|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ในจินตนาการของคนทั่วไปต้องคิดว่า Victoria บนเกาะแวนคูเวอร์ของประเทศแคนาดา เป็นนครที่สะท้อน ความเป็นอังกฤษได้อย่างสง่างามและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของครีมข้นและแยมสตรอเบอร์รี่ อาจพูดได้ว่าความสวยงามราวภาพวาดในฝันของสถาปัตยกรรมที่ตกทอดต่อๆ กันมาจนกลายเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่น่าจะเป็นผลงานของ Francis Mawson Rattenbury สถาปนิกชาวอังกฤษ ผู้ออกแบบ โรงแรม Empress Hotel สไตล์ chateau ที่ก่อสร้างโดยการรถไฟ Canadian Pacific Railroad เมื่อปี 1908 อย่างไรก็ตาม ในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เกิดภาพวาดในฝัน แห่งใหม่ปรากฏขึ้น แม้จะไม่เป็นที่สังเกตของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็ตาม แต่สำหรับคนในท้องที่แล้วชื่นชมและภาคภูมิใจมากโดยเฉพาะ Mike Miller เจ้าของธุรกิจก่อสร้างหนุ่มผู้ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งพูดถึงชายหาด Gonzales Beach ว่า "ต้องถือว่าที่นี่เป็น Malibu ของ Victoria เลยก็ว่าได้"
Gonzales Beach เป็นชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยวตั้งอยู่บนอ่าวที่มีคลื่นลมสงบและอยู่ห่างจากย่านใจกลางเมืองเพียง 5 นาที ที่นี่เองที่ Miller เพิ่งสร้างบ้านพักร่วมสมัยสไตล์ "West Coast" ให้กับตัวเองและครอบครัวขึ้นมา โดยเขาออกแบบร่วมกับ Wil Peereboom แห่งบริษัท Victoria Design Group
เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนทำเลทองคือเห็นวิวทิศตะวันตก เฉียงใต้ของเทือกเขา Olympic Mountains ที่อยู่ในรัฐวอชิงตันได้เต็มตา จึงทำให้นักออกแบบทั้งคู่ไม่พลาดโอกาสที่จะออกแบบ ให้หน้าต่างมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของทัศนียภาพให้จุใจ
Miller ยังต้องการบ้านที่มีความโดดเด่นเอามากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเคารพต่อภาพรวมของเกาะแวนคูเวอร์ด้วย เกาะแห่งนี้มีลักษณะเด่นอยู่ที่ป่าทึบของต้นซีดาร์และท้องทะเลอันกว้างใหญ่ดังที่ Miller สรุปสั้นๆ ว่า "ผมไม่ต้องการวิลล่าสไตล์เม็กซิกันที่มาสร้างอยู่บนชายฝั่ง Northwest Coast แห่งนี้ แต่อยากมีบ้านที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับเมืองทั้งเมือง"
เมื่อมองจากถนนเข้ามาจะเห็นตัวบ้านที่สร้างจากไม้ซีดาร์ กระจก อะลูมินัม ทองแดง และคอนกรีตนี้แลดูเรียบง่าย แต่ในความเป็นจริงหาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เพราะทันทีที่ก้าวพ้นประตูหน้าบ้านทำด้วยเหล็กและไม้ซีดาร์เข้าไปถึงห้องโถงข้างใน คุณจะไม่เห็นส่วนที่เป็นเหลี่ยมมุมเลย เพราะภายในตัวบ้านเน้น "รูปทรงกลม" ทั้งหมดนับตั้งแต่โถงทางเข้ารูปทรงกลมสูงสองชั้น นอกจากนี้ห้องทุกห้อง หน้าต่างและประตูทุกบาน รวมทั้งโต๊ะตู้ล้วนมีทรงกลมหรือไม่ก็เป็นรูปโค้งเป็นส่วนใหญ่
ถ้าจะพูดว่าธรรมชาติเกลียดความเป็นสุญญากาศล่ะก็ Miller เองก็เกลียดรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกัน "เมื่อจะออกแบบบ้าน คุณมักจะนึกถึงมุม 90 องศา แต่ผมต้องการสิ่งที่แตกต่างออกไปและอยากให้เห็นภาพในมุมกว้างด้วย"
แบบแปลนที่ค่อนข้างจะท้าทายนี้ยังรวมถึงหน้าต่างสูง 12 ฟุตจากพื้นจรดเพดานด้วย สำหรับมัณฑนากรอย่าง Robyn Meredith Bryson ซึ่งเป็นชาวเมือง Victoria โดยกำเนิดนั้น การออกแบบบ้านที่เน้นทรงกลมและใช้กระจกแบบไม่อั้นนี้ต้องถือเป็นความท้าทายอันงามวิจิตรและอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม เธอยอมรับว่า "กระจกมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในงานออกแบบมากมาย นอกจากนี้เรายังต้องจำกัดวงอยู่กับส่วนโค้งทั้งหมด ตั้งแต่บันไดวนไปจนถึงคร่าวฝ้าเพดาน (ceiling beam)"
เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยรูปทรงกลม เฟอร์นิเจอร์รูปแบบมาตรฐานที่เห็นกันอยู่ดาษดื่น จึงไม่ใช่สิ่งจำเป็น มัณฑนากรสาวอย่าง Bryson จึงใช้วิธีสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งใจให้เป็นแบบย้อนยุคกลับไปสู่ช่วงทศวรรษ 1970 และแบบ Modern ที่นิยมกันในช่วงกลางศตวรรษ ตัวอย่างคือในห้องนั่งเล่น ซึ่งเธอออกแบบให้ชุดโซฟากลางห้องเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยเบาะนั่งแต่ละตัวหุ้มด้วยหนังสีส้มและขนาบด้านหลังด้วยไม้อัด (ดูรูปประกอบ)
งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์เชิงสร้างสรรค์นี้ยังสะท้อนให้ เห็นอย่างชัดเจนในห้องนอนใหญ่ซึ่งติดตั้งหน้าต่างสูง 12 ฟุตถึง 3 บานไว้ให้นอนชมวิวเล่น Bryson อธิบายแนวคิดของเธอ ว่า "เพราะทุกอย่างเป็นกระจกหมดจึงไม่จำเป็นต้องมีผนังอีก ดังนั้น เตียงนอนจึงต้องใช้ประโยชน์ได้แบบอเนกประสงค์ด้วย" เตียงอเนกประสงค์ที่ว่านี้เป็นเตียงโดดที่แกะสลักจากไม้วอลนัท มีโต๊ะข้างเตียงและ Headboard ครบถ้วน แถมยังมีลิ้นชักสำหรับเก็บโทรศัพท์และนาฬิกาปลุก ส่วนที่ตั้งโทรทัศน์จะอยู่ตรงปลายเตียงคือสามารถตั้งบนกล่องเก็บผ้าห่มทำด้วยไม้วอลนัทได้อย่างสะดวกและเก๋ไก๋ด้วย
ที่น่าทึ่งสำหรับบ้านหลังนี้ซึ่งไม่ค่อยมีใครล่วงรู้มากนักก็คือ โรงเก็บรถใต้ดินซึ่งต้องลงไปด้วยลิฟต์ไฮดรอลิก เป็นที่ที่ Miller ใช้เก็บ รถรุ่นลายครามคอลเลกชั่นโปรดของเขาโดยเฉพาะ เช่น รถ Ferrari Dino 1972 สีแดงสดใสสะดุดตา และ Porsche 1960 ซึ่งเจ้าตัวอธิบายว่า
"ผมเป็นผู้ชายและอยากได้โรงเก็บรถขนาด 3 คัน แต่มีปัญหาคือที่คับแคบจนไม่สามารถสร้างได้ ตอนนั้นผมกำลังรับงานก่อสร้างโครงการที่ต้องมีโรงเก็บรถใต้ดินด้วย ทำให้ผมถามตัวเองว่า แล้วทำไม ไม่สร้างที่บ้านของตัวเองด้วยล่ะ?"
ในวันที่อากาศดี สามีภรรยา Miller กับลูกเล็กๆ สองคนจะไปอยู่ด้วยกันที่บริเวณลานคอนกรีตซึ่งสร้างยื่นออกมา (ดูภาพประกอบ) แล้วชี้ชวนกันดูเรือโยง เรือครูซ นกอินทรีหัวขาว และวาฬกินคนด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งกล้องส่องทางไกลด้วยซ้ำ แต่ในวันที่อากาศหนาวเย็น พวกเขาก็ยังเป็นสุขอยู่ที่ลานแสนสุขนี้ได้เพราะมีเตาผิงคอนกรีตคอยให้ความอบอุ่นอยู่พร้อมมูล
|
|
|
|
|