ปิดตำนานปั๊มเจ็ท 15ปีในไทย เปลี่ยนเป็นปั๊มปตท.-จิฟฟี่ "ประเสริฐ"ลั่นคิดถูกแล้วควักเงินเกือบหมื่นล้านทุ่มซื้อเจ็ท ปลื้มยอดขายน้ำมัน-ร้านสะดวกซื้อพุ่งหลังปรับเปลี่ยนเป็นปั๊มปตท. แย้มควักเงินซื้อแบรนด์ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ทำให้เป็นเจ้าของสิทธิ์จิฟฟี่ทั้งอาเซียน อ้างถูกกว่าการทำแบรนด์ร้านสะดวกซื้อเองและค่าใช้จ่ายในการปลดป้ายลง

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังการจัดงานส่งท้ายอำลาเจ็ท สถานีสุดท้ายใน"Jet...in Memories"ที่สถานีบริการน้ำมันปตท.-จิฟฟี่ สาขาบางบัวทอง-สุพรรณบุรี กม.28 วานนี้(18 มิ.ย.)ว่า ปตท.ตัดสินใจซื้อแบรนด์ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่จากบริษัท โคโนโค่ ฟิลลิปส์แล้ว ทำให้เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ในอาเซียน ยกเว้นมาเลเซียและพม่า เนื่องจากพิจารณาแล้วมีความคุ้มทุนมากกว่า เพราะหากบริษัทฯจะทำแบรนด์ร้านสะดวกซื้อเองจะใช้เงินสูงถึง 100 ล้านบาทเพื่อให้เป็นที่รู้จักและค่าใช้จ่ายในการปลดป้ายลงทั้ง 146 แห่งจะใช้เงินถึง 270 ล้านบาท ขณะที่ซื้อแบรนด์จิฟฟี่ใช้เงินน้อยกว่านี้มาก กล่าวได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม

ทั้งนี้ปตท.จะใช้ชื่อจิฟฟี่ในร้านสะดวกซื้อในปั๊มเจ็ทที่เปลี่ยนมาเป็นปตท.เท่านั้น ส่วนปั๊มน้ำมันปตท.เดิมที่มีร้านสะดวกซื้อ 7-11 ประมาณ 700 แห่งก็ยังเหมือนเดิม ซึ่งปตท.ยังไม่มีแผนจะปรับเปลี่ยนร้านสะดวกซื้อ7-11 เป็น จิฟฟี่แม้ว่าจะหมดสัญญาที่ทำไว้กับร้าน 7-11 ก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องที่ฝ่ายการตลาดจะต้องไปหารือกับผู้บริหารร้าน7-11 โดยร้านสะดวกซื้อ7-11 ถือเป็นร้านสะดวกซื้อติดอันดับท็อปแบรนด์ โดยยอดขายสินค้าร้าน 7-11 จากปั๊มปตท.มีอัตราเติบโตสูงกว่าร้าน7-11 ที่ตั้งนอกปั๊มค่อนข้างมาก

" หากปตท.ไม่ซื้อไลเซ่นร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่แล้ว ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ก็จะไม่สามารถใช้เทรดมาร์กไลเซนจิฟฟี่ได้อีกเหมือนกับเจ็ทที่ต้องเปลี่ยนเป็นปตท. ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าจิฟฟี่เป็นที่รู้จักของลูกค้าเพราะทำตลาดมานานถึง 15ปี และมีสินค้าขายมากถึง 4,500 SKU(รายการการสินค้า)เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้ออื่นที่มีสินค้าเพียง 2,000 SKUเท่านั้น ซึ่งปตท.ได้มีการเสริมเป็นจิฟฟี่ คิทเช่น และจิฟฟี่ เอ็กซเพรส ทำให้ยอดขายสินค้าเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่วนจะตั้งร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่นอกปั๊มหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาหารือ "

นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากปั๊มเจ็ทเปลี่ยนเป็นปตท.-จิฟฟี่ พบว่ายอดขายน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น 21%จากเดิมที่จำหน่ายน้ำมันเดือนละ 5.6 แสนลิตร เพิ่มเป็น 6.8 แสนลิตร/เดือน/ปั๊ม ส่วนยอดขายผ่านร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ในปั๊มแพลทตินัม สโตร์ เพิ่มขึ้นเช่นกัน 19-45%แล้วแต่พื้นที่ โดยปั๊มนี้มียอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นเช่นกันจาก9.8 แสนลิตรเป็น 1.4 ล้านลิตร/เดือน และร้านสะดวกซื้อจาก 5 ล้านบาทเป็น 6.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันว่าปตท.ตัดสินใจถูกต้องที่ซื้อปั๊มเจ็ทจากโคโนโค่ฯในราคาสูงเกือบ 1หมื่นล้านบาท แม้ว่าการบริหารงานจะยังไม่คุ้มทุน(เบรกอีเวนท์) เนื่องจากมาร์จินของธุรกิจนอนออยล์ยังต่ำกว่า 30-40% ทำให้รายได้หลักมาจากธุรกิจน้ำมัน หากค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2 บาท/ลิตร เชื่อว่าจะคุ้มทุนได้ภายใน 4-5 ปี

นายประเสริฐ กล่าวต่อไปว่า จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ปตท.ยังยืนตัวเลขการลงทุนไว้เท่าเดิม 2 แสนกว่าล้านบาทใน 5ปีนี้ เนื่องจากเชื่อว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบปีนี้ยังอยู่ที่ 50-60 เหรียญสหรัฐ และปีหน้าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบน่าจะอยู่ที่ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ โคโนโค่ ฟิลลิปส์ได้ลงทุนเปิดสถานีบริการน้ำมันเจ็ทเป็นเวลา 15ปี ก่อนที่ปตท.ได้เข้าซื้อกิจการปั๊มเจ็ทจำนวน 146 แห่งจากเมื่อกลางปี 2550 เป็นวงเงิน 275 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 9,750 ล้านบาท ซึ่งตลอดช่วงที่ผ่านมา ปตท.ได้เข้ามาดูแลและบริหารสถานีบริการน้ำมันเจ็ทและร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็นสถานีบริการน้ำมันปตท.มาตั้งแต่ปี 2551 จนล่าสุดได้เปลี่ยนครบ 146 แห่งเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นี้