UFM ชำระหนี้ตามมูลหนี้ให้ บสท. ในฐานะค้ำประกันการชำระหนี้แทน BSI เตรียมไล่เบี้ยเพื่อเรียกคืนเงินต้น ดอกเบี้ยและอื่น ๆ ที่สูญหายเพราะการค้ำประกัน
นายสุวิช สุวรุจิพร กรรมการ บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) ( UFM ) แจ้งว่าตามที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ได้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง คดีหมายเลข ดำที่ ธ.4923/2546 ในฐานะที่ UFM เป็นผู้ค้ำประกันภาระหนี้ของ บริษัท กรุงเทพผลิตเหล็ก จำกัด (มหาชน) (BSI) ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ ล.3530/2551 พร้อมทั้ง บสท. แจ้งให้บริษัทติดต่อและเสนอแผนการปรับโครงสร้างหนี้การค้ำประกันนอกเหนือจากการค้ำประกันตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย
โดย UFM แจ้งว่าปัจจุบันบริษัทได้ชำระหนี้ตามมูลหนี้ดังกล่าว ซึ่งศาลล้มละลายกลางและศาลแพ่ง ได้จำหน่ายคดีล้มละลายและมีคำสั่งถอนอุทธรณ์คดีแพ่งตลอดจน ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้บริษัทสวมสิทธิ์แทน บสท. ในการไล่เบี้ยในฐานะผู้ค้ำประกันที่ได้มีการชำระหนี้แทน BSI แล้วเช่นกัน
บริษัท แจ้งเพิ่มเติมว่าภาระหนี้การค้ำประกันนอกเหนือจากการค้ำประกันตามคำพิพากษาตามที่ บสท. กล่าวอ้างนั้น ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2552 บสท. ได้แจ้งผลการพิจารณาดังนี้
1. คืนเงินที่ บสท. ได้รับชำระ 8,701,329.06 บาท ( มูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าว ) เนื่องจาก บสท. ได้รับชำระหนี้ไว้เกินสิทธิเรียกร้องที่ บสท. พึงมีตามกฎหมาย
2. ภาระหนี้ค้ำประกัน เฉพาะวงเงินตามสัญญาค้ำประกันวงเงิน 400 ล้านบาท ที่มีปัญหา นั้น บสท. กำหนดเงื่อนไขดังนี้
2.1 กำหนดให้ชำระเงิน 58,701,329.06 บาท ( เงินต้น 57,664,780.94 บาทและดอกเบี้ย 1,036,548.12 บาท) ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ บสท. มีมติอนุมัติ ( ภายในวันที่ 3 สิงหาคม 2552 ) โดยชำระเป็นเงินสด 50 ล้านบาท และหักกลบหนี้กับเงินที่ต้องคืนให้กับบริษัท ตามข้อ 1. เป็นเงิน 8,701,329.06 บาท
2.2 กำหนดให้นำเงินที่ได้รับชำระหนี้ทั้งจำนวนไปตัดชำระหนี้ภาระหนี้ส่วนที่รอปรับลดแผนฟื้นฟูกิจการของ BSI โดยไม่ถือเป็นการชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการของ BSI
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2552 อนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของ บสท.แล้ว เมื่อบริษัทได้ชำระหนี้ดังกล่าวให้แก่ บสท. แล้วบริษัทจะได้ใช้สิทธิ์ไล่เบี้ย เอาจาก BSI เพื่อเรียกคืนเงินต้น ดอกเบี้ย และอื่น ๆ ที่ต้องสูญหายและเสียหายใด ๆ เพราะการค้ำประกันดังกล่าวต่อไป
|