Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2530
ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ผู้หวังไต่เต้าด้วยตนเอง             
 


   
search resources

วีระชัย เตชะวิจิตร์
Law




เมื่อครั้งที่จิ๋นซีฮ่องเต้ขึ้นครองราชบัลลังก์ และยึดกุมอำนาจทั้งแผ่นดินไว้ในครอบครองแล้วสิ่งหนึ่งที่จิ๋นซีฮ่องเต้กระทำ เพื่อปกป้องเอาไว้ซึ่งอาณาจักรและรวบรวมแผ่นดินจีนทั้งมวลเอาไว้ในอาณาจักรนั่นก็คือ การรวบรวมเอาบุคคลชั้นยอดทุกแขนงและทุกสาขาเอาไว้กับตนเอง

จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานอะไรของสมาคมธนาคารไทยก็จะเห็นชื่อของ ดร. วีระชัย เตชะวิจิตร์ อยู่ด้วยทุกครั้งโดยเฉพาะ "พระราชบัญญัติล้มละลาย" ซึ่งสมาคมธนาคารไทยได้ทำและกำลังเสนอให้รัฐบาลพิจารณาอยู่ในขณะนี้ ก็เชื่อกันว่ามาจากดอกเตอร์หนุ่มผู้นี้

"ความคิดริเริ่มในเรื่องนี้ไม่ได้มาจากผม ผมเป็นเพียงคนที่นำความคิดของผู้ใหญ่มาทำให้มันปรากฏขึ้นมาเป็นจริงเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาวงการธนาคารไทยประสบปัญหาอย่างมาก กับการที่จะเข้าไปฟื้นฟูฐานะของลูกหนี้ที่ประสบปัญหาความคล่องชั่วคราว ทั้งนี้เนื่องจากดำเนินการผิดพลาดหรือจากเหตุสุดวิสัยเพราะพรบ. ฉบับปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยให้เจ้าหน้าที่ที่อยากจะช่วยสามารถเข้าไปช่วยได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 94๖2๗ ที่ระบุว่าหากรู้ว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้น ตัวเงินที่ใส่เข้าไปช่วยก็จะไม่มีสิทธิได้คืนหากมีการอายัดทรัพย์ความจริงผู้ที่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือ คุณธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ต่างหากท่านได้ทำหนังสือเสนอมายังสมาคมให้ช่วยพิจารณาปัญหานี้ คุณชาตรีท่านรับลูกได้เร็วและสั่งการให้ผมช่วยประสานเสนอตามขั้นตอนเข้าสู่คณะกรรมการร่วมภาครัฐบาและเอกชน (กรอ.)" ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ความไว้วางในที่ าตรี โสภณพนิช มอบให้กับดอกเตอร์หนุ่มผู้นี้ ยิ่งทำให้หลายคนยิ่งร่ำลือกันหนักขึ้นว่า ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ จะเป็นมือกระบี่ในอาณาจักรของชาตรี โสภณพนิช อีกคนหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้

ดร.วีระชัย เตชะวิจตร์ ในขณะนี้มีธุรกิจหลักของตัวเองอยู่ 2 ธุรกิจ และมีธุรกิจย่อยอีก 4-5 ธุรกิจ ธุรกิจหลักอันแรกเป็นธุรกิจซึ่งดร.วีระชัย ได้ทำสัญญากับรัฐฐบาลแคนาดาในการเป้นพี่เลี้ยงให้กับนักธุรกิจชาวแคนาดาที่จะมาลงทุนในประเทศไทย โดยทำตั้งแต่การศึกษาเบื้องต้นว่าเมืองไทยต้องการอะไร หรือที่เขาเสนอมาเมืองไทย ต้องการหรือไม่ตลอดจนช่วยในการหาบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะมาร่วมกับนักธุรกิจแคนาดาเหล่านี้ ทำตั้งแต่การศึกษาเบื้องต้นว่าเมืองไทยต้องการอะไร หรือที่เขาเสนอมาเมืองไทยต้องการหรือไม่ตลอดจนช่วยในการหาบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะมาร่วมกับนักธุรกิจแคนาดาเหล่านี้

ธุรกิจหลักอันที่สองเป็น COUNTERTRADE หรือที่เรียกกันตามภาษาไทยว่าธุรกิจการค้าต่างตอบแทน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยังทำกันน้อยมากหรือยังไม่ได้ทำกันจริงจังในเมืองไทย เนื่องจากผู้ทำธุรกิจประเภทนี้จำเป็นต้องมีความรู้ทางด้านการค้าระหว่างประเทศทะลุปรุโปร่งจริง ๆมีข่ายงานอยู่ทั่วโลก สามารถซื้อและขายสินค้า 2 ตัวในเวลาเดียวกันได้ มีหน้าที่ลึกซึ้งกว่าภาระเป็นคนกลาง เพราะต้องออกตัวซื้อและขายเอง

"อย่างเช่นในกรณีที่นักธุรกิจของเราอยากจะขายข้าวขายมันสำปะหลังหรือขายข้าวโพดอะไรอย่างนี้ แต่ผู้ซื้ออาจจะไม่มีเงินสดแต่เขามีน้ำมันหรือกากถั่วเหลือง เราก็อาจจะเข้าไปรองรับในส่วนนั้นได้ ถ้าเอามาขายในเมืองไทยได้เราก็เอามาขาย แต่ถ้าเมืองไทยขายไม่ได้ เราก็เอาไปขายประเทศที่สาม" ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ อธิบายถึงธุรกิจของบริษัท เวนเจอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่ ซึ่งมีบริษัท ฟิลิป บราเดอร์ส แห่งนิวยอร์คร่วมดำเนินธุรกิจในเรื่องนี้อยู่ด้วย

เบื้องหลังชีวิตของดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ ก็มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ มาจากครอบครัวที่มีความเป็นอยู่ค่อนข้างดี แต่เจ้าตัวเองบอกว่าไม่ถึงกับรวย เขาเกิดในกรุงเทพแต่ญาติพี่น้องได้อะพยพขึ้นไปสร้างหลักปักฐานอยู่ที่ลำปางโดยเปิดโรงงานเซรามิคอยู่ที่นั่น

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์เริ่มเรียนหนังสือที่อัสสัมชัญบางรักรุ่นเดียวกับพรเทพ พระประภา วิวัฒน์ วินิจฉัยกุล ดร.ชวนชัย อัชนันท กนก อภิระดี แต่ไปจนจบมัธยมต้นที่ดาราสมุทร ศรีราชาชลบุรี แล้วสอบเทียบมัธยมศึกษาตอนปลายได้จากกระทรวงในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน จากนั้นอีก 6 เดือนสอบเทียบได้วุฒิครูป.กศ. และ พ.ม.ก็ใช้เวลาอีก 4 ปีสอนหนังสืออยู่แถว ๆ สวนสามพรานโดยเริ่มเป็นครูประจำชั้นประถม 6 เมื่ออายุ 17 ปี ต่อมาอีก 2 ปีครึ่งได้เลื่อนเป็นครูใหญ่โรงเรียนนั้น อายุไม่ถึง 20 ปี ก็เริ่มยืนยันอบรมนักเรียนกว่าพันคนหน้าเสาธงทุกเช้า เตือนสติให้ประพฤติตัวเป็นคนดี นอกนั้นเขายังดูแลน้อยอีกกว่า 30 คน ซึ่งส่วนใหญ่อายุมากกว่าเขาเป็นครูใหญ่อยู่ได้ 2 ปี พออายุได้ 21 ปีกว่าก็เกิดปลงว่าจะต้องเป็นครูใหญ่อยู่อีกกี่ปี ถึงจะได้เป็นเจ้าของโรงเรียน พอดีเพื่อน ๆ ชวนไปขุดทองที่อเมริกาก็เลยตัดสินใจไปนิวยอร์ค โต๋เต๋อยู่นิวยอร์ค 7 เดือน ไปโรงเรียนภาคค่ำอาทิตย์ละหน เพื่อไม่ให้วีซ่าขาด นอกนั้นใช้เวลาที่เหลือทำงานแบกถาดตามห้องอาหาร ปรากฏว่า ภาษาก็ไม่ดีขึ้นเพราะนิวยอร์คมีแต่ชาวอเมริกาใต้และปอโตริโก้ พูดแต่ภาษาสเปน จึงเกิดความเซ็ง พอดีเพื่อนรุ่นพี่ชวยให้ไปเรียนหนังสือที่ตอนบนสุดของรัฐเคนตั๊กกี้ จบปริญญาตรีทางบัญชีธุรกิจที่ทอมัส โมร์ คอลเลจนั่นเอง ไปต่อปริญญาโททางด้านบัญชีที่โคลัมเบียในมหาวิทยาลัยมิซซูรี่ จบปริญญาโทแล้วก็ต่อปริญยาเอกด้านการบัญชีโดยมีธุรกิจระหว่างประเทศเป็นวิชารอง ที่มหาวิทยาลัยมิซซูรี่ ในระหว่างที่ศึกษาปริญญาเอกอยู่ ดร.วีระชัย ได้เริ่มสอนหนังสือโดยในปี 2517 เริ่มเป็นอาจารย์สอนเทอมละหนึ่งวิชา จากนั้นก็ได้งานสอนเต็มเวลาเป็นอาจารย์ที่โคลัมเบียคลอเลจอยู่ 2 ปี ต่อมาขยับขึ้นเหนือไปเป็นผู้ช่วยศาตราจารย์มหาวิทยาลัยเนแบรสก้าในโอมาฮาอยู่อีก 2 ปี พ.ศ. 2523 เป็นรองศาสตราจารย์มหาวทิยาลัยเนวาด้าที่ลาสเวกัส รวมเวลาสอนเรียนที่อเมริกานานถึง 6 ปี ชนะรางวัลครูดีเด่นประจำภาควิชาหรือประจำคณะทุกมหาวิทยาลัยมีฝรั่งเป็นลูกศิษย์รวมประมาณ 1,500 คน

ช่างน่าทึ่งเดียวสำหรับคนไทยตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง กับงานสอนฝรั่งที่ค่อนข้างจะดูถูกคนผิวเหลือง

ส่วนทำไมถึงกลับเมืองไทยนั้น ดร.วีระชัย เล่าให้ฟังว่า "ความจริงไม่ได้ตั้งใจกลับเพราะคิดว่าคงหางานเหมาะ ๆ ทำในเมืองไทยไม่ได้ ตัวเราก็สุขสบายในอเมริกา สอนเรียนอาทิตย์ละ 2 วัน วันละ 3-4 ช.ม. นอกนั้นก็ประกอบธุรกิจที่ปรึกษา และตรวจสอบบัญชี เรพาะมีประกาศนียบัตรตรวจสอบบัญชีของอเมริกา บังเอิญมาเที่ยวบ้านตอนปีใหม่ 2524 ตั้งใจจะมาชวนคุณพ่อไปอยู่อเมริกาเพราะเพิ่งได้งานสอนเรียนที่ ยู ซี แอล เอ (UCLA) ในแอลเอแต่กลับถูกคุณพ่อชวนให้มาอยู่เมืองไทยสัก 1 ปี เพราะท่านเห็นว่าผมจากบ้านไปนานถึง 12 ปี ผมก็ใจอ่อนเพราะท่านอายุ 73 แล้วในตอนนั้น ตั้งใจจะมาอยู่เพียง 1 ปีจริง ๆ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเพราะยังไม่มีงานในเมืองไทยกลับมาอยู่เฉย ๆ ก็คงไม่ดีเสียดายชีวิตและเวลา บังเอิญพี่เขยแนะนำให้รู้จักกับคุณปักคุง ซึ่งเป็นนายกสมาคมผู้เลี้ยงนกพิราบซึ่งเป็นเพื่อนของคุณธนินท์ เจ้าของ ซีพี หลังจากที่คุณปักคุงช่วยโฆษณาสรรพคุณ คุณธนินท์ก็เชิญทานข้าวเที่ยงบ่ายนั้น ผมก็เลยตัดสินใจกลับมาเมืองไทย"

เริ่มงานกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ในเดือนมิถุนายน 2524 โดยนั่งอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ของเครือเจริญโภคภัณฑ์หรือ ซีพี ตั้งแต่ผู้ช่วยพิเศษของธนินท์ เยรวรนนท์ ด้านการค้าต่างตอบแทนของเครืออยู่พักหนึ่ง จากนั้นเป็น กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด กรรมการรองผู้จัดการบริษัท ซีพีเอ็นจิเนียริ่ง และควบกรรมการรองผู้จัดการ บริษัทกรุงเทพอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ นั่งอยู่ในเครือ ซีพี ได้เพียง 4 ปีก็ลาออก

"ความจริงแล้วผมไม่ตั้งใจจะลาออกจากซีพี เจ้านายของผมคือคุณธนินท์ เจียรวรนนท์นั้นเป็นคนที่เรียกว่าอัจฉริยะได้เต็มปากเต็มคำเลยทีเดียว ตามปกติแล้วคนอย่างเรามองปัญหาต่าง ๆ ได้เพียง 4 มุม คุณธนินท สามารถมองเห็นปัญหาเหล่านั้นได้ถึง 32 มุม ท่านเป็นคนที่มองอะไรได้ลึกซึ้งและกว้างไกลมาก และสนใจในสิ่งที่ละเอียด มีการคาดคะเนล่วงหน้า เป็นคนที่เก่งมาก และก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายที่เราจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนประเภทอย่างนี้"

ดร.วีระชัยกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ย้ำถึงคำว่าไม่อยากที่จะออกอยู่หลายคำ แต่ในที่สุดก็ต้องออกมา ความใกล้ชิดกับคนที่ตัวเองชมว่าเก่งก็จบลงอยู่เพียงแค่นั้น

"แต่อย่างว่าแหละครับตัวแปรมีหลายตัว เรื่องอะไรที่ต้องออกก็ในเมื่อตัวเองอยู่ในทีมของบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่อยู่แล้ว และผมเองก็ทำอยู่กับท่านอยู่หลายปี ได้เรียนรู้โครงการใหญ่ ๆ ได้เห็นอะไรมากมายแต่ก็ต้องถึงจุด ๆ หนึ่งเข้าจนได้ เมื่อมีโอกาสที่ผ่านเข้ามา นี่พูดกันตรง ๆ นะ และก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ ว่า งานที่ทำอยู่ในซีพี ตอนนั้นใช้กำลังของผมอยู่จริง ๆ ยังไม่ถึงครึ่ง ก็อย่างว่าตอนนั้นไฟมันแรง แล้วงานก็ยังไม่ตื้นเต้น ทั้ง ๆ ที่ดูแลตั้งหลายกิจการแล้วก็บังเอิญงานของรัฐบาลแคนาดาก็เข้ามา"

คนหนุ่มไฟแรงอย่างดอกเตอร์หนุ่มผู้นี้ จึงกระโดดเข้าสู่ธุรกิจของตัวเองทันที ธนินท์ เจียรวนนท์ ใช้เวลาพูดกับดอกเตอร์หนุ่มไฟแรงผู้นี้ถึง 2 วันในที่สุดก็ยอมแพ้กับไฟที่กำลังพลุ่งพล่านของดอกเตอร์หนุ่มผู้นี้

ต่อข้อถามถึงเคล็ดลับความาสำเร็จในช่วงสั้น ๆ ที่กลับมาจากเมืองนอก ดร.วีระชัย เผยให้ฟังว่า "ผมยังไม่สำเร็จอะไรมากนัก แต่ถ้าขอความเห็นส่วนตัวซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ก็อยากจะขอเรียนว่า การให้เกียรติแก่ผู้ที่สนทนาหรือร่วมประชุมด้วย หรือร่วมทำงานด้วย จะไม่ทำให้เราจนลง แต่ทำให้ผู้ร่วมสนทนาหรือผู้ร่วมงานมีความสุขยิ่งกว่าได้รับเงิน และต้องการสนับสนุนเรา ในสังคมเมืองไทยเราต้องหลีกเลี่ยงอย่าให้มีศัตรูหรือคนที่ไม่ชอบหน้าเราเพราะอาจจะถูกตัดขาได้ง่ายนอกนั้น เราจะต้องเป็นคนที่ขยันและซื่อสัตย์ พูดง่าย ๆ ก็คือ คำพูดของเราต้องเป็นที่เชื่อถือได้ 100% เป็นอย่างน้อย"

เกือบ 2 ปีแล้วที่ ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์ กระโดดเข้าสู่ธุรกิจที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

"ถ้ามันประสบความสำเร็จเราก็สามารถภาคภูมิใจและยิ้มให้กับมันได้เต็มที่"

"ผมก็คงยังสังกัดค่ายเวนเจอร์ส ของผมต่อไป เพราะทำไปทำมาชักบานปลายเข้าไปหลายโครงการ อีกอย่างก็คิดว่าคงไม่มีใครกล้ามาลงทุนในตัวผมเพราะไม่เห็นมีอะไรเด่นเก่งเป็นพิเศษเลย"

ดร.วีระชัย เตชะวิจิตร์กล่าวอย่างสุภาพในท้ายที่สุดเมื่อถูกถามว่า ต่อไปจะไปสังกัดค่ายไหน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us