|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บางจากฯหยุดทดลองเดินเครื่องหน่วยแตกตัวโมเลกุลในโครงการPQI หลังต้องปิดซ่อมหน่วยปิดเปิด-สูบถ่ายน้ำมัน ยันส่งผลกระทบต่อEBITDAไม่มาก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงประกัน ยอมรับกำลังการกลั่นหดตัวลงเหลือ 8.5 หมื่นบาร์เรล/วัน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)(BCP)เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้หยุดทดลองเดินเครื่องหน่วยแตกตัวโมเลกุล (Hydrocracking Unit) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (PQI) เพื่อซ่อมแซมระบบควบคุมอัตโนมัติในการเปิดปิดและสูบถ่ายน้ำมันของหน่วยดังกล่าว ที่เกิดความเสียหายขึ้นระหว่างการทดลองเดินเครื่อง เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดแผนการซ่อมแซม เนื่องจากต้องสั่งซื้อตัววาล์วใหม่เพราะของเดิมเสียหาย อาจใช้เวลานานในการสั่งทำ คงต้องหารือกับเจ้าของเทคโนโลยีถึงความเป็นไปได้ในการที่จะเดินเครื่องโดยไม่ต้องรออุปกรณ์วาล์วได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การหยุดทดลองเดินเครื่องหน่วยแตกตัวโมเลกุลดังกล่าว จะไม่กระทบต่อปริมาณการจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการของบริษัทฯ เนื่องจากหน่วยกลั่นเดิมสามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่จะได้ปริมาณน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น เป็น 30% จากเดิมลดลงเหลือ 10% หากโครงการPQIเดินเครื่องได้
ส่วนความเสียหายของหน่วยแตกโมเลกุล บริษัทผู้รับเหมาจะเป็นผู้รับผิดชอบและดูแล เนื่องจากโครงการPQI บริษัทยังไม่ได้รับมอบจากผู้รับเหมา อีกทั้งได้ทำประกันความคุ้มครองความเสียหายระหว่างก่อสร้างไว้ด้วย รวมถึงการคุ้มครองความเสียหายจากการเดินเครื่องล่าช้า ซึ่ง
นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า จากการหยุดการดำเนินโครงการ PQI ทำให้บริษัทต้องวางแผนกำลังการกลั่นใหม่ โดยขณะนี้กำลังการกลั่นปรับลงมาที่ 8.5 หมื่นบาร์เรล/วัน จากเดิมที่คาดว่าจะมีกำลังการกลั่นที่ 9.5 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่ก็ยังสูงกว่าปีก่อนที่กลั่นอยู่ 7.6 หมื่นบาร์เรล/วัน
จากการหยุดเดินเครื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อกำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อม ดอกเบี้ย (EBITDA) เพียงระยะสั้น เนื่องจากได้ทำประกันคุ้มครองการเสียโอกาสการผลิตของ PQI กรณีที่ไม่สามารถเดินเครื่องได้ภายใน 2 เดือน โดยจะจ่ายค่าเสียหายสูงสุดถึง 18 เดือน ซึ่งจะทำให้บริษัทสูญเสียรายได้อย่างมากที่สุดเพียง 2 เดือนเท่านั้น
ดังนั้นแม้ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แต่คาดว่า EBITDA ของบริษัทยังอยู่ในระดับใกล้เคียง 8 พันล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 8.5 พันล้านบาท และหากราคาน้ำมันโลกยังยืนได้ระดับ 50-60 เหรียญ/บาร์เรล เชื่อว่าผลประกอบการก็จะไม่กระทบมากนัก
|
|
|
|
|