Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์25 พฤษภาคม 2552
เมนูร้อน'รถแลกเงินด่วน'ปลิวว่อน!!กดดอกต่ำวงเงินสูงปลอดคนค้ำชนสินเชื่อบุคคล             
 


   
search resources

Leasing
กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช




'สถาบันการเงิน' หนีวิกฤตรถป้ายแดง และอุตสาหกรรมยานยนต์ตกอยู่ภายใต้ภาวะอัมพาตทั่วโลก ผสมโรงกับ 'สินเชื่อไร้หลักประกัน' ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรเครดิต ถูกต้อนเข้ามุมอับ หนี้เสียโผล่ไม่เว้นแต่ละวันประจานสถานการณ์เศรษฐกิจทรุด คนว่างงานขยายวงกว้าง 'ธนชาต-ทิสโก้-อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส' ถือโอกาสร่อนเมนูร้อน 'รถแลกเงินด่วน' เสิร์ฟ เจ้าของรถที่ปลอดภาระผ่อนค่างวด ต้องการเงินกู้ฉุกเฉิน ผ่านแคมเปญ กดดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน เลือกปะทะ ฐานตลาด สินเชื่อ่อบุคคลหรือสินเชื่ออเนกประสงค์ ที่คิดราคาแพงกว่าเป็นเท่าตัว...

คงไม่ผิดนัก หากชื่อ 'กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช' แคมเปญสินเชื่อเพื่อคนมีรถ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2546 ภายใต้ชื่อเดิมคือ 'จีอี แคปปิตอล ออโต้ ลีส' จนกลายมาเป็น 'อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส' ในภายหลัง ใต้ชายคา 'แบงก์กรุงศรีอยุธยา' จะได้รับการอวดอ้างสรรพคุณว่า คือ ผู้บุกเบิกรายแรก และทำตลาดมาก่อนรายอื่นๆ

'แต่สำหรับผลการวิจัยที่ตอบกลับมา ทำให้รู้ว่า มีเจ้าของรถเพียง 30% เท่านั้น ที่นำรถมาแลกเงินก้อน หรือ 'รีไฟแนนซ์'

ไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส หรือ 'กรุงศรี ออโต้' ยังเชื่อว่า แม้ตัวเลขไม่สูงมาก แต่โอกาสยังมีอยู่มาก ดังนั้นขนาดตลาดก็น่าจะสูงระดับ 25,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับแคมเปญ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ในปี 2552 จะต่างไปจากปีบุกเบิกอย่างเห็นได้ชัด ปีแรกๆ ไพโรจน์ บอกว่า การทดลองตลาดช่วงแรก ทำให้กำหนดวงเงินเพียง 60-70% ของราคาประเมินมูลค่ารถ วงเงินจึงไม่สูงมาก มีคนค้ำ และระยะเวลาผ่อนก็ไม่นานมาก

จนกระทั่งตัวเลขในอดีต สามารถอ้างอิงได้จากข้อมูลลูกค้าแต่ละราย ที่พบว่า ความเสี่ยงไม่มาก หนี้เสียก็ไม่มี ดังนั้นการพลิกลูกเล่นแคมเปญในช่วงท้ายๆ จึงหันมาเพิ่มวงเงินเต็ม 100% ของราคาประเมินมูลค่ารถ ระยะเวลาผ่อนงวดสูงสุด 72 เดือน หรือ 6 ปี ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน และรู้ผลอนุมัติเร็ว และเฉลี่ยแล้วจะอนุมัติสูงถึง 85% ของรถที่ขอสินเชื่อเข้ามา

'สมัยก่อน เราเริ่มต้นทดลองตลาดกับฐานลูกค้าเก่าที่ปล่อยสินเชื่อไป ขณะที่กลุ่มอื่นจะมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่จะให้ความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อประเภทนี้มากกว่า'

ไพโรจน์ บอกว่า ได้เพิ่มงบการตลาดเป็น 120 ล้านบาทในปีนี้ หลังพบว่า โอกาสทางการตลาดยังมีอีกมาก เพราะเจ้าของรถที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมีอีกมาก ขณะที่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ แคมเปญดังกล่าวจึงต้องสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้

แคมเปญ 'รถแลกเงิน' จึงเหมาะกับสถานการณ์ในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่ยอดขายรถใหม่ป้ายแดงทรุดหนัก ร่วงหล่นลงเกือบ 40% ช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ บวกกับสภาพอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก กำลังต้องการการเยียวยาขนานใหญ่ จากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ขณะที่กำลังซื้อก็หดตัวอย่างแรง จากยอดคนว่างงาน และรายได้ตกต่ำของบรรดามนุษย์เงินเดือน

'ตอนนี้สัดส่วนรถใหม่ของเราอยู่ที่ 55% รถรีไฟแนนซ์ 40% และ 5% เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์'

อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 1 ปีนี้ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ได้สูงถึง 22% ดันพอร์ตลูกค้าเพิ่มมากกว่า 110,000 ราย เป้าหมายปล่อยสินเชื่อปีนี้อยู่ที่ 11,000 ล้านบาท คิดเป็น กรุงเทพฯ 30% และต่างจังหวัด 70% โดยคาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 5% จากปีก่อนที่ขยายตัวถึง 8-10%

ขณะที่ ธนาคารธนชาต ได้กลายเป็นสถาบันการเงินรายแรกๆ ที่กำลังหันมาโฟกัส 'สินเชื่อรถแลกเงิน' อย่างถึงพริกถึงขิง ภายหลังมีการขยายสาขา แตก หน่อออกไปถึง 240 แห่งทั่วประเทศ

สินเชื่อรถแลกเงิน สำหรับธนชาต มีทั้งประเภทจำนำทะเบียนรถ และรีไฟแนนซ์ เห็นได้ชัดจากงานมันนี่ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา มียอดปล่อยกู้สูงถึง 90 ล้านบาท 300 คัน จากการงัดกลยุทธ์ดอกเบี้ยต่ำ 0.25% มาเล่นตลอดงาน

ธนชาต ลงคลุกเล่นในตลาดสินเชื่อรถแลกเงิน ตั้งแต่กลางปี 2551 เป็นต้นมา หลังจากขยายวงปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งป้ายแดง และรถมือสองจนสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ

ก่อนจะหันมาลุยตลาด 'สินเชื่อรถแลกเงิน' อย่างเอาจริงเอาจัง นับจาก สาขาของธนาคารธนชาต เริ่มเบ่งบานไปทั่วทุกจุดทั่วประเทศ นอกจากนั้นก็คาดการณ์ว่า เจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลและปลอดภาระหนี้แล้วในท้องตลาด มีมากกว่า 6 ล้านคัน

ในช่วงครึ่งหลังปีที่แล้ว ธนชาตปล่อยสินเชื่อได้ถึง 3,900 ล้านบาท และมีเป้าหมายจะปล่อยสินเชื่อ 'รถแลกเงิน' ในปีนี้ 7,600 ล้านบาท หลังจากประกาศสงครามราคา หั่นดอกเบี้ยลงมาที่ 0.39% ซึ่งก็ได้ผล

อนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ธนาคารธนชาต บอกว่า สภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้ทำให้ประชาชนที่ต้องการเงินสดต้องมองหาแหล่งเงินใหม่ ขณะที่สินเชื่อรถแลกเงิน จะเหมาะกับเจ้าของรถที่ปลอดภาระหนี้ และต้องการเงินสดก้อนใหญ่ โดยการนำทะเบียนมาจำนำไว้กับธนาคาร

'วงเงินปล่อยสินเชื่อจะอ้างอิงจากสภาพรถ รุ่น ปี ของรถยนต์ ขณะเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยก็ต่ำมาก หากเทียบกับสินเชื่อบุคคล ที่ไม่มมหลักประกันเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกัน สินเชื่อรถแลกเงินจะให้วงเงินสูงกว่าสินเชื่อบุคคลค่อนข้างมาก'

ผู้บริหารธนาคารธนชาต บอกว่า สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ อาจจะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์การเป็นเจ้าของมาที่ธนาคาร ซึ่งจะแตกต่างจากเต็นท์รถมือสองทั่วไป ที่จะใช้วิธียึดรถที่เข้ามาขอสินเชื่อ 'จำนำทะเบียนรถ' โดยนำรถมาจอดไว้ที่เต็นท์ ส่วนเจ้าของรถจะได้เงินก้อนพกติดกระเป๋ากลับออกไป แต่ไม่มีรถไว้ขับ...

สำหรับแคมเปญ สินเชื่อรถแลกเงินของธนาคารธนชาต เริ่มต้นชูดอกเบี้ยต่ำระดับ 0.39% ต่อเดือน ผ่อนนานสูงสุด 60 เดือน ให้วงเงินสูงสุด 80% ของมูลค่ารถ ผ่านสาขาทั้ง 240 แห่ง พันธมิตรเต็นท์รถมือสองมากกว่า 4,000 แห่ง และสำนักงานภูมิภาค 20 แห่ง

ปัจจุบันมีลูกค้าในพอร์ตเช่าซื้อรถยนต์ประมาณ 700,000 ราย มีลูกค้าปิดบัญชีไปก่อนหน้านั้นราว 460,000 ราย

ธนาคารทิสโก้ น่าจะเป็นสถาบันการเงินอีกรายที่หันมาจับตลาด สินเชื่อรถแลกเงิน อย่างเป็นล่ำเป็นสัน หลังจากเปิดตัวไปในช่วงต้นปี แต่เสียงตอบรับยังน้อย เพราะขาดกิ่งก้านสาขา และเลือกจะประชาสัมพันธ์เฉพาะกลุ่มเล็กๆเท่านั้น

ในโอกาสครบรอบ 40 ปี แบงก์ทิสโก้ เลือกเอาโอกาสนี้ ให้น้ำหนักประชาสัมพันธ์แคมเปญ 'ทิสโก้ ออโต้ แคช' ที่มีทั้ง 'สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ' และสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ แบบอัดแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ วงเงินกู้สูงสุด 80% ของราคาประเมินรถยนต์ ระยะเวลาผ่อนรวมอายุรถต้องไม่เกิน 12 ปี

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการอำนวยการ สายงานการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารทิสโก้ บอกว่า ทิสโก้ จะแยกประเภทลูกค้าของ 'ทิสโก้ ออโต้ แคช' ออกเป็น กลุ่มจำนำทะเบียนรถ และรีไฟแนนซ์รถยนต์

กลุ่มแรก จะคิดดอกเบี้ย 0.4% ต่อเดือนสำหรับเก๋งทุกรุ่น ทุกปี ขณะที่รถกระบะและรถตู้ทุกรุ่นทุกปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อเดือน วงเงินกู้สูงสุด 80% ไม่มีผู้ค้ำประกัน เวลาผ่อนอยู่ที่ 12-60 เดือน โดยมีเงื่อนไขคือ ระยะผ่อนรวมอายุรถต้องไม่เกิน 12 ปี

กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ต้องการวงเงินค่อนข้างสูงระดับแสนกว่าบาทขึ้นไป ผ่อนระยะยาว และจะต้องโอนกรรมสิทธิ์รถมาที่แบงก์ทิสโก้

ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จะเป็นกลุ่มต้องการวงเงินสด เพิ่มสภาพคล่องในทันที และไม่สูงมาก จึงคิดอัตราดอกเบี้ยตามวงเงินจากราคาประเมินมูลค่ารถยนต์ คือ วงเงิน 605 คิด 0.55% วงเงิน 70% คิดดอกเบี้ย 0.66% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน และลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายโอนทะเบียนรถมาที่ธนาคารและไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม

'กลุ่มนี้จะเสียค่าใช้จ่ายน้อย เพราะไม่ต้องโอนทะเบียนและจ่ายแวต ส่วน ถ้าเป็นลูกค้าเก่าก็อาจจะได้วงเงินเพิ่มอีก 5%'

ศักดิ์ชัย บอกว่า โปรโมชั่นจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมเท่านั้น แต่หลังจากนี้อัตราดอกเบี้ยจะกลับมาอยู่ระดับปรกติคือ ระหว่าง 0.69 , 0.88 และ 1% เท่าเดิม ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถดอกเบี้ยปรกติจะอยู่ที่ 0.88% แต่วงเงินจะไม่สูงเท่าสินเชื่อรีไฟแนนซ์

'หากอนุมัติจบใน 3 วัน ภายใน 1 วันก็สามารถโอนเงินให้ลูกค้าได้เลย'

ปัจจุบัน ทิสโก้ มีพอร์ตลูกค้าเช่าซื้อทั้งหมดจำนวนกว่า 80,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้า 300,000 ราย ไตรมาสแรกปีนี้มีลูกค้าปิดบัญชีไปแล้ว 1 ล้านราย ขณะที่สินเชื่อรีไฟแนนซ์และสินเชื่อทะเบียนรถมีอยู่ประมาณ 2,900 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 15,000 ราย เชื่อว่าจะขยายพอร์ตสินเชื่อ ทิสโก้ ออโต้ แคช ที่ 3,500 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้

ศักดิ์ชัย บอกต่อว่า สินเชื่อรถแลกเงินน่าจะขยายตัวประมาณ 20% เพราะคนจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากถอยรถป้ายแดงที่ค่อนข้างเข้มงวดปล่อยกู้ในช่วงที่สภาพคล่อง หรือรายได้เจ้าของรถต่ำลงและภาววเศรษฐกิจฝืดเคือง

นอกจากนั้นยังคาดว่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ในช่วงเวลาที่ยอดรถใหม่ตก เศรษฐกิจมีการหดตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกดให้ต่ำ กจะช่วยให้สถาบันการเงินมีต้นทุนระดมทุนต่ำลง ก็จะเพิ่มความสามารถในการรแข่งขันได้

โดยเฉพาะคู่แข่ง 'เต็นท์รถมือสอง' แม่แบบธุรกิจจำนำทะเบียนรถมือสอง ต้นทุนจากการระดมทุนสูงกว่า ดอกเบี้ยก็จะแพงกว่า วงเงินปล่อยกู้น้อยกว่ามาก ขณะเดียวกันรถที่นำไปจำนำก็จะฝากไว้ที่เต็นท์เลย

'ดอกเบี้ย สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ทุกวันนี้ถือว่าต่ำมาก ขณะที่สินเชื่อบุคคล หรือสินเชื่ออเนกประสงค์คิดดอกเบี้ยสูงถึง 28%'

สำหรับเจ้าของรถรายใดที่ร้อนเงิน ต้องการวงเงินฉุกเฉิน แต่เข้าหาแหล่งทุนได้ยากในช่วงนี้ แคมเปญ 'สินเชื่อรถแลกเงิน' จึงน่าจะเป็นทางออกทางหนึ่งที่น่าสนใจ ในช่วงที่สภาพคล่องในกระเป๋ากำลังพร่อง ร่อยหรอลงเรื่อยๆ

เพียงแต่ทุกครั้งที่เดินเข้าไปขอสินเชื่อ ต้องตระหนักไว้เสมอว่า ยี่ห้อรถ รุ่น และปีของรถยนต์ จะบอกเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ย และวงเงินกู้ของแต่ละราย ที่ไม่เท่ากัน

ยังไม่นับทำเนียบประวัติการผ่อนชำระใน 'เครดิต บูโร' ที่ถือเป็นด่านแรกในการพิจารณาปล่อยกู้ให้กับลูกค้าของบรรดาสถาบันการเงิน ยังถือเป็นกลไกหลัก ทำหน้าที่สกรีนลูกค้าอย่างดีเยี่ยม...   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us