ 2 ศิลปินนักแต่งเพลงที่โด่งดังที่สุดของเมืองไทยขึ้นเวทีพร้อมกันเป็นครั้งแรก พร้อมศิลปินนักร้องชื่อดังทั้งวงการอีกมากมายที่จะเข้าร่วมงานในครั้งนี้

เกรียงไกร กาญจนะโภคิน เผยว่า หลังจากที่ยังดีประสบความสำเร็จสามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักผ่านโปรเจกต์แรก คอนเสิร์ตทุ่งหญ้า สายลม และนมวัวและเฉลียง 3 ฝ่าย ยังดีได้เดินหน้าโปรเจกต์ใหม่ตามแผนที่วางไว้ โดยครั้งนี้มีการต่อยอดแบรนด์ของดี้ นิติพงษ์ ด้วยการนำอีกหนึ่งนักแต่งเพลงชื่อดัง บอย โกสิยพงษ์ ที่มีผลงานทางด้านดนตรีเป็นที่ยอมรับในความเป็นอาร์ทิสสูง มาเข้าร่วมงาน ซึ่งเมื่อรวมกับจุดแข็งด้านต่างๆ ของยังดี เช่นการบริหารจัดการ, การตลาด, การประชาสัมพันธ์, ทีมขาย ทีมครีเอทีฟ ทีมงานเพลง ทีมงานด้านกิจกรรม และกลุ่มศิลปินคุณภาพที่จะเข้าร่วมงาน ทั้งหมดจึงเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอย่างที่ไม่มีใครทำมาก่อน

'คอนเสิร์ตในครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะไม่มีการแบ่งค่ายแบ่งพวก ถือเป็นคอนเสิร์ตที่เราอยากจะให้เกิดขึ้นมานานแล้ว ส่วนเรื่องจำนวนนักร้องศิลปินที่อยากจะเข้าร่วมร้องเพลงในงานนี้ก็ต้องบอกว่าเยอะ เพราะทั้งดี้และบอย ต่างเป็นคนเบื้องหลังที่สร้างผลงานมาอย่างมากมาย ส่วนในแง่ของโปรดักชั่นแสงสีเสียง ก็มีการเตรียมความพร้อมกันเป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วยังนำประสบการณ์ที่เคยจัดคอนเสิร์ตของอารมณ์ดี้ เข้ามาปรับปรุงจัดโซนนิ่งเพิ่มเติม หากิจกรรมและเพิ่มพื้นที่หรือส่วนต่างๆเข้ามาอาทิ ห้องอาบน้ำ ขณะที่สปอนเซอร์ก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนการตอบรับจากผู้ชมนั้นแม้ว่าทั้ง 2 คนจะมีกลุ่มผู้ฟังที่ชัดเจน ซึ่งอาจจะเป็นคนละกลุ่มแต่ก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีไม่แตกต่างจากคอนเสิร์ตในครั้งแรกของดี้เลย '

โดยโปรเจกต์ความร่วมกันของดี้ นิติพงษ์ และบอย โกสิยพงษ์ เริ่มแรกจะเป็นการประเดิมมหกรรมดนตรี 'deeBOYD POP FEST ส่วนจะมีการต่อยอดในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป หรืออาจเป็นการร่วมมือกันในระยะยาวหรือไม่ จะพิจารณาจากผลการตอบกลับจากงานนี้งานแรก แต่คาดว่าเบื้องต้นอาจจะมีการนำสินค้าที่ระลึกออกมาจำหน่าย

เกรียงไกร กล่าวว่าแนวทางดำเนินธุรกิจของยังดี จะวางรูปแบบเน้นหาพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ ที่สามารถสร้างรายได้โดยตรงและสามารถนำมาต่อยอดได้เลยทันที ส่วนแบรนด์ใหม่ๆนั้นยังไม่มีแผนงานที่จะพัฒนา โดยการจับมือกันนั้นจะเป็นไปในรูปแบบการซินเนอยีธุรกิจร่วมกัน ซึ่งโปรเจกต์แรกๆ ของยังดีที่เน้นไปที่งานคอนเสิร์ตเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตทุ่งหญ้า สายลม และนมวัวหรือคอนเสิร์ตล่าสุดที่จะจัดคือ deeBOYD POP FEST เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจโชว์บิซที่เป็นคอนเสิร์ตนี้เป็นน้ำบ่อใหญ่ที่สามารถเห็นผลได้เร็ว แต่ยังดีก็จะยังคงเดินหน้าพัฒนาโปรเจกต์อื่นๆ ภายใต้แนวทางของ Personal Branding ต่อไป โดยในเร็วๆ นี้ มีแผนเดินหน้าต่อยอดแบรนด์อีก 3 โปรเจกต์ใหญ่ๆ ที่ไม่ใช่คอนเสิร์ต ซึ่งจะออกมาในรูปแบบที่แตกต่างไม่เหมือนใครและคาดว่าผลจากการรุกครั้งนี้จะส่งให้ผลประกอบการก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ที่120 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน

'คอนเสิร์ตแรกที่ยังดีได้จัดคือ ทุ่งหญ้า สายลม และนมวัว ถือว่าผลที่ออกมาคุ้มค่ามากในแง่ของการสร้างแบรนด์ เพราะสามารถสร้างชื่อของยังดีให้เป็นที่รู้จัก และส่งผลให้มีกลุ่มลูกค้าเข้ามาให้ความสนใจในรูปแบบของ Personal Branding มากขึ้น ซึ่งยังดีก็กำลังเตรียมโปรเจกต์ต่างๆที่จะออกมาสอดรับกับความต้องการของลูกค้าเหล่านี้อีก 3แบรนด์ใหญ่ภายในปีนี้'

สำหรับ มหกรรมดนตรี 'deeBOYD POP FEST' มีความแปลกใหม่ที่นอกจากจะมีการแสดงคอนเสิร์ตแล้ว ยังได้วางแผนการเนรมิตพื้นที่ 600ไร่ รอบเวทีแสดงให้เป็นแหล่งรวบรวมของเทศกาลดนตรี, เทศกาลอาหาร,เทศกาลเครื่องเล่นเอาท์ดอร์, เทศกาลถ่ายรูปและการแคมป์ปิ้ง สำหรับdeeBOYD POP FESTกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 5-6 ธันวาคม 2552 รวม 2 วัน 2 คืน ตั้งราคาบัตรไว้ที่ 1,800-2,000บาท และจำกัดจำนวนบัตรเข้างานไว้ที่ 12,000 คนต่อวัน โดยพื้นที่ที่ใช้จัดนั้นสามารถรองรับผู้ชมจริงจำนวน 18,000 คน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us