|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เคทีซีชี้เศรษฐกิจฟุบดันยอดปลอมแปลงเอกสารขอทำบัตรเครดิตเพิ่ม ส่วนยอดการปลอมแปลงบัตรลดลงหลังติดชิพการ์ดป้องกันครบ 100% แล้ว พร้อมอุดช่องโหว่ด้วยการไม่แข่งขันด้านเวลาในการอนุมัติบัตรที่รวดเร็วและจ้างผู้ชำนาญมาตรวจเอกสารอย่างละเอียด หันป้องกันความเสี่ยงด้วยการบุกตลาดแบบเจาะจง หวังคุมคุณภาพหนี้ไม่เกิน 2% ระบุ 22-24 มิ.ย.เตรียมขายหุ้นกู้อายุ 3ปี จ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 5.5%
นายธวัชชัย ธิติศักดิ์สกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในขณะนี้ ทางเคทีซีได้มีการตรวจสอบพบว่ายอดการทุจริตด้วยการปลอมแปลงเอกสารเพื่อสมัครบัตรเครดิตได้มีจำนวนมากขึ้น ส่วนยอดการทุจริตด้วยการปลอมบัตรเครดิตนั้นได้ลดลง เนื่องจากทางเคทีซีได้มีการติดชิพการ์ดบนบัตรเครดิตเพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูลครบทั้งพอร์ต 100% แล้ว
ทั้งนี้ รูปแบบของการปลอมแปลงเอกสารในการสมัครบัตรเครดิตนั้น จะมีตั้งแต่การปลอมเอกสารเกี่ยวกับเงินเดือน เอกสารการเงินต่าง ๆ รวมถึงบัตรประชาชนปลอม ซึ่งส่วนใหญ่ทางเคทีซีจะมีการตรวจสอบพบก่อนที่จะอนุมัติบัตรเครดิตให้ ซึ่งการทุจริตที่หลุดรอดเข้ามาได้นั้นได้มีน้อยมากหรือส่งผลต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) น้อยมากหรือประมาณ 0.01% ของยอดขายเท่านั้น
นอกจากนี้ทางเคทีซียังได้ลงทุนในการจัดการป้องกันการทุจริต ทั้งการจ้างผู้ชำนาญการมาดูเกี่ยวกับการตรวจสอบเอกสารโดยเฉพาะ อีกทั้งจะไม่มุ่งเน้นแข่งขันในด้านความรวดเร็วในการอนุมัติบัตรเครดิต เนื่องจากจะเป็นช่องว่างให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาก่อความเสียหายได้ ซึ่งปัจจุบันเคทีซีจะใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาว่าจะอนุมัติบัตรเครดิตหรือไม่ประมาณ 7 วัน
"ต้นทุนในการจัดการดูแลเรื่องพวกนี้สูงมาก ค่าใช้จ่ายเป็นหลักสิบล้านบาท ซึ่งเราไม่อยากแข่งเรื่อวเวลาเพราะถ้าอนุมัติเร็วก็อาจเป็นช่องโหว่ได้เราจึงพยายามจะอุดช่องนี้ให้ได้ ซึ่งช่องโหว่ที่ผ่านมานั้นจะมีทั้งการตรวจสอบใบสมัครที่เร็วเกินไป การขาดผู้ชำนาญการในการดูเอกสาร รวมถึงเมื่อก่อนจะมีการโทรศัพท์ไปเช็คข้อมูลระหว่างธนาคาร แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้เพราะกฎหมายระบุไว้"
นายธวัชชัย กล่าวว่า ปัจจุบันยอดการอนุมัติบัตรเครดิตของเคทีซีอยู่ที่ประมาณ 45% ซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในช่วงต้นปีที่มียอดการอนุมัติอยู่ที่ 40% ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรรวมสูงขึ้นจากช่วงปีก่อน 10% แต่ยอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบัตรต่อเดือนนั้นลดลงเล็กน้อยจาก 7,100 บาท เป็น 6,600 บาท เพราะลูกค้ามีการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น แต่การใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าไม่ได้ลดลง แต่ที่ลดนั้นจะมาจากส่วนของน้ำมันที่มีลดลงจากลูกค้าหันไปใช้บัตรเครดิตของที่อื่นซึ่งมีโปรโมชั่นเกี่ยวกับการเติมน้ำมันและราคาน้ำมันที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับอัตราการผิดนัดชำระขณะนี้ได้มีการปรับตัวขึ้น 0.50% หรือจากกว่า 3% เป็น 4% ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากลูกค้าในกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ส่วนเอ็นพีแอลของบัตรเครดิตปัจจุบันอยู่ที่ไม่ถึง 2% ซึ่งตามแผนปีนี้ก็จะพยายามควบคุมให้อยู่ในระดับนี้ต่อไป ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบัตรเครดิตทั้งระบบอยู่ที่ 7 % และเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3%
อย่างไรก็ตามการทำตลาดบัตรเครดิตของเคทีซีในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเป็นแบบเจาะจงมากขึ้น โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กลุ่มแพทย์ พยาบาล ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และกลุ่มพนักงานของสถาบันการเงิน เป็นต้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะมีรายได้ที่สม่ำเสมอ โดยขณะนี้ทางเคทีซีได้เข้าไปหารือกับสมาคมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการเจาะกลุ่มลูกค้าดังกล่าวแล้ว และที่ผ่านมาในฐานลูกค้าของเคทีซีก็มีลูกค้ากลุ่มแพทย์อยู่บ้างแล้วซึ่งมียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบัตรต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป
คลอดหุ้นกู้3ปีดอกเบี้ย5.5%
นายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส สายงานคอร์ปอเรต ไฟแนนซ์ บริษัท บัตรกรุงไทย กล่าวว่า เคทีซีเตรียมจะเปิดจำหน่ายหุ้นกู้อายุ 3ปี ให้กับประชาชนทั่วไป ในอัตราดอกเบี้ย 5.50% ต่อปี ตลอดอายุ 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน โดยจะเสนอขายขั้นต่ำที่ 100,000 บาท และเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณของ 100,000 บาท โดยเป็นหุ้นกู้ระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ชำระคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน ทั้งนี้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ BBB+ โดยการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสนับสนุนธุรกิจของบริษัทและรองรับธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดยจะมีการเปิดจองซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวที่บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ และสาขาที่กำหนด ในวันที่ 22 - 24 มิถุนายน 2552
"ที่เลือกออกช่วงนี้คงเพราะเป็นจังหวะที่เหมาะสมแล้ว เพราะเป็นช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดยังต่ำอยู่ ทำให้หุ้นกู้ตัวนี้น่าจะเป็นที่สนใจมาก เพราะจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน และให้อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 5.5% อีกทั้งเท่าที่สำรวจในขณะนี้หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ส่วนวงเงินนั้นตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการสรุปอยู่ ซึ่งหากขายรอบนี้หมดแล้วจะมีการออกล็อตอื่นอีกหรือไม่ก็คงต้องรอดูความเหมาะสม เพราะหากล็อตแรกนี้ออกไปแล้ว แต่ธุรกิจของเราไม่ขยายตัวหรือไม่ได้มีการเติบโตที่รวดเร็วมากก็อาจจะยังไม่จำเป็นที่จะต้องออกเพิ่ม"
|
|
|
|
|