ดูเม็กซ์ ฉวยตลาดนมเด็กระดับกลางขาขึ้นโตพรวด 5% ในรอบ 2ปี รับอานิสงส์พิษเศรษฐกิจ พ่อแม่แห่ซื้อนมระดับกลางแทนพรีเมียม เดินเกมรุกปรับโพซิชันนิ่ง"ดูโกร"ทั่วโลก อัดฉีด 200ล้านบาท ลุยตลาดในไทย ชูคอนเซปต์โภชนาการ”ฅอมพลีตแฅร์” 3 ประการตอบโจทย์พ่อแม่สมัยใหม่ ดันแชร์เพิ่มเป็น 45% รั้งผู้นำตลาด

นายนิค แวน เอ็กเซล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูเม็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมดูเม็กซ์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบ 200ล้านบาท จากงบกลุ่มนมระดับกลางโดยรวม 250 ล้านบาท ปรับตำแหน่งผลิตภัณฑ์นมระดับกลาง “ดูโกร”ใหม่ทั่วโลก เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อันเนื่องจากผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้พ่อแม่หันไปซื้อนมระดับกลางแทนนมพรีเมียม จากปัจจุบันนมระดับบนมีราคาสูงกว่าระดับกลาง 50-100% ทิศทางดังกล่าวส่งผลให้เซกเมนต์นมระดับกลางมูลค่า 3,500ล้านบาท กลับมามีการเติบโต 5% ในปีนี้จากช่วง 2ปีที่ผ่านมา ติดลบมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนนมระดับบนพรีเมียมมูลค่า 6,600ล้านบาท เติบโต 4-5% จากช่วงภาวะเศรษฐกิจดีมีการเติบโตถึง 20% โดยพ่อแม่ที่มีลูกในกลุ่มเด็กโตเป็นกลุ่มที่หันมาซื้อนมระดับกลางแทนระดับบน อย่างไรก็ตามการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์นม พ่อแม่สมัยใหม่มีความฉลาดมากขึ้น คำนึงถึงมูลค่าหรือประโยชน์ที่จะได้รับเป็นหลัก ซึ่งแม้ว่าจะมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่การเปลี่ยนไปซื้อนมระดับล่างมีไม่มากนัก โดยพบว่า เซกเมนต์ล่างมูลค่ากว่า 880ล้านบาท ปีนี้เติบโตไม่ถึง 5%

สำหรับการปรับตำแหน่งการตลาด ดูโกร ชูคอนเซปต์โภชนาการ “ฅอมพลีตแฅร์” ตอบโจทย์ความต้องการ 3 ประการ คือ พัฒนาการทางร่างกาย ระบบย่อยอาหาร และการเรียนรู้ทางสมอง จากเดิมมุ่งให้ความสำคัญด้านสารอาหาร อาทิ ดีเอชเอ เป็นหลัก พร้อมกันนี้ปรับการสื่อสารเพื่อทำให้ผู้บริโภคเข้าใจง่ายขึ้น และยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ทันสมัยและสะดุดตา

“ประเทศไทยเป็นแห่งที่ 2 ในภูมิภาคเอเชีย หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวที่ประเทศจีน ส่วนยุโรป ได้ทยอยปรับไปแล้วในประเทศอังกฤษ เยอรมัน สเปน เป็นต้น ซึ่งการปรับตำแหน่งในแต่ละประเทศในครั้งนี้ ส่งผลให้มีการเติบโตโดยเฉลี่ย 5-20%”

ทั้งนี้บริษัทดำเนินการตลาด 360 องศา ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “ดูโกร สร้างสุขให้ลูกครบทุกพัฒนาการ” ในวันที่ 31 ก.ค.-2ส.ค. ที่ เซ็นทรัล พระราม 2 โดยจากการวางตำแหน่งดูโกรใหม่ คาดว่าผลักดันให้ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 45% จาก 43% ส่วนอันดับ 2 คือ เนสท์เล่ มี 37%

นายนิค แวน เอ็กเซล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้บริษัทค่อนข้างทุ่มงบการตลาดไปในเซกเมนต์นมระดับบน แต่ปีนี้มุ่งนมระดับกลางเป็นหลัก อย่างไรก็ตามบริษัทเตรียมแผนกระตุ้นตลาดนมระดับบนของดูเม็กซ์ หลังจากที่ตลาดชะลอการเติบโตลง โดยคาดว่าจะดำเนินการตลาดในช่วงไตรมาส 3 เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 2จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 30% ส่วนผู้นำตลาดมี้ดจอห์นสัน 40%

สำหรับแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กมูลค่า 1.1หมื่นล้านบาท ในปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 2-5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเติบโต 6% เนื่องจากอัตราการเกิดของเด็กไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะติดลบมากกว่า 1.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาติดลบ 1.7% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีอัตราการเกิดติดลบมากกว่า 1%

อย่างไรก็ตามในฐานะผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็ก ยังมองว่าตลาดนมในประเทศยังมีศักยภาพเติบโตดีมาก โดยเฉพาะเด็กโตอายุระหว่าง 1-5 ปี ซึ่งยังสามารถดำเนินการตลาดเพิ่มความถี่ในการดื่มนมได้