|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จับมือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี หนุนตั้งกองทุนลงทุนในกิจการไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนวงเงินหมื่นล้านบาท วางเป้า 3 ปีผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ลงนามร่วมมือกับผู้ประกอบการ 20 ราย กองทุนไอเอ็นจีเผยรายแรกที่จะซื้อกิจการไฟฟ้าจากแกลบที่อยุธยามูลค่า 700-800 ล้านบาท
นางพรรณี จารุสมบัติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)ร่วมมือศึกษากับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจี (ประเทศไทย) หรือING FUNDS ศึกษาการจัดตั้งกองทุนเพื่อลงทุนและบริหารและจัดการอุตสาหกรรมไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน มูลค่า 10,000 ล้านบาท วางเป้าลงทุน 3 ปี ผลิตไฟฟ้า100 เมกะวัตต์ ลงนาม 20 รายทั่วประเทศมูลค่า 2,000 ล้านบาท
โดยมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค
ปัจจุบันแนวทางการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเป็นที่สนใจของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม กลุ่มสหกรณ์การเกษตร และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นในท้องถิ่นต่าง ๆ จากทั่วประเทศส่งผลให้มีการลงนามแสดงเจตจำนงร่วมมือกับกองทุน ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดย่อม กำลังผลิตรายละประมาณ 1 เมกะวัตต์ จำนวน 20 รายทั่วประเทศ คิดเป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งผลจากการตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศครั้งนี้จะเป็นการนำร่องให้เกิดโครงการในพื้นที่อื่น ๆ ตามมา
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไอเอ็นจีกล่าวว่า กองทุนที่จะนำร่องก่อนคาดว่าจะเป็นรูปแบบลักษณะกองทุนอสังหาริมทรัพย์คือการเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้ามูลค่าประมาณ 700-900 ล้านบาทที่คาดว่าจะเจรจาสำเร็จภายในก.ย.นี้รายแรกจาก 20 รายที่ลงนามครั้งนี้ โดยเป็นโรงไฟฟ้าจากแกลบที่จังหวัดอยุธยา ขนาดกำลังผลิต 9.9 เมกะวัตต์ต่อปี
“ลักษณะกองทุนฯก็กำลังดูอยู่อาจจะเป็นรูปแบบกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหรืออินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์ ซึ่งจะต้องดูกติกาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.เป็นสำคัญ โดยกองทุนฯเป็นการระดมทุนจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ ประชาชนทั่วไป ”นายมาริษกล่าว
สำหรับผลตอบแทนการลงทุนหากเป็นกรณีการซื้อกิจการจะสูงกว่าจะอยู่ประมาณ 9-10% แต่ทั้งนี้จะเป็นการซื้อหรือร่วมทุนอย่างไรนั้นอยู่ที่การเจรจากับผู้ขายเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามกรณีที่กองทุนเข้ามาลงทุนในกิจการไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเนื่องจากเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนสูงและเป็นทิศทางของโลก
นายพงษ์ศักดิ์ เลี้ยงศิริ กรรมการบริษัทเพาเวอร์ พอสเพ็ค จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับกองทุนไอเอ็นจีในการขายโรงไฟฟ้าให้แต่ยังคงการบริหารไว้เหมือนเดิมแต่จะขาย 100% หรือไม่อยู่ในขั้นตอนเจรจา ลงทุนประมาณ 700-800 ล้านบาทซึ่งคาดว่าโรงงานจะสร้างเสร็จเดือนก.ย.นี้โดยมีขนาด 9.9 เมกะวัตต์ต่อปีใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิงผลิต
“บริษัทมีธุรกิจโรงสีข้าวอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาในเรื่องวัตถุดิบประกอบกับเครื่องจักรเองก็สามารถใช้เศษไม้ผลิตได้จึงมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเชื้อเพลิง และเรากำลังมีแผนที่จะก่อสร้างโรงที่ 2 บริเวณเดียวกันคือที่จ.อยุธยาขนาดเท่ากับโรงแรก ซึ่งไฟฟ้าเราขายให้กับการไฟฟ้าสว่นภูมิภาค(กฟภ.) “นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
|
|
|
|
|