Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 กันยายน 2546
ธ.กรุงเทพผู้นำตลาดบัตรเดบิตตั้งเป้าเพิ่มยอด1แสนใบต่อเดือน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
โชค ณ ระนอง
Credit Card




แบงก์กรุงเทพ ประกาศนั่งแท่นผู้นำตลาดบัตรเดบิตยอดบัตร บีเฟิสต์ พุ่ง 2 ล้านใบ มีมาร์เกตแชร์ 40% ของจำนวนบัตรวีซ่า-อิเล็กตรอนทั้งระบบ 5 ล้านใบ ตั้งเป้ายอดบัตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1 แสนบัตรต่อเดือน ด้านบัตรเครดิต ยอดบัตรเพิ่มเฉลี่ย 8% มีนโยบายเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ เผยเตรียมออกผลิตภัณฑ์บัตรเพิ่ม 3 ผลิตภัณฑ์ภายในสิ้นปีนี้

นายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าหลังจากที่ธนาคารออกบัตรเดบิตวีซ่า-อิเล็กตรอน หรือบัตรบีเฟิสต์ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยยอดบัตร ณ เดือนสิงหาคม 2546 มียอดบัตรจำนวน 2 ล้านบัตร ทำให้ธนาคาร เป็นผู้นำตลาดบัตรเดบิต คือ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 40% จากจำนวนบัตรเดบิตทั้งระบบ 5 ล้านบัตร

ทั้งนี้ ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนบัตรเดบิตบีเฟิสต์อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตั้งแต่วันนี้จน ถึงสิ้นปี จะมียอดบัตรเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 บัตร หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ 100,000 บัตร รวมทั้งธนาคารได้มีการจัดรายการพิเศษให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดธนาคารได้จัดรายการพิเศษ 2 รายการ คือ ลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิตบีเฟิสต์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2546 จะได้รับเสื้อ Smart Jacket หรือสมัครบัตรบีเฟิสต์ อีจีวี ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2546 จะได้รับเสื้อและตั๋วชมภาพยนตร์ในเครืออีจีวีอีก 1 ใบ พร้อมทั้งรับสิทธิลุ้นสร้อย คอทองคำน้ำหนักรวม 60 บาท ถึง114 รางวัล นอกจากนี้ธนาคารยังจัดสมุดคูปองส่วนลดที่ได้รวบรวมร้านค้า สถานบริการ มาร่วมมอบสิทธิพิเศษ 10-15% ให้ผู้ถือบัตร

"แบงก์มองถึงศักยภาพของการมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบงก์สามารถหาพันธมิตรใหม่ๆ เข้ามาร่วมสร้างสรรค์สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับลูกค้าได้มากขึ้นเพิ่มคุณค่าของบัตร นอกเหนือจากที่ลูกค้าสามารถถอนเงินสดตามปกติเหมือนกับบัตรเอทีเอ็ม โดยบัตรบีเฟิสต์ อำนวยความสะดวกและมอบ สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า เช่น การชำระค่าสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด ที่สำคัญเป็นการสร้างวินัยทางการเงินที่ผู้ถือบัตรควบคุมการใช้เงินได้"

นายโชค กล่าวว่า ธนาคารมีนโยบายที่จะเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายค่า สินค้าและบริการผ่านบัตรเดบิตบีเฟิสต์ มากขึ้น โดยขณะนี้ปริมาณการใช้จ่ายชำระสินค้าและบริการประมาณ 3-4% ของจำนวนบัตร และคาดว่าในปีหน้าจะมีปริมาณการใช้จ่ายชำระสินค้าและ บริการผ่านบัตรบีเฟิสต์เพิ่มขึ้นเป็น 8%

ออกบัตรเครดิตปีนี้ 3 ผลิตภัณฑ์

สำหรับในช่วง 4 เดือนที่เหลือปีนี้ ธนาคารมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบัตรเครดิตอีก 2-3 ผลิตภัณฑ์ โดยแรกเปิดตัวบัตรเอเม็กซ์บีบีแอล ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมที่ร่วมกับเอเม็กซ์ พร้อม เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตรมากยิ่งขึ้น เช่น ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปีแรก และเพิ่มการสะสมคะแนน จากเดิมใช้บัตรชำระเงิน 25 บาทได้แต้มสะสม 1 แต้ม ปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 แต้ม ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจ จากลูกค้าจำนวนมาก จากเดิมที่มีฐานลูกค้าบัตรเครดิตเอเม็กซ์บีบีแอลจำนวน 55,000 บัตร เนื่องจากเอเม็กซ์ เป็นบริษัทที่มีชื่อเกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ หรือผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ

เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

เอ็นพีแอล 2% จากยอดบัตร

สำหรับบัตรเครดิตของธนาคาร ได้มีฐานผู้ถือบัตรประมาณ 450,000 บัตร ซึ่งเฉลี่ยอัตราการเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 8% โดยธนาคารมีนโยบายที่จะขยายฐานบัตรเครดิตอย่างมีคุณภาพ ที่เน้นเพิ่มสิทธิประโยชน์และ คุณภาพของลูกค้าเป็นหลัก จะไม่เน้นการเพิ่มจำนวนบัตร ส่งผลให้ธนาคารมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพียง 2% ของจำนวนบัตรทั้งหมด คาดว่าในปีหน้าจำนวนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 70,000 บัตร

จากจำนวนบัตรดังกล่าว ทำให้ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียม 13% ของรายได้สายบัตรเครดิต นับว่า เป็นรายได้ที่สูง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารได้จัดโครง การต่างๆ ที่เป็นสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตร โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20% จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 6,800 บาท/บัตร/เดือน มีจำนวนบัตรที่เคลื่อนไหว 65% ของจำนวนบัตรทั้งหมด และคิดเป็นจำนวนลูกค้า ที่ผ่อนชำระค่าใช้จ่ายประมาณ 50% ของจำนวนบัตรทั้งหมด หรือหากเทียบกับจำนวนเงินคิดเป็น 70% ของจำนวนเงิน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us