|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มดีเคเอสเอช มั่นใจศักยภาพประเทศไทย เดินหน้าการลงทุนต่อเนื่อง เตรียมเทอีก 300 ล้านบาท ผุดศูนย์กระจายสินค้าภาคเหลือและภาคใต้ ครึ่งปีแรกยังพอใจในรายได้ ทั้งปีมั่นใจเติบโตขึ้นอย่างน้อย 8%
นายเยิร์ก โวลเล่ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเคเอสเอช โฮลดิ้ง จำกัด ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด ในประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกจะไม่ค่อยดี แต่สำหรับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่สำคัญของดีทแฮล์ม ซึ่งยังคงมองเห็นศักยภาพที่ดีอยู่ รวมถึงเป็นฮับและแม่แบบให้กับดีทแฮล์มอีกหลายๆประเทศในภูมิภาคแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นในแง่ของการลงทุนต่างๆจึงยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง
ล่าสุดในส่วนของการลงทุนเกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้า ในอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปเปิดศูนย์กระจายสินค้าย่อยประเภทอาหารแช่เย็นและอาหารแช่แข็งในภาคเหนือและภาคใต้อีกภาคละ 1 แห่ง ภายใต้งบลงทุนที่วางไว้ 300 ล้านบาท ขณะที่ปีนี้ทางบริษัทได้ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นและอาหารแช่แข็ง บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ บนถนนสุขุมวิท กม.30 อำเภอบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นการลงทุนในเฟส 2 และกำลังจะลงทุนในเฟส 3 ต่อไป
“การขยายศูนย์กระจายสินค้าย่อยในภาคเหนือและใต้ ถือเป็นการให้บริการที่ต้องการทำให้สินค้าเข้าใกล้ผู้บริโภคมากที่สุด ขณะเดียวกันเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับประทานอาหารแบบเดลี่มากขึ้น ซึ่งจะเริ่มในอีก 2 ปีนั้น โดยยังถือเป็นการลงทุนที่อยู่ในแผน ไม่ได้มีการเลื่อนออกไปแต่อย่างไร เพียงแต่ต้องรอให้การขยายศูนย์กระจายสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นและอาหารแช่แข็ง บางปู เสร็จสมบูรณ์ก่อน อีกทั้งเพื่อเป็นการศึกษาหาสถานที่ที่ชัดเจนกว่านี้ด้วย”
อย่างไรก็ตามในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ดีทแฮล์ม เดินหน้าลงทุนตามแผนระยะยาวทั้งในเรื่องของศูนย์กระจายสินค้า ที่ให้บริการอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว 2 แห่ง คือ ศูนย์กระจายสินค้าเกี่ยวกับคอนซูเมอร์ กู้ดส์ ที่บางนา และศูนย์กระจายสินค้าเกี่ยวกับเฮลท์แคร์ ที่บางนา เช่นกัน โดยในแง่ของบุคคลากรถือเป็นการลงทุนที่ทำต่อเนื่องเช่นกัน
โดยมีทั้งการอบรมพนักงานและเพิ่มศักยภาพอยู่ตลอดเวลา
นายเยิร์ก กล่าวต่อว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจ คือ การเป็นผู้นำช่วยคู่ค้าให้บริการด้านการตลาดการขายและ จัดจำหน่าย ใน 4 ธุรกิจหลัก คือ คอนซุเมอร์ กู้ดส์, เฮลท์แคร์, วัตถุดิบต่างๆ และด้านเทคโนโลยี ซึ่งทางบริษัทจะโฟกัสขยายการลงทุนใน 4 ธุรกิจนี้ในรูปแบบของการควบรวมกิจการ หรือซื้อกิจการจากเจ้าของบริษัทโดยตรง ซึ่งในขณะนี้มีเข้ามาพิจารณาอยู่หลายราย
นอกจากนี้ในส่วนของลูกค้าใหม่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลูกค้าเพิ่มอีก 1 ราย ส่วนครึ่งปีหลังนี้ ได้เซ็นสัญญาเพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งถือเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่อีกรายหนึ่ง คาดว่าอีกไม่นานจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ปัจจุบันดีทแฮล์ม เป็นผู้นำด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายของโลก ที่มีสาขากว่า 35 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา มีผลประกอบการทั่วโลกสูงถึง 268,000 ล้านบาท โดยในส่วนของประเทศไทย มียอดขายมากถึง 110,000 ล้านบาท ปีนี้เชื่อว่าจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก ซึ่งครึ่งปีที่ผ่านมาดีทแฮล์มไทยแลนด์ มีตัวเลขรายได้เป็นที่พอใจ แม้ว่าภาพรวมสินค้ากลุ่มลักซ์ชัวรี่จะตกลง กลุ่มเทคโนโลยีจะชะลอตัว แต่สำหรับคอนซูเมอร์ กู้ดส์ และเฮลท์แคร์ยังเติบโตได้ดีอยู่
นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล ประธานอำนวยการ-ประเทศไทย บริษัท ดีทแฮล์ม จำกัด กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังนี้ มองว่า มี 2 ปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบกับยอดขายว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง คือ 1.การเมือง หากการเมืองนิ่ง ก็จะมีผลต่ออารมณ์การซื้อของผู้บริโภค 2.ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อที่มีน้อยลง ดังนั้นทั้งปีจึงมองว่าภาพรวมของดีทแฮล์มไทยแลนด์ อย่างน้อยน่าจะมีรายได้เติบโตขึ้น 8%
|
|
|
|
|