Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน12 มิถุนายน 2552
ราคาน้ำโลกดึงหุ้นไทยโต2จุด             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยดีดตัวตามราคาน้ำมันโลก แรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยดัน ดัชนียืนแดนบวกเพิ่มขึ้นอีก 2.52 จุด วอลุ่มซื้อขายทะลุ 3.4 หมื่นล้าน แม้ผลชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงของ “ซิโน-ไทยฯ”สร้างแรงเทขาย ด้านรายย่อยยิ้มแก้มปริฟันกำไรหลังขายสุทธิไปถึง 2.26 พันล้านบาท โบรกเกอร์ ย้ำอย่าวางใจ ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มีโอกาสผันผวนได้ทุกเมื่อ เห็นพ้องทยอยขายทำกำไรและสั้น และลดพอร์ตลงทุน ปลอดภัยกว่า

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (11มิ.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 2.52 จุด หรือ 0.40% โดยตลอดทั้งวันดัชนีฯแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกจนแตะระดับสูงสุดที่ 633.25 จุด อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงเทขายเข้ามาบ้างแต่ก็สามารถปิดตัวได้ที่ระดับ 627.07 จุด ขณะที่จุดต่ำสุดของวานนี้ยู่ที่ระดับ 624.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,257.74 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า หุ้นไทยวานนี้ค่อนข้างแกว่งตามตลาดภูมิภาคที่แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาดฯ หลังจากที่ราคาน้ำมันได้ขยับตัวขึ้นไป แต่ในระหว่างเทรดตลาดฯเริ่มอ่อนแรง ภายหลังจากที่รฟม.ประกาศผลประกวดโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง สัญญาที่ 2 ออกมาแล้ว ทำให้มีการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 156 หลักทรัพย์ ลดลง 207 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 110 หลักทรัพย์ และเมื่อแบ่งเป็นประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,159.62 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 102.59 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิเพื่อทำกำไรถึง 2,262.22 ล้ายบาท

นายวีระชัย ครองสามสี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟาร์อีสท์ จำกัด เปิดเผยว่า วานนี้( 11มิ.ย.) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แกว่งตัวค่อนข้างรุนแรง โดยช่วงเช้ามีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นกลุ่มพลังงานจากแรงหนุนของราคาน้ำมันโลกที่ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 72.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ช่วงบ่ายจากข่าวการชนะประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญาที่ 2 ของบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ประกอบราคาหุ้นของแต่ละตัวที่สูงมากในปัจจุบันจึงทำให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาในช่วงท้ายของการซื้อขาย แต่เมื่อปิดตลาดก็ยังสามารถยืนในแดนบวกได้

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้(12มิ.ย.) คาดว่ายังเพิ่มขึ้นอีก โดยนักลงทุนควรจับตาราคาน้ำ มันโลก ดัชนีดาวโจนส์ และปัจจัยในประเทศ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ควรทยอยเทขายทำกำไรระยะสั้นและลดพอร์ตการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้ประเมินแนวรับอยู่ที่ 615-620 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 630-650 จุด

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมากท่ามกลางการเก็งกำไรของนักลงทุนต่อราคาน้ำมันโลก ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งช่วงท้ายตลาดมีแรงเทขายทำกำไรออกมาจนดัชนีปรับลดลงอยู่ที่ 627 จุด จากช่วงเช้าที่ขึ้นไปอยู่ที่กว่า 633 จุด ส่วนปัญหาทางการเมืองไม่ได้มีผลต่อการปรับขึ้นลงของดัชนี เนื่องจากไม่ประเด็นสำคัญอะไรที่กระตุ้นหรือฉุดความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน

“บรรยากาศซื้อขายหุ้นไทยวันนี้ เชื่อว่าดัชนีคงเคลื่อนไหวผันผวน ผลจากการเก็งกำไรช่วงสั้นของนักลงทุน หลังราคาหุ้นดีดขึ้นติดต่อหลายวัน ดังนั้นจึงแนะนำให้ควรเทขายหุ้นออกมาเมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยให้กรอบแนวรับที่ 620 จุด ส่วนแนวต้านที่ 630 จุด”

นายถนอมศักดิ์ สหรัตนชัย ผู้บังคับบัญชา สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (CNS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ค่อนข้างแกว่ง ซึ่งไม่แตกต่างจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดบ้านเราได้มีการปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดเพื่อนบ้านค่อนข้างมาก โดยมีหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาดฯหลังจากที่ราคาน้ำมันได้มีการขยับตัวขึ้นไป

ทั้งนี้ ในระหว่างเทรดจะเห็นได้ว่าตลาดฯได้เริ่มอ่อนแรงลง ภายหลังจากที่รฟม.ประกาศผลประกวดโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง สัญญาที่ 2 ออกมาแล้ว ทำให้มีการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเล่นเก็งกำไรรอผลประมูลดังกล่าว ดังนั้นการปรับตัวลงก็เป็นเรื่องธรรมดา

“นักลงทุนควรติดตามการเปิดประมูลพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ อายุ 30 ปีในวงเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมองว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรคงจะปรับตัวขึ้นต่อ และอาจจะทำให้มีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าตลาดพันธบัตร แต่เชื่อว่าบางส่วนจะยังคงลงทุนในตลาดทุน ซึ่งตลาดฯคงจะไร้ทิศทางทางที่ชัดเจน ดังนั้นหากจะลงทุนควรจะรอให้อ่อนตัวลงก่อนแล้วค่อยซื้อ เพราะในทางเทคนิคก็แสดงให้เห็นถึงการปรับฐานอยู่ด้วยหลังจากที่ตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(12 มิ.ย.)นายถนอมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะรีบาวน์ก่อน แล้วค่อยปรับฐานทีหลัง โดยมีแนวรับ 620 จุด แนวต้าน 635 จุด พร้อมแนะให้เลือกเล่นเป็นรายตัวในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มน้ำมัน และเดินเรือเป็นหลัก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us