จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำหรับโรงพยาบาล
สินค้าส่วนตัว ภายใต้ "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน" ก่อตั้งตั้งแต่ปี
2513
แม้ตลอดเวลาจะมีความผันผวนทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งรายใหญ่ ๆ ที่ทยอยเข้ามาการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงทางด้านการตลาด
เหล่านี้ไม่ได้ทำให้จอห์นสัน แอนด์จอห์นสันในนามสินค้าคุณภาพที่วางใจได้และมีความปลอดภัยสูงท้อถอยการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต
"จอห์นสันมีนโยบายดำเนินกิจการในเมืองไทยอย่างแน่ชัด ยิ่งหลักจากได้คุณวิรัช
หลีอาภรณ์ เป็นกรรมการผู้จัดการคนไทยคนแรก การพัฒนาและแผนงานทุกอย่างจะเป็นในลักษณะ
LONG TERM ทั้งหมดรวมทั้งโรงงานด้วย" ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของจอห์นสันแอนด์
จอห์นสัน กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
เหล่านี้เป็นเพียงส่วปนระกอบให้ได้มาซึ่งรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมดีเด่น
ปี 2530 โรงงานมูลค่า 150 ล้านบาท บทเนื้อที่ 20 ไร่ จากเนื้อที่บริเวณทั้งหมด
50 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
รางวัลนี้มอบโดยกระทรวงอุตสาหกรรมคัดเลือกจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
บางปู บางชัน นวนคร และบางพลี ซึ่งมีโรงงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 200 โรงงาน
ด้วยเกณฑ์การคัดเลือกที่สำคัญ 3 ประการ โรงงานจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
ก็ผ่านเกณฑ์เหล่านี้ คือ
1. ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสายการผลิตสินค้า 2. มาตรการที่
2.
จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน 3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมเพื่อการพัฒนาสภาพแวดล้อม
"โรงงานแห่งนี้เพิ่งเปิดได้ 2 ปี และเป็นโรงงานของจอห์นสัน แอนด์
จอห์นสัน ที่นับว่าทันสมัยที่สุดในภูมิภาคนี้ ทั้งด้านการออกแบบ การวางเครื่องจักร
การขจัดฝุ่นละอองและมลภาวะ โรงงานแห่งนี้ติดแอร์ทั้งโรงงาน" คงศักดิ์
พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ซึ่งคุมโรงงานทางด้านฝ่ายผลิตของจอห์นสัน
แอนด์ จอห์นสัน มาตลอด 5 ปี กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
โรงงานแห่งนี้มีพนักงานทั้งสิ้น 250 คน ผลิตแป้งคัตต้อนบัด, LOTION, OIL,
BABY BATH, โมเดส, ผ้าอ้อมเด็กแดปเปอร์ มีเพียงสบู่และผลิตภัณฑ์ชาวเวอร์
บางตัวเท่านั้นที่ไม่ได้ผลิตจากโรงงานแห่งนี้ต้องให้ผู้ผลิตรายอื่นรับไปเพราะเครื่องจักรไม่เพียงพอ
คงศักดิ์บอก "ผู้จัดการ" ว่า จอห์นสันแอนด์จอห์นสันมองเห็นความสำคัญของความปลอดภัยในโรงงานและลงทุนทางด้านนี้สูงมาก
และก่อนหน้าโรงงานจะได้รับรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมดีเด่นนี้ได้มีการประชุมจอห์นสันแอนด์จอห์นสันภูมิภาคเอเชีย
และภูมิภาคอื่นที่กรุงเทพฯ เพื่อวางรากฐานการรักษาความปลอดภัยในบริเวณโรงงานของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันทั่วโลก
"การประชุมครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความปลอดภัยจากภูมิภาคต่าง
ๆ จะหารือกันในเรื่องนโยบายพัฒนาสภาพแวดล้อมโรงงาน โครงการกำจัดสิ่งปฏิกูลในโรงงาน
การควบคุมความเสี่ยงจากสารพิษ และระบบระบายอากาศภายในโรงงาน ซึ่งโรงงานแห่งนี้ก็เป็นไปตามนโยบายหลักของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันดังกล่าว"
คงศักดิ์กล่าวเสริม
โรงงานจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังนี้เป็นโรงงานแห่งเดียวในประเทศไทยที่ติดตั้งระบบพ่นน้ำในกรณีเกิดเพลิงไหม้อย่างกว้างขวางที่สุด
ใช้เงินเพื่อระบบดับเพลิงนี้ถึง 16 ล้านบาท ทั้งในส่วนพนักงานก็มีงบประมาณลงทุนฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยในโรงงานตลอดปี
นับว่าเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัยที่สูงเอาการสำหรับโรงงานมูลค่า 150
ล้านบาทที่ติดตั้งระบบดับเพลิงเป็นเงินถึง 16 ล้านบาท จอห์นสันแอนด์จอห์นสันวันนี้ดูจะให้ความสำคัญกับโรงงานและการผลิตมาก
อย่างไรก็ตามการผลิตย่อมต้องเกี่ยวโยงกับการตลาด ในสภาพปัจจุบันมีการแข่งขันมากขึ้น
การเพิ่มหรือลดการผลิตสินค้าบางตัวอย่างรวดเร็วอาจเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
จอห์นสันแอนดจอห์นสันมีวิธีจัดการเรื่องนี้
"สินค้าของเรามีหลายตัวผลิตตัวนั้นน้อย ตัวนี้มาก และมีสินค้าใหม่ออกมาเรื่อย
ๆ การปรับตัวเราก็ปรับให้การผลิตทดแทนกันได้ คือย้ายจากสายผลิตภัณฑ์หนึ่งไปอีกสายหนึ่ง
ถึงความชำนาญในการทำงานจะต่างกัน แต่ก็สอนกันได้ และสินค้าของเราก็มี STANDARD
เป็นคู่มือวางไว้เวลาฝึกพนักงานจึงไม่ยาก และสามารถทำงานทดแทนกันได้"
คงศักดิ์กล่าวกับ"ผู้จัดการ" ว่า ปัญหาทางด้านการผลิตไม่มี
จะอย่างไรจอห์นสันแอนด์จอห์นสันคงไม่หยุดอยู่แค่นี้ เนื้อที่โรงงานยังเหลืออีกมาก
สินค้าอีกหลายตัวกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าตลาดเมืองไทย ด้วยความเชื่อมมั่นว่าจะได้รับการต้อนรับเหมือนอย่างเคย
เช่นที่คงศักดิ์เชื่อมั่นว่า "สินค้าถ้าหลักการดี สร้างสิ่งแวดล้อมให้ดีดิ้นไม่หลุด
สินค้าออกมาอย่างไรก็ต้องดี"