Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2530
บุญศักดิ์ วัฒนหฤทัย KING OF BOUTIQUE             
 

   
related stories

ผู้จัดการรุ่นใหม่ในสายตา "ผู้จัดการ"

   
www resources

โฮมเพจ บริษัท โดมอน (1987) จำกัด

   
search resources

โดมอน (1987), บจก.
บุญศักดิ์ วัฒนหฤทัย
Garment, Textile and Fashion




"เราไม่ใช่ดีไซเนอร์ 100% เราเป็นพ่อค้า 100% การที่เราได้รับความสำเร็จ เพราะเราไม่ได้ถือว่าเราเป็นดีไซเนอร์ ดีไซเนอร์จะไม่รู้จักธุรกิจ เราเอาเสื้อผ้ามาทำเป็นธุรกิจ ไม่ได้ทำออกมาโชว์อย่างเดียว ทำแล้วต้องขายได้"

ที่ร้านซาซูยะ ถนนตะนาว บางลำพู ในมุมอับที่ไอแอร์เข้าไม่ถึง มีเคาน์เตอร์ตั้งไว้ด้วยเครื่องคิดเลขรุ่นเก่าใหญ่เทอะทะ หนังสือแฟชั่นหลากภาษาจากทุกมุมโลกกองระเกะระกะ ผนังสองด้านประดับด้วยบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ใบสมัครงานและกระดาษบันทึกอื่น ๆ

ระหว่างผนังห้องและเคาน์เตอร์นั้นชายวัย 46 ใบหน้าเรียบเฉย ผมสั้นเกรียนตัดแต่งอย่างดี หุ่นมะขามข้อเดียวของเขาตกแต่งไว้ด้วยเสื้อยืดคอกลมสีมอ กางเกงแม้พอจะดูออกว่าเป็นบูติกแต่สีซีดจาง เขานั่งเหงื่อตกซิก ๆ ตาจ้องดูวิดีโอแฟชั่นล่าสุดจากปารีสญี่ปุ่น ฯลฯ หูเงี่ยฟังเสียงลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน นาน ๆ จะหยิบกระบอกน้ำอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้นซดคลายร้อน รับโทรศัพท์พลางตะโกนสั่งงานลูกน้องพลาง น้ำเสียงคำสั่งแม้ฟังดูแปร่งเปร่าไม่ชัดนัก แต่คนที่ทำงานกับเขาต้องเข้าใจด้วยสัญชาตญาณและความคุ้นเคยทั้งไม่รอช้าที่จะปฏิบัติตามคำสั่งทันทีเมื่อสิ้นเสียง

ผู้ที่มีกิจวัตรและออกคำสั่งดังกล่าวที่ร้านซาซูยะได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น "บุญศักดิ์ วัฒนหฤทัย" เจ้าของกิจการบูติกเครือโดมอน คนที่คนในวงการบูติกเรียก "เฮียหมา" กันถ้วนทั่ว

"เฮียหมาเป็นคนใจร้อนสั่งอะไรแล้วอยากได้ทันที ต้องทำทันที" คนใกล้ชิดบุญศักดิ์ พูดถึงสไตล์หนึ่งของการทำงานให้ฟัง

แม้สัมผัสบุคลิกภายนอกคนทั่วไปอาจจะรู้สึกว่าบุญศักดิ์น่าจะเป็นคนเฉื่อยชาแต่โดยเนื้อแท้เขากลับรวดเร็วทั้งความคิดและการกระทำ

จากการกระทำอะไรต่อมิอะไรไดเร็วเท่าความคิดนี้ คงเป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้บุญศักดิ์ไม่พลาดโอกาสงาม ๆ ในธุรกิจบูติกที่เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวเร็วปานสายฟ้าแลบ ทั้งสามารถขยายอาณาจักรโดมอน ให้เติบโตอย่างเช่นทุกวันนี้

บุญศักดิ์ก้าวเข้ามาในธุรกิจนี้ไม่ถึงทศวรรษ เริ่มจากร้านเสื้อห้องแถวเพียงร้านเดียวไม่มีสินค้า BRAND NAME ของตัวเองจนถึงวันนี้กิจการบูติกในเครือโดมอนมีสินค้า BRAND NAME ต่าง ๆ เกือบ 20 BRAND ทั้งบูติกผู้ชายและผู้หญิง เช่น DOMON, GRASS MEN, BIGI, YES FOR MEN, YAMAMOTO, IS, PASHY, KANSAI,- NICOLE, MIGI, MOGA, WORK SHOP, G 3 CO., COMME DES GARCONS เป็นต้น

มีร้านบูติกในเครือแต่ละร้านพื้นที่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50 ตารางเมตรกระจายอยู่ตามศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่ราชดำริอาเขต 3 ร้านสยามเซ็นเตอร์ 6 ร้าน ชาญอิสระทาวเวอร์ 2 ร้าน มาบุญครอง เดอะมอลล์รามคำแหงและเซ็นทรัลลาดพร้าวแห่งละ 1 ร้าน ล่าสุดเปิดร้านสาขาต่างจังหวัดแห่งแรกที่สีสวนพลาซ่า เชียงใหม่ และกำลังตกแต่งที่สีลมพลาซ่า อีก 2 ร้าน

นอกจากนี้ยังผลิตเครื่องประดับให้ครบสูตรความหล่อความสวย ตั้งแต่ศีรษะ จรดปลายเท้า เนคไท เข็มขัด กระเป๋า ถุงเท้า รองเท้า ขยาย LINE ออกไปยันสมุด ดินสอ ปากกา แม้กระทั่งชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำ

เขาเริ่มต้นจากคนขายข้าวสารแยกครอบครัวออกมาขายเสื้อผ้าแล้วก็โด่งดังขึ้นมากับแฟชั่นชุดเปรี้ยวภายใต้เครื่องหมายการค้า โดมอน

ความสำคัญของเครือโดมอนไม่อาจมองเพียงว่าเป็นบูติก MIDDLE HIGH (บูติกที่มีฝีมือทัดเทียมกับบูติกจากดีไซเนอร์ TOP TEN แต่ราคาถูกกว่า) เท่านั้น เครือโดมอนวันนี้มีผลกระทบต่อคนจำนวนมากต่อธุรกิจบูติกและธุรกิจข้างเคียงด้วย

ทรัพย์สินทั้งหมดเมื่อรวมร้านค้าในเครือและร้านในศูนย์การค้าต่าง ๆ กว่า 10 แห่ง รวมโรงงานตัดเย็บที่มีอุปกรณ์ทันสมัยสำหรับคนงาน 100 คน ประมาณการว่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ในศูนย์การค้าเปิดใหม่ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ชื่อดังหรือไม่ก็ตาม ถ้าจะขายพื้นที่สำหรับบูติกแล้วชื่อแรก ๆ ที่ศูนย์จะต้องนึกถึงคือ "โดมอน"

ในธุรกิจนิตยสารแฟชั่น งบโฆษณาในเครือโดมอนสามารถกำหนดความเป็นความตายของนิตยสารแฟชั่นบางฉบับได้ และงบโปรโมชั่นทั้งหมดมีผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจบูติกที่จะทำให้คึกคักหรือซบเซาได้เช่นกัน

ในตลาดผ้าหลายครั้งโดมอนเป็นผู้กำหนดแบบ สี ลวดลาย ให้ตลาดส่วนใหญ่คล้อยตามและหลายครั้งทำให้โรงงานทอและร้านผ้าร่ำรวยจากการเก็งกำไรตามแบบผ้าของโดมอนกันมาแล้ว

ในโลกของนายแบบนางแบบเริ่มเข้าไปมีบทบาทกำหนดการเกิดของพวกเขาเหล่านั้น

ให้ตายเถอะ บทบาทเด่นล้ำของเครือโดมอนนี้ เกิดจากน้ำมือของเถ้าแก่ที่ชื่อบุญศักดิ์เพียงคนเดียวจริง ๆ

จะว่าไปบุคลิกของบุญศักดิ์นั้นต่างจากบุคคลของสินค้าโดยสิ้นเชิง เขาไม่จัดอยู่ในผู้ชายประเภทหุ่นหรือหน้าตาดี แต่กลับต้องพัวพันกับผู้คนเหล่านี้ เขาไม่แต่งตัวนำสมัยเนี๊ยบ แต่กลับทำเสื้อผ้าเนี๊ยบ ๆ ให้คนนำสมัยใส่ ดูออกจะขัด ๆ กันอย่างสุดขั้วแต่บุญศักดิ์ก็อยู่ในธุรกิจนี้อย่างคนผู้ประสบความสำเร็จ

อาจเป็นเพราะเขาไม่ใช่ดีไซเนอร์หรือศิลปินโดยแท้ เขาเป็นเพียงพ่อค้า เขาทำธุรกิจ 100%

อดีตของบุญศักดิ์เริ่มที่บางลำพู ในครอบครัวคนแซ่เอ็ง เขาเป็นลูกชายคนที่ 3 จากลุกทั้งหมด 10 คน (ลูกบุญธรรม 2 คน) ของนายเม่งฮั้ว และนางหมุยเตียว เมื่อยังเล็กคนในครอบครัวและเพื่อน ๆ เรียกเขา "หมา" และชื่อนี้ก็ยังใช้เรียกมาจนถึงปัจจุบัน

พ่อแม่ของบุญศักดิ์เปิดร้านขายของชำสินค้าหลักคือข้าวสาร บุญศักดิ์ก็เหมือนพี่น้องทุกคนที่ต้องช่วยงานที่บ้าน ในวัยเยาว์เขาแบกข้าวสารส่งมาทั่วย่านบางลำพู

ด้วยมีพี่น้องมากบุญศักดิ์จึงได้เรียนจบเพียงชั้น ม.6 โรงเรียนเทเวศร์ศึกษา การที่ต้องช่วยงานที่บ้านและให้โอกาสน้องเรียนเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อจำกัดให้บุญศักดิ์หยุดขวนขวายหาความรู้ เขาค้าข้าวสารเวลากลางวัน กลางคืนเขาเรียนภาษาอังกฤษ และเมื่อแรกเปิดร้านขายเสื้อผ้า แม้งานจะยุ่งเพราะทำกันเพียง 2 คนกับภรรยา แต่เมื่อมีเวลาว่างเขาซื้อเทปภาษาญี่ปุ่นมาฟังและฝึกฝนการพูดเขียนด้วยตนเองด้วยหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะไปท่องญี่ปุ่น เขาคลั่งไคล้ญี่ปุ่นเหลือเกิน

เมื่อมีครอบครัวบุญศักดิ์ไม่สามารถดำเนินกิจการค้าข้าวกับครอบครัวต่อไปได้อีกเขาตัดสินใจเริ่มชีวิตเถ้าแก่ด้วยการค้าขายเสื้อผ้า ซึ่งเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงส่วนใหญ่

"เรื่องเสื้อผ้าเราไม่ถนัดหรอก แต่เห็นว่าเหมาะกับนิสัยชอบแต่งตัว พอเย็บเป็นบ้าง เพราะเคยทำกับพี่สาวมาก่อน" บุญศักดิ์ ย้อนอดีตให้ "ผู้จัดการ" ฟังถึงการเริ่มธุรกิจเสื้อผ้าโดยไม่ประสีประสา

แรกที่บุญศักดิ์เปิดร้านที่บางลำพู "ซาซูยะ" เป็นเพียงห้องแถวห้องเดียว สองคนกับภรรยาช่วยกันค้าขาย โดยสั่งเสื้อผ้าจากฮ่องกงเข้ามาเป็นส่วนใหญ่ กิจการเป็นไปด้วยดีบุญศักดิ์เริ่มสะสมทุนที่นี่

เวลานั้นข่าวสารแฟชั่นจากญี่ปุ่นหลั่งไหลเข้าเมืองไทยพอ ๆ กับสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ชื่อของ REPE และ JUN บูติกดังของญี่ปุ่นยั่วยวนบุญศักดิ์ยิ่งนัก เมื่อมีโอกาสเขาจึงไปญี่ปุ่นทันที ขณะนั้นโดมอนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในเครือ ROPE กำลังติดตลาดที่ญี่ปุ่น บุญศักดิ์นอกจากท่องเที่ยวดูกิจการเสื้อผ้า เขายังเหมาเสื้อโดมอนเข้ามา LOT ใหญ่ ขายได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

การไปญี่ปุ่นไม่เพียงทำให้บุญศักดิ์มีเงินก้อนเท่านั้น การได้เปิดตัวเองสู่โลกธุรกิจแฟชั่นอย่างแท้จริงได้เปลี่ยนแปลงความคิดการทำธุรกิจของเขา จากการเน้นเสื้อผ้าผู้หญิงเขาหันมาจับเสื้อผ้าบูติกผู้ชาย ยิ่งเมื่อบุญศักดิ์ไปญี่ปุ่นบ่อยขึ้นดูเหมือนแนวคิดการทำธุรกิจแบบญี่ปุ่นและบูติกสไตล์ญี่ปุ่นจะมีอิทธิพลต่อเขายิ่งขึ้น

แล้วก็ถึงวันที่บุญศักดิ์ให้กำเนิดโดมอนเขาเปิดร้านโดมอนครั้งแรกที่สยามเซ็นเตอร์ในปี 2523 ขณะนั้นแฟชั่นผู้ชายเมืองไทยไม่มีอะไรหวือหวา โดมอนเป็นร้านบูติกผู้ชายร้านแรก ๆ สั่งบุติกจากญี่ปุ่นเข้ามาบ้าง ผลิตเองบ้าง

บุญศักดิ์นั้นเป็นคนหัวไวเขาเรียนรู้การออกแบบและทำแพทเทิร์นด้วยตนเองเขาซึมซับทุกสิ่งจากการดูแฟชั่นในต่างรปะเทศ ดูแบบจากนิตยสารอย่างไม่รู้เบื่อ เสื้อบูติกสุดเก๋ตัวหนึ่งเขามองผ่านเพียงปราดเดียวก็ทำแพทเทิร์นได้แล้ว แต่ถ้ามันยากนักก็ซื้อมาสักตัวแล้วเราะเป็นชิ้น ๆ สร้างแบบตามเสียเลย

บุญศักดิ์โปรโมทโดมอนจนวัยรุ่นเรียกหาเป็นอันดับแรกเมื่อนึกถึงบูติก อาณาจักรของเขากำลังขยายขณะที่ค่าเงินเปลี่ยนแปลงไป การสั่งสินค้าจากญี่ปุ่นเข้ามามาก ๆ เริ่มไม่คุ้มทุน งบโปรโมชั่นมากขึ้นโยไม่ได้รับความช่วยเหลือ บุญศักดิ์เลือกทางให้ตัวเองด้วยการตั้งโรงงานผลิตเอง พร้อมทั้งทยอยจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าทั้งโดมอน และ BRAND NAME อื่นอีกนับสิบตัวไว้เป็นของตนเอง แล้วผลิตสินค้าออกมาภายใน BRAND NAME เหล่านั้นตัวไหนเกิดแล้วไปไม่รอดก็ตายไป ตัวใดเกิดแล้วอยู่ได้ก็ให้แข่งกับตัวเก่าที่ยังอยู่

"ส่วนหนึ่งที่ทำให้โดมอนอยู่ได้เพราะสินค้าในเครือเราแข่งขันกันเอง ทุกตัวเกิดได้และตายได้ แต่โดมอนต้องอยู่" บัลลังก์ วัฒนหฤทัย น้องชายคนเดียวที่ร่วมงานกับบุญศักดิ์เคยบอก "ผู้จัดการ"

สำหรับบุญศักดิ์แล้วประสบการณ์นับวันยิ่งสั่งสมให้รู้จักปรับลายผ้า เนื้อผ้า สีแบบ ที่ได้ต้นแบบมาจากต่างประเทศให้เข้ากับตลาดเมืองไทยมากขึ้น เขาเติบโตในแนวคิดด้านการผลิตควบคู่ไปกับการพัฒนกลยุทธ์ทางการตลาด

ปี 2526 ดูจะเป็นปีที่รุ่งโรจน์ที่สุดสำหรับบูติกผู้ชาย บุญศักดิ์มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ผู้ชายรู้จักแต่งตัวความคิดการโปรโมชั่นแปลก ๆ หลั่งไหลจากสมองเขาไม่มีหยุด เขาออก PACKAGE ใหม่ ๆ แปลกตาเช่นห่อสินค้าด้วยกระดาษฟางอย่างดี ห่อพลาสติก ถุงที่ใช้ออกแบบ พิมพ์ ด้วยกระดาษอย่างดี ฯลฯ เหล่านี้ส่งเสริมให้บูติกเครือโดมอนดูมีคุณค่าขึ้น ทั้งเป็นแบบให้ร้านอื่น ๆ ทำตาม

"เราได้เปรียบเพราะร้านในเครือเรามีหลายร้านแชร์ค่าใช้จ่ายกันไปได้" เขาบอก "ผู้จัดการ" ว่าค่าใช้จ่ายด้านนี้แม้จะสูงแต่ก็ต้องลงทุน

บางครั้งนึกสนุกขึ้นมาบุญศักดิ์ก็เปิดร้านให้เด็ก ๆ เข้าไปเต้นรำ เช่นที่ LAFORET สยามเซ็นเตอร์

หรือที่เป็นตำนานผลงานโปรโมชั่นสุดยอดของนักเต้นรำเท้าไฟเข้าของถ้วยรางวัลงานวชิราวุธในอดีตผู้นี้ คงไม่มีอะไรเกิน เมื่อครั้งที่เปิด LAFORET ชั้นสองราชดำริให้เด็กเข้าไปเต้นรำแล้วตำรวจมาจับ

"ถ้าเราให้เด็กมาเต้นรำอย่างเดียวมันไม่คุ้มค่าใช้จ่ายหรอก แต่เมื่อตำรวจจับเป็นข่าว ชื่อร้านก็ดัง คนจะรู้จักกันมากขึ้น" คนทำงานกับโดมอนมานานแย้มกลยุทธ์เด็ด ๆ ให้ฟัง

ในทางตรงกันข้ามปี 2526 ก็เป็นปีที่โดมอนต้องผจญกับปัญหาการลอกเลียนแบบที่สุดตั้งแต่ลายผ้าที่ยังเป็นพิมพ์เขียวจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จที่วางขายแล้ว ช่วงนั้นโดมอนทำให้โรงทอผ้า ร้านขายผ้า และพวกลอกเลียนแบบแถวประตูน้ำ บางลำพูรวยกันเป็นแถว

"เรายอมรับว่ามีปัญหา อย่างผ้าของเราออกแบบให้โรงงานทอ 2 พันหลา มันทอสต้อกไว้อีก 2 หมื่นหลา พอเราทำเสื้อวางขายในร้าน มันก็วางขายข้างถนนเหมือนกัน" บุญศักดิ์เล่าเสียงฮึดฮัด

ช่วงนั้นโดมอนแก้ปัญหาด้วยการพยายามผลิตสินค้าในแต่ละแบบออกมาให้เพียงพอกับความต้องการลูกค้า และถ้ารู้ว่าแบบใดรั่วไหลออกไปจะหยุดผลิตทันที หรือไม่สินค้าที่ผลิตแล้วถูกเลียบแบบเอามาลงกระบะ SALES ทันที และสุดท้ายถ้าการลอกเลียนเอาโลโก้โดมอนปะเข้าไปด้วยก็ใช้มือกฎหมายเข้าจัดการ การขับพวกลอกเลียนแบบพวกนี้บุญศักดิ์ลงทุนพาตำรวจไปจับด้วยตนเองเป็นยุทธการเชือดไก่ให้ลิงดูที่ได้ผลพอสมควร

จากวันแรกที่เริ่มโดมอน จนถึงทุกวันนี้บุญศักดิ์ยังตัดสินใจเองทุกอย่าง ความคิดทุกอย่างสำหรับอาณาจักรโดมอนเกิดจากหัวของเขา

ถ้าบุญศักดิ์เป็น DECISION MAKER ที่ตัดสินใจผิดน้อยครั้ง บัลลังก์น้องชายของเขาก็เป็น OPERATOR ที่รับนโยบายมาปฏิบัติงานได้อย่างวิเศษ

บุญศักดิ์เป็นคนใจร้อนคิดแล้วต้องทำทันที เชื่อในความคิดของตัวเองอย่างฝังหัวบัลลังก์ใจเย็น มีความประนีประนอมสูงความแตกต่างของคนทั้งสองกลับประสานให้เกิดความลงตัวและช่วยผลักดันให้อาณาจักรโดมอนเป็นเช่นทุกวันนี้

ความแตกต่างที่ลงตัวของคนทั้งสองนี้มีให้พูดถึงมากมาย

เช่นครั้งหนึ่งบัลลังก์ไปดูแฟชั่นที่ปารีสแล้วรีบกลับมาบอกพี่ชายว่าที่นั่นเขาฮิตผ้าเครป (ผ้าเนื้อมันชนิดหนึ่ง) แต่สำหรับบุญศักดิ์แล้วญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อเขาอย่างลึกล้ำ เวลานั้นที่ญี่ปุ่นผ้าลายลูกน้ำติดตลาด เขามั่นใจว่าต้องเข้าเมืองไทยด้วย ทั้งที่เพิ่งกลับจากปารีสได้เพียง 2 วัน เขาบอกให้บัลลังก์ไปญี่ปุ่นทันทีควานหาทุกอย่างที่มีลายลูกน้ำมา ทั้งเสื้อ กางเกง ถุงเท้า รองเท้า ฯลฯ

วากันว่าสินค้าลายลูกน้ำ LOT นั้นทำให้บุญศักดิ์จืดเอาเหมือนกัน แต่ก็หาผ้าต่วนมาแทนผ้าเครปอย่างที่ปารีสเขานิยมออกบูติกกลบเกลื่อนผลงานชุดลายลูกน้ำไปได้

หรือเมื่อครั้งผ้าลินินจะเข้าเมืองไทยบัลลังก์ดูแฟชั่นอยู่ที่ปารีส เขาเทเลกซ์กลับมาทันทีที่ดูแฟชั่นจบว่า "ลินิน ต้องลินินเท่านั้นไ

"คันตายห๋" เป็นคำพูดที่ออกจากปากบุญศักดิ์ แต่อย่างไรก็ตามโดมอนก็เป็นร้านแรก ๆ ที่มีบูติกลินินตลอดมาจนถึงทุกวันนี้

เหล่านี้อาจเป็นเกร็ดเล็กน้อยที่อาจลืมไปเพียงชั่วข้าวคืน แต่สิ่งที่บุญศักดิ์ทำให้คนในวงการบูติกต้องจารึกชื่อเขาไว้คือ "ยุทธการหาไม้แขวนเสื้อ"

โดมอนเป็นบูติกแห่งแรกที่จัดให้มีการประกวดนายแบบ และนายแบบที่ได้ก็เป็นที่ยอมรับ่ของทั้งวงการแฟชั่นโฆษณาและบรรดาเอเยนซี่ต่าง ๆ

"เมื่อก่อนนายแบบมีน้อย ร้านบูติกยังไม่มากก็พอใช้ถ่ายแบบกันไปได้ พอการแข่งขันมากขึ้นเสื้อผ้ามีมากมายหลาย SEGMENT บางคนแก่จะตายเอามาถ่ายแบบเสื้อวัยรุ่นไม่เหมาะกับสินค้า เรามีหลาย BRAND หลายกลุ่ม ก็จัดประกวดนายแบบเพื่อถ่ายแบบให้สินค้าของเรา" บุญศักดิ์บอก "ผู้จัดการ" ว่าเสื้อผ้าที่ดีถ้าได้นายแบบดีก็เหมือนเสื้อได้ไม้แขวนดี ต่างส่งเสริมคุณค่าให้กัน

บุญศักดิ์ในวันนี้ออกจะเป็นผู้กว้างขวาง ไม่เพียงแต่หนุ่มสาวหน้าตาสดใสที่อยากเป็นนายแบบนางแบบในสังกัด แม้นายแบบนางแบบเจนเวทีก็ออกจะเกรงอกเกรงใจและไปทุกงานที่ "เฮียหมา" ออกปาก

แม้บุญศักดิ์ออกจะเป็นคนกว้างขวางแต่ในสำนึกลึก ๆ แล้วเขาก็มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเหมือนกัน เพียงแต่เขาต้องเป็นคนเดินอยู่ข้างหน้าเท่านั้น

ในช่วงที่บูติกซบเซาทั้งเพราะตลาดล่างเซาะ การแข่งขันของร้านบูติกด้วยกันเองสูงสภาพคลอ่งทางการเงินของผู้บริโภคฝืดเคือง ศูนย์การค้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดสยามเซ็นเตอร์ศูนย์รวมวัยรุ่นหนุ่มสาวแต่งตัวสวย ๆ เดินประกวดประชันกันหนาตาเริ่มเงียบหาย ๆ โดยที่ผู้บริหารศูนย์ไม่มีกิจกรรมใด ๆ มาปลุกชีวิตสยามเซ็นเตอร์เลย ร้านบูติกที่นั่นหายใจกันระรวยระริน

"ตอนนั้นเฮียหมา จัดแฟชั่นให้ร้านในสยามร่วมกันจัด ค่าใช้จ่ายแกช่วยมากกว่าใคร พอสร้างความคึกคักกลับขึ้นมาบ้าง" เจ้าของร้านบูติกในสยามเซ็นเตอร์เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง

แต่บางคนก็ว่านั่นหมายถึงความอยู่รอดของโดมอนด้วย คิดดูเอาเองแล้วกันว่าที่สยามเซ็นเตอร์ร้านเครือโดมอนมีกี่ร้านแต่ก็นั่นแหละ ถ้าโดมอนไปคิดหรือว่าคนอื่นจะอยู่ได้

เมื่อพูดถึงการเติบโตของโดมอน จากบูติกชายขยับขยายออกไปในแนวนอนจาก เสื้อ กางเกง สู่เนคไท ถุงเท้า รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด ครบสูตรการแต่งตัว

"เวลาออกแบบเสื้อแล้วจะถ่ายแบบขี้เกียจไปยืมของคนอื่นเขา" บุญศักดิ์ให้เหตุผลการ DIVERSIFY สั้น ๆ

นอกจากนี้ยังมีสมุด ดินสอ ซึ่งเมื่อแรกทำเพื่อเป็นของโปรโมชั่น แต่เมื่อขายได้ก็ทำขาย แล้วยังมีชุดชั้นใน ชุดว่ายน้ำผู้ชาย ซึ่งเป็น LINE ใหม่สุดที่ขยายออกไป แต่การเข้าไปสู่ LINE ใหม่ ๆ ที่ไม่มีความชำนาญเพียงแต่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่นที่ตนเองคุ้นเคยและเป็นธุริจที่กำลังบูม เช่น เมื่อครั้งร่วมหุ้นกับพรรคพวกเปิดดิสโก้เธอหรือไดมอนด์สเก็ต ที่ต้องปิดลงในที่สุดนั้น นับเป็นบทเรียนการกระโดดเข้าสู่ธุรกิจข้าม LINE ที่ต้องจดจำ และไตร่ตรองให้ดีในการ DIVERSIFY ครั้งต่อไป

เขามีร้านที่ราชดำริอาเขต 3 ร้านสยามเซ็นเตอร์ 6 ร้าน ชาญอิสระ 2 ร้าน มาบุญครอง เดอะมอลล์รามคำแหงและเซ็นทรัลลาดพร้าวแห่งละ 1 ร้านล่าสุดเพิ่งเปิดร้านสาขาอีกแห่งที่เชียงใหม่และกำลังตกแต่งที่สีลมพลาซ่าอีก 2 ร้าน

ปัจจุบันสถานการณ์ต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งบูติกยิ่งเปลี่ยนแปลงเร็ว ถ้าจะอยู่รอดต้องปรับตัว โดมอนก็ต้องปรับตัว

จากบูติกวัยรุ่นชายที่ฮิตสุดขีด ต้องผจญกับสภาพเศรษฐกิจรัดตัวที่เบี่ยงเบนพฤติกรรมการบริโภค การแข่งขันอันเกิดจากการที่คู่แข่งรายใหม่ ๆ เข้ามาใน SEGMENT ที่เจาะจงยิ่งขึ้น ทำให้โดมอนต้องปรับตัวขยายแนวมาสู่บูติกผู้หญิงมากขึ้นจนถึงในขณะนี้บูติกเครือโดมอน เป็นผู้ชาย 100

จากแนวคิดที่จะไม่ขยายตลาดออกสู่ต่างจังหวัดเพราะตลาดเล็กไม่คุ้มกับการลงทุนโดมอนก็ออกไปเปิดสาขาแห่งแรกที่ สีสวนพลาซ่า เชียงใหม่

จากการจำหน่ายที่เน้นการขายตรงขายเฉพาะในร้านค้าของตนเอง ขณะนี้เริ่มวางในห้างสรรพสินค้าบ้างแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเสีย 30% ให้ห้างฯ ขณะนี้เข้าไปวางขายแล้วที่ห้างสรรพสินค้าโตคิวกับบูติกผู้หญิง G3 Co.

อนาคตของโดมอนจะเป็นอย่างไรการปรับตัวแค่นี้เพียงพอหรือไม่ ผู้บริโภคที่ต้องการแต่งกายด้วยบูติกในประเทศนี้จะมีไม่ขาดสายกระนั้นหรือ

โดมอนคงถึงคราวขยายตัวเองไปที่สินค้าเป็น MASS PRODUCT มากขึ้นโดยอิง BRAND LOYALTY ที่คนทั่วไปรู้จัก ถึงแม้จะสู้แอร์โรว์ หรือเอส แฟร์ ไม่ได้ แต่โดมอนก็เริ่มคืบเข้าไปแล้วด้วย DOMON YOUNG OFFICIAL เสื้อใส่ทำงานราคาพอสมควร ทั้งต้องพยายามขยายเข้าสู่ตลาดผู้หญิงมากขึ้น เพราะสัจธรรมอย่างหนึ่งคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผู้หญิงยังต้องแต่งตัว

อีกประการหนึ่งที่โดมอนหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการให้ความสนใจตลาดต่างประเทศขณะนี้มีบ้างที่ชาวต่างประเทศมาซื้อเสื้อบูติกโดมอนกลับไปทีละ LOT ใหญ่ ๆ แต่การจะทำให้การส่งออกเป็นเรื่องเป็นราวโดยมีโควต้าการส่งออกเป็นเรื่องเป็นราว โดยมีโควต้าการส่งออกนั้นโดมอนยังมีปัญหา

"เรื่องการส่งออกก็อยากทำ แต่เราไม่มีโควต้า ถ้าจะได้โควต้าก็ต้องมีเส้นสาย" บุญศักดิ์บอก "ผู้จัดการ" และเขาก็คงต้องเข้าใจอีกบทเรียนธุรกิจว่า CONNECTION เป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่ง

อนาคตของโดมอนอยู่ในความสนใจของทั้งคนที่อยู่ในวงการบูติก ศูนย์การค้าพนักงานทั้งเครือกว่า 200 ชีวิต รวมทั้งผู้บริโภคด้วย

แต่สำหรับบุญศักดิ์เอง เขาบอก ผู้จัดการ" ว่า เขาไม่สนใจอนาคตอะไรมากมายนักมาได้ถึงจุดนี้ก็นับว่างดงามแล้วสำหรับการเริ่มต้นจากคนค้าข้าวสาร แต่ฝันสุดยอดของบุญศักดิ์คือการได้รวมอาณาจักรโดมอนไว้ในที่เดียวกัน สร้างเป็นศูนย์การค้ารวมไว้ซึ่งสินค้าทุกตัวของโดมอน

"เมื่อเรามีศูนย์เป็นของตัวเองทุกอย่าง จะเป็นระบบยิ่งขึ้น ทั้งการควบคุมพนักงานสินค้า จะเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้าที่มีแต่สินค้าของโดมอนอยู่ในนั้น" บุญศักดิ์ พูดถึงฝันของเขาอย่างสุขใจ

กว่าจะถึงวันนั้น วันนี้บุญศักดิ์ยังต้องทำงานหนักไม่มีวันหยุด งานทำให้เขาทุ่มเทไม่มีเวลาแต่งตัวดี ๆ หรือไปเต้นรำเหมือนยามฉกรรจ์ บุญศักดิ์ไม่มีห้องทำงานส่วนตัวเหมือนสมชาย แก้วทอง แห่งร้าน "ไข่" ไม่มีเวลาแต่งตัวเนี๊ยบพูดเพราะ ๆ เหมือนกีรติ ชลสิทธิ์ แห่งร้าน "ดวงใจบิส" ทุกวันนี้ไปไหนมาไหนเขายังคงโบกแท็กซี่

"ซื้อทำไมเบนซ์คันละล้านสองล้านเอาเงินมาเปิดร้านสร้างงานให้คนทำดีกว่า" เขาบอก รถยนต์ส่วนตัวไม่ใช่สิ่งจำเป็น สัญชาตญาณผู้ประกอบการเพียงบอกให้เขาคิดถึงแต่การลงทุน

จะว่าไปสำหรับบูติกในกลุ่ม MIDDLE HIGH ในตำแหน่งที่โดมอนวางอยู่นี้ เครือโดมอนนับว่ายิ่งใหญ่ในระดับเดียวกันนี้ก็คงหาคนเทียบยากและคง่จะไม่เกินไปนักถ้าในระดับนี้จะยกให้บุญศักดิ์เป็น "KING OF BOUTIQUE"

แต่ KING OF BOUTIQUE วันนี้ไม่เคยคิดถึงผู้สืบทอดความยิ่งใหญ่ของเขาเลย เขาไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเมื่อสิ้นเขาแล้วอาณาจักรโดมอนจะเป็นอย่างไร แม้แต่ลูกทั้ง 5 คนของเขา เพียงแต่คิดที่จะหวังเขายังไม่กล้า

"อาชีพนี้เป็นอาชีพยาก ขอโทษทีคนทำต้องเก่งมาก ๆ ต้องมีพรสวรรค์ในตัวเองถ้าอยากจะทำก็ทำได้ แต่จะ SUCCESS หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง "บุญศักดิ์กล่าวปิดท้ายตามด้วยยิ้มในหน้า

หรือว่า KING OF BOUTIQUE ภายใต้เครื่องหมายการค้าโดมอนจะมีเพียงคนเดียว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us