|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บล.กสิกรไทย เปิดแผนครึ่งปีหลัง เล็งเพิ่มมาร์เกตติ้ง 90 คน–ลูกค้ารายใหญ่เป็น 1 พันราย พร้อมอัดโปรโมชันปล่อยสินเชื่อซื้อขายหลักทรัพย์ ก่อนจะเดินทางโรดโชว์ดึงกองทุนต่างประเทศ หวังดันมาร์เกตแชร์สิ้นปีเข้าเป้า 4% ด้านผู้บริหาร แย้มไตรมาส 2/52 พลิกเป็นกำไรจากไตรมาสแรกขาดทุน 39 ล้านบาท ขณะเดียวกันวาดฝันปี 2 ปี ก้าวสู่ตำแหน่งท็อปทรี
นางสาวณัฐรินทร์ ตาลทอง กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 ว่า บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะรับเจ้าหน้าที่การตลาด (มาร์เกตติ้ง) เพิ่มอีก 90 คน จากปัจจุบันที่มี 55 คน ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังมีมาร์เกตติ้งเพิ่มเป็น 145 คน และคาดว่าจะทำให้มีลูกค้าเพิ่มเป็น 1.2 หมื่นบัญชี จากปัจจุบันที่มี 9 พันบัญชี
ขณะเดียวกัน บริษัทจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าบุคคลพิเศษ (ไฮด์เน็ตเวิร์ค) หรือลูกค้ารายใหญ่เพิ่มเป็น 1,000 ราย ภายในต้นเดือนกันยายนนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 500 ราย และบริษัทจะมีการจัดโปรโมชันให้กับนักลงทุนที่เข้ามาขอสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จินโลน) เพื่อให้นักลงทุนเข้ามาขอสินเชื่อกับบริษัทมากขึ้น
โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้เพิ่มจำนวนหุ้นที่ปล่อยมาร์จิ้นเป็น 100 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนี SET100 จากก่อนหน้านี้ที่มีการปล่อยเพียง 50 บริษัท มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทคาดว่าตลาดหุ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะไตรมาส 4/52 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทมั่นใจว่าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 4%
“ลูกค้าไฮด์เน็ตเวิร์ค หรือลูกค้ารายใหญ่ จะต้องมีพอร์ตลงทุนกับบริษัทมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่การเพิ่มขึ้นจะมาจากลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย ที่การลงทุนในตลาดหุ้นผ่านบล.อื่นจำนวนกว่า 70,000 ราย ส่วนโปรโมชันการปล่อยมาร์จินจะเป็นลักษณะเช่น หากนักลงทุนที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงจะได้รับอัตราดอกเบี้นพิเศษ รวมถึงการรับมาร์เกตติ้งเพิ่ม จะทำให้มั่นใจว่ามาร์เกตแชร์จะไม่ต่ำกว่า 3% อย่างแน่นอน” นางสาวณัฐรินทร์ กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทจะร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจคือ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) จะมีการเดินทางไปนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ประเทศในแถบเอเชีย เช่น อินโดนิเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 14-20 กรกฎาคม 2552 เพื่อไปให้ข้อมูลนักลงทุนต่างประเทศเพื่อที่จะเข้ามาเป็นลูกค้า โดยสามารถที่จะส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านระบบ (DMA) ซึ่งผ่านระบบของบลูมเบิร์ก ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศรู้จักบลูมเบิร์กอยู่แล้ว
นางสาวณัฐรินทร์ กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีต้นทุนในการซื้อขายหุ้นต่ำ สะดวกรวดเร็ว และสามารถส่งคำสั่งเองได้ โดยไม่ต้องเซ็นสัญญาในการเป็นการทำสัญญาเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะคู่ค้า (Exclusive Partner ) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีลูกค้าสถาบันต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 10% เป็น 40% จากปัจจุบันที่สัดส่วนลูกค้าสถาบัน 30% ที่เหลือเป็นนักลงทุนรายย่อย
นอกจากนี้ การไปโรดโชว์ดังกล่าวยังเป็นการร่วมมือกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในการประสานงานในเรื่องการเชื่อมโยงตลาดหุ้นอาเซียน (อาเซียนลิ้งค์เกจ)
สำหรับผลการดำเนินงานนั้น นางสาวณัฐรินทร์ กล่าวว่า ไตรมาส 2/52 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้รายได้จากบริการที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการ (M&A) และรายได้จากค่าธรรมเนียนในการซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชัน) หลังจากมูลค่าการซื้อขายในไตรมาส2/52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากไตรมาส1/51 เฉลี่ยอยู่ที่ 8. 8 พันล้านบาท ทำให้บริษัทกลับมาพลิกเป็นกำไรไตรมาส2/52 จากไตรมาส1/52 ที่มีผลขาดทุน 39 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าภายในอีก 2 ปีจะเป็นโบรกเกอร์ติด 1 ใน 3 ของประเทศ โดยอาศัยจุดแข่งของธนาคารกสิกรไทยไทย และจากการให้บริการที่ครบวงจรเกี่ยวกับตลาดทุนและตลาดเงิน พร้อมเน้นให้คำแนะนำที่ดีกับนักลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนที่ดี
“เมื่อเริ่มก่อตั้งบริษัท เราได้ตั้งเป้าจะเป็นโบรกเกอร์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดติดอันดับ 1 ใน 5 ภายใน 5 ปี แต่ได้ล่าช้าออกไปอีก 1 ปี จากภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้อ ขณะที่ด้านจุดคุ้มทุนนั้นบริษัทสามารถมีกำไรภายใน 2 ปี ซึ่งถือว่าเร็วมาก แต่การขึ้นท็อปทรีภายในระยะเวลา 6 ปี ถือว่าไม่ได้ล่าช้าแต่อย่างใด”นางณัฐรินทร์ กล่าวว่า
นายวรวัจน์ สุวคนธ์ กรรมการผู้จัดการ สายงานงานวาณิชธนกิจ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้การแต่งตั้งแล้วจำนวน 15 บริษัท แบ่งเป็น การเป็นที่ปรึกษาในการนำบริษัทเข้าจดเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จำนวน 5 บริษัท และงานควบรวมกิจการ 10 ดีล ซึ่งคาดว่าในครึ่งปีหลังจะสำเร็จได้ 5 ดีล
|
|
|
|
|