|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทีวีไดเร็ค สยายปีก ลุยโฮมชอปปิ้งเต็มรูปแบบ ทุ่ม 60 ล้านบาท ผนึกเครือข่ายเคเบิล ทีวีดาวเทียม เปิดช่องใหม่ ทั้งวัน ประเดิมกลางปีนี้ มั่นใจโกย 140 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีนี้ ส่งผลทั้งปีโต 10% ทะลุ 1,250 ล้านบาท
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจไดเร็คมาร์เก็ตติ้งหรือการตลาดแบบตรง เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รุกช่องทางการขายใหม่ด้วยการเปิดตัว “โฮมชอปปิ้ง” โดยลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนทางด้านอุปกรณ์และฮาร์ดแวร์ 10 ล้านบาท และลงทุนด้านผลิตรายการและค่าขึ้นสัญญาณกว่า 50 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในกลางปีนี้ โดยจะเปิดตัวช่องแรกในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้บริษัทฯจะร่วมมือกับทางผู้ประกอบการเคเบิลเทีวีและในระบบทีวีดาวเทียมในการใช้ช่องสัญญาณเพื่อดำเนินงานช่องโฮมชอปปิ้ง ซึ่งในช่วงแรกนี้ อยู่ระหว่างการเจรจากับทางผู้ประกอบการเครือข่ายเคเบิลกว่า 4-5 ราย และจะเปิดตัวเป็นทางการเครือข่ายแรกในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
รูปแบบรายการแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกเป็นรายการแนะนำสินค้าหรือ Infomercial จากฟรีทีวีที่ผ่าน กบว. แล้วมาออกอากาศ เฟสที่ 2 เริ่มทำ Home Shopping อย่างครบวงจรและสมบูรณ์แบบ ทั้งสินค้าและบริการต่างๆ ที่สามารถสั่งได้จากที่บ้าน เช่น การจัดส่งดอกไม้ สำนักกฎหมาย ทนายความ แอร์ไลน์ ปรึกษาเรื่องทรงผม ส่วนเฟสที่ 3 เป็นการทำ Live Show โดยจะเริ่มตั้งแต่วันละ 1 ชั่วโมง ถึง 4 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมทุกด้าน
โดยบริษัทฯมีพันธมิตรที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการประมาณ 400 ราย แบ่งเป็นของบริษิทฯเองประมาณ 60% และของซัปพลายเออร์ 40% โดยสินค้าหลักๆที่ทำรายได้ดีคือ สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ เพราะมีมาร์จิ้นสูง
สำหรับเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกันนั้น เจ้าของสินค้าและบริการ ต้องเสียค่าการตลาด ค่าส่วนแบ่งการขาย และค่าผลิตรายการ ทั้งนี้มูลค่าเท่าใดขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า และสถานะของสินค้า หากเป็นสินค้าใหม่ล่าสุดก็อีกแบบหนึ่ง ส่วนสินค้า มือหนึ่งและ Dead Stock หรือสินค้า Clearance ก็ต่างกันไป
“รุปแบบใหม่นี้น่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราขยายฐานทางการตลาดมาก ซึ่งปัจจุบันเรามีฐานลูกค้ากว่า 9 แสนราย และมีการซื้อซ้ำเฉลี่ย 1.35 ครั้งต่อคนต่อปี ขณะที่การออกอากาศผ่านเคเบิลทีวีนั้นจะมีกลุ่มคนดูมากกว่า 2 ล้านครัวเรือนที่รับชมได้ จากเดิมที่เราก็มีรายการผ่านทางฟรีทีวีอยู่แล้ว 4 ช่อง คือ 3, 5, 7 และ โมเดิร์นไนน์” นายทรงพลกล่าว
นายทรงพลกล่าวด้วยว่า ถึงแม้ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยจะอยู่ในช่วงขาลงว่า “เราไม่เคยมองว่าเป็นเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง เพราะการทำการตลาดเจาะจงเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) นั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเศรษฐกิจว่าจะเป็นช่วงไหนขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในการที่ต้องทำทั้ง ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนของกระเป๋าเงินลูกค้า (Share of Wallet) ให้มากขึ้น ตั้งแต่การเตรียมการขาย การเตรียมทีมบริหารสินค้า ทีมผลิตรายการด้วยการนำเสนอความเป็นครีเอทีฟ
จากช่องทางใหม่นี้มั่นใจว่าบริษัทฯจะสามารถทำรายได้มากกว่า 70 ล้านบาทในครึ่งปีนี้ และตั้งเป้าหมายรายได้ 1 ปีแรกของการดำเนินงานที่ 140 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 1,250 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จากปีที่แล้วที่มีประมาณ 1,150 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้แต่ละช่องทางมีดังนี้ 1.ทางสื่อทีวี เคเบิลทีวี ทีวีดาวเทียม 50% 2.ไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง ผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ ไดเร็คเมลล์ ประมาณ 30% 3.ช่องทางค้าปลีก 20%
|
|
|
|
|