|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อสังหาฯแนวสูง-แนวราบมั่นใจน้ำมันปรับตัวไม่กระทบกำลังและการตัดสินใจซื้อลูกค้า เชื่อผู้ประกอบการมีต้นทุนที่ยืดหยุ่นจากอานิสงส์มาตรการภาษี ด้านแอล.พี.เอ็น.ฯมั่นใจน้ำมันขึ้นเป็นผลบวกโครงการแนวสูง เชื่อดึงซื้อโครงการแนวสูง เร่งตัดสินใจเร็วขึ้น
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง3-6 เดือนจากนี้นั้น คาดว่าการปรับราคาของน้ำมันในตลาดโลกจะไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ และต้นทุน ของผู้ประกอบการแน่นอน เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการได้รับผลดีจากมาตรการภาษีของภาครัฐฯและการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้มีต้นทุนที่สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่าในช่วงที่ไม่มีมาตรการเข้ามาช่วย เช่น การนำส่วนลดด้านภาษีมาใช้ทดแทนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หรือการาจัดโปรโมชั่นให้ประโยชน์แก่ลูกค้า อย่าไรก็ตามในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูการขายของอสังหาฯ อาจจะเห็นว่ามีการชะลอการซื้อลงบ้าง แต่การชะลอซื้อนั้นไม่ใช่ผลกระทบจากราคาน้ำมันแน่นอน
“นอกจากกำลังซื้อจะไม่ตกและการตัดสินใจซื้อจะไม่ชะลอแล้วยังมั่นใจว่าการจัดแคมเปญของผู้ประกอบการในช่วงนี้จะยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการตัดสินใจซื้อเป็นอย่างดีอีกต่างหาก” อนึ่ง ราคาน้ำตลาดโลก ณ 12 มิ.ย. 52 ที่ตลาดนิวยอร์ค ปิดที่ 72.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ด้านนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลกนั้น ยังไม่สามารถประมาณการได้ว่า ในระยะยาวจะเป็นอย่างไร แต่แนวโน้มในระยะสั้น3เดือนจากนี้ แน่นอนว่าราคาน้ำมันจะปรับขึ้นเพราะขณะนี้กลุ่มนักเก็งกำไร(เฮ็ดฟันด์)ต่างๆ เข้ามาเก็งกำไรน้ำมันอีกรอบ ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและวัสดุก่อสร้างต่างๆ รวมถึงต้นทุนการก่อสร้างบ้านและที่อยู่อาศัยทุกประเภทปรับตัวขึ้นตามต้นทุนน้ำมัน
ส่วนผลกระทบจากการปรับตัวของราคาน้ำมันต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าที่อยู่อาศัยนั้น เชื่อว่า จะส่งผลดีต่อตลาดคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในทำเลเมือง และแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากลูกค้าต้องการลดต้นทุนการเดินทาง และต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่สามารถเดินทางถึงแหล่งงานได้ง่าย นอกจากนี้ การปรับตัวของต้นทุนการก่อสร้าง ที่คาดว่าจะปรับขึ้นตามต้นทุนน้ำมันนั้น จะส่งผลให้ลูกค้าเร่งการตัดสินใจซื้อเพื่อหนีต้นทุนโครงการใหม่
“ในช่วงนี้หากราคาน้ำมันปรับขึ้นจะยิ่งส่งผลให้ลูกค้าเร่งตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงขาลงของราคาขายที่อยู่อาศัย ซึ่งหากลูกค้าเร่งตัดสินใจซื้อก็จะทำให้ไม่ต้องไปแบกรับต้นทุนใหม่หลังมีการปรับราคาขายขึ้นอีกรอบ”
อย่างไรก็ตามการปรับตัวของราคาน้ำมันและต้นทุนการก่อสร้างสร้างไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ประกอบการจะ นำมาเป็นข้ออ้างในการปรับราคาขายเพียงอย่างเดี่ยว เพราะในฐานะผู้ประกอบการมืออาชีพ ผู้ประกอบการเองก็ต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์เพื่อสามารถพัฒนาสินค้าให้มีราคาเหมาะสม และสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ ซึ่งในส่วนของลูกค้านั้นการปรับราคาอาจจะมีผลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าที่อยู่อาศัย ซึ่งยังคงเป็นสินค้าที่มีความจำ เป็นปัจจัย4ของการดำรงชีวิตของมนุษย์ แม้จะมีการชะลอซื้อ แต่ความต้องการยังมีอยู่ต่อเนื่อง ดังนั้นโจทย์ของผู้ประกอบการ คือ ทำอย่างไรให้สินค้าที่ผลิตออกมาตรงความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด.
|
|
|
|
|