ไทยเบฟฯ ปรับยุทธศาสตร์ฝ่ามรสุมกฎเหล็ก-ภาครัฐรีดภาษี เดินเกมลุยขยายตลาดต่างประเทศ วางเป้าหมายรายได้ส่งออกระยะยาว 50% เดินหน้าเทคโอเวอร์โรงงานต่างประเทศ หวังปูพรมสร้างฐานการผลิตเต็มสูบ อัดงบ 346 ล้านบาท ซื้อโรงเหล้ายูนยาน ส่วนตลาดในประเทศ มุ่งขยายนอนแอลกอฮอล์ ปลายปีปั้นฟังก์ชันนัลดริงก์ ลงสมรภูมิ

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเบียร์ช้าง สุราสีและสุราขาว เปิดเผยว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะยาว ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศเชิงรุกในสัดส่วน 50% ส่วนภายในประเทศ 50% ล่าสุดได้ทุ่มงบกว่า 346 ล้านบาท (69ล้านหยวน)ซื้อกิจการโรงงานผลิตสุราภายใต้บริษัท ยูนนาน ยูลินกวน ริคเกอร์ ในประเทศจีนเดือนเมษายน

สำหรับยูนนาน ยูลินกวนฯ เป็นบริษัทที่เก่าแก่มีอายุ 250 ปี การซื้อกิจการทำให้ง่ายต่อการขยายธุรกิจสู่ประเทศจีน โดยในมณฑลยูนยานมีประชากร 45 ล้านคน มีตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 200 ล้านลิตร มูลค่าตลาด 2 หมื่นล้านหยวน ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปซื้อโรงงานสุราในสก็อตแลนด์ 5 แห่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจต่างประเทศ

ปัจจัยที่ทำให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ ส่วนหนึ่งเพื่อการเติบโตของธุรกิจ และมาจากสภาพตลาดภายในประเทศ จากการมีพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีการปรับภาษีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดกลุ่มเบียร์และเหล้าขาวได้ปรับภาษีขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีผลทำให้ราคาสินค้าต้องปรับเพิ่มขึ้นสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายฐาปน กล่าวว่า ผลพวงจากการปรับภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น เชื่อว่าผู้ประกอบการแต่ละค่ายคงได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกันมากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าภาครัฐควรมีรณรงค์ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควบคู่ไปด้วย ล่าสุดบริษัทไทยเบฟฯ ได้ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโฆษณา”รอยยิ้มของพ่อ”

ลุยขยายนอนแอลกอฮอล์ในประเทศ

นายฐาปน กล่าวต่อถึงการทำตลาดภายในประเทศ บริษัทโฟกัสการขยายกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ให้มากขึ้น โดยมุ่งในเชิงนโยบายด้านการสร้างตลาดและการซื้อกิจการ หลังจากก่อนนี้ซื้อกิจการโออิชิ กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจชาเขียวพร้อมดื่มและร้านอาหารญี่ปุ่น ส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทมีสินค้าในกลุ่มปราศจากแอลกอฮอล์ ได้แก่ น้ำดื่มช้าง โซดา กาแฟแบล็กอัพ และเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว อย่างไรก็ตามการเติบโตของกลุ่มปราศแอลกอฮอล์ไม่สามารถเทียบเท่ากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการเติบโตในปีนี้จะมาจากการปรับราคาเพิ่มขึ้นอันเนื่องจากภาษี

นายสมชัย สุทธิกุลพาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์กำลังอยู่ระหว่างการจัดการใหม่ ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเทรนด์ของตลาด ซึ่งพบว่ามีศักยภาพและมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก จากการที่พฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ

โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างศึกษาตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะเปิดตัวฟังก์ชันนัลเกี่ยวกับสุขภาพ ส่วนเครื่องดื่มชูกำลังเน้นส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดยส่งออกไปยัง พม่า ลาว เขมร จากสถานการณ์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังภายในประเทศที่ไม่เติบโต