แบงก์กรุงเทพ ประกาศนั่งแท่นผู้นำตลาดบัตรเดบิตยอดบัตร บีเฟิสต์ พุ่ง 2 ล้านใบ
มีมาร์เกตแชร์ 40% ของจำนวนบัตรวีซ่า-อิเล็กตรอนทั้งระบบ 5 ล้านใบ ตั้งเป้ายอดบัตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย
1 แสนบัตรต่อเดือน ด้านบัตรเครดิต ยอดบัตรเพิ่มเฉลี่ย 8% มีนโยบายเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
เผยเตรียมออกผลิตภัณฑ์บัตรเพิ่ม 3 ผลิตภัณฑ์ภายในสิ้นปีนี้
นายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่าหลังจากที่ธนาคารออกบัตรเดบิตวีซ่า-อิเล็กตรอน
หรือบัตรบีเฟิสต์ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าลูกค้าให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยยอดบัตร
ณ เดือนสิงหาคม 2546 มียอดบัตรจำนวน 2 ล้านบัตร ทำให้ธนาคาร เป็นผู้นำตลาดบัตรเดบิต
คือ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 40% จากจำนวนบัตรเดบิตทั้งระบบ 5 ล้านบัตร
ทั้งนี้ ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนบัตรเดบิตบีเฟิสต์อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตั้งแต่วันนี้จน
ถึงสิ้นปี จะมียอดบัตรเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 บัตร หรือเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ
100,000 บัตร รวมทั้งธนาคารได้มีการจัดรายการพิเศษให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดธนาคารได้จัดรายการพิเศษ 2 รายการ คือ ลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิตบีเฟิสต์
ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2546 จะได้รับเสื้อ Smart Jacket หรือสมัครบัตรบีเฟิสต์
อีจีวี ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2546 จะได้รับเสื้อและตั๋วชมภาพยนตร์ในเครืออีจีวีอีก
1 ใบ พร้อมทั้งรับสิทธิลุ้นสร้อย คอทองคำน้ำหนักรวม 60 บาท ถึง114 รางวัล นอกจากนี้ธนาคารยังจัดสมุดคูปองส่วนลดที่ได้รวบรวมร้านค้า
สถานบริการ มาร่วมมอบสิทธิพิเศษ 10-15% ให้ผู้ถือบัตร
"แบงก์มองถึงศักยภาพของการมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบงก์สามารถหาพันธมิตรใหม่ๆ
เข้ามาร่วมสร้างสรรค์สิทธิประโยชน์ต่างๆ สำหรับลูกค้าได้มากขึ้นเพิ่มคุณค่าของบัตร
นอกเหนือจากที่ลูกค้าสามารถถอนเงินสดตามปกติเหมือนกับบัตรเอทีเอ็ม โดยบัตรบีเฟิสต์
อำนวยความสะดวกและมอบ สิทธิประโยชน์ที่มากกว่า เช่น การชำระค่าสินค้า โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด
ที่สำคัญเป็นการสร้างวินัยทางการเงินที่ผู้ถือบัตรควบคุมการใช้เงินได้"
นายโชค กล่าวว่า ธนาคารมีนโยบายที่จะเพิ่มปริมาณการใช้จ่ายค่า สินค้าและบริการผ่านบัตรเดบิตบีเฟิสต์
มากขึ้น โดยขณะนี้ปริมาณการใช้จ่ายชำระสินค้าและบริการประมาณ 3-4% ของจำนวนบัตร
และคาดว่าในปีหน้าจะมีปริมาณการใช้จ่ายชำระสินค้าและ บริการผ่านบัตรบีเฟิสต์เพิ่มขึ้นเป็น
8%
ออกบัตรเครดิตปีนี้ 3 ผลิตภัณฑ์
สำหรับในช่วง 4 เดือนที่เหลือปีนี้ ธนาคารมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับบัตรเครดิตอีก
2-3 ผลิตภัณฑ์ โดยแรกเปิดตัวบัตรเอเม็กซ์บีบีแอล ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้ เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมที่ร่วมกับเอเม็กซ์
พร้อม เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตรมากยิ่งขึ้น เช่น ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ปีแรก
และเพิ่มการสะสมคะแนน จากเดิมใช้บัตรชำระเงิน 25 บาทได้แต้มสะสม 1 แต้ม ปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นเป็น
1.5 แต้ม ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจ จากลูกค้าจำนวนมาก จากเดิมที่มีฐานลูกค้าบัตรเครดิตเอเม็กซ์บีบีแอลจำนวน
55,000 บัตร เนื่องจากเอเม็กซ์ เป็นบริษัทที่มีชื่อเกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตจับกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจ
หรือผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ
เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
เอ็นพีแอล 2% จากยอดบัตร
สำหรับบัตรเครดิตของธนาคาร ได้มีฐานผู้ถือบัตรประมาณ 450,000 บัตร ซึ่งเฉลี่ยอัตราการเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ
8% โดยธนาคารมีนโยบายที่จะขยายฐานบัตรเครดิตอย่างมีคุณภาพ ที่เน้นเพิ่มสิทธิประโยชน์และ
คุณภาพของลูกค้าเป็นหลัก จะไม่เน้นการเพิ่มจำนวนบัตร ส่งผลให้ธนาคารมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
(เอ็นพีแอล) เพียง 2% ของจำนวนบัตรทั้งหมด คาดว่าในปีหน้าจำนวนบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นมากกว่า
70,000 บัตร
จากจำนวนบัตรดังกล่าว ทำให้ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียม 13% ของรายได้สายบัตรเครดิต
นับว่า เป็นรายได้ที่สูง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะธนาคารได้จัดโครง
การต่างๆ ที่เป็นสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ถือบัตร โดยมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย
20% จากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ย 6,800 บาท/บัตร/เดือน มีจำนวนบัตรที่เคลื่อนไหว
65% ของจำนวนบัตรทั้งหมด และคิดเป็นจำนวนลูกค้า ที่ผ่อนชำระค่าใช้จ่ายประมาณ 50%
ของจำนวนบัตรทั้งหมด หรือหากเทียบกับจำนวนเงินคิดเป็น 70% ของจำนวนเงิน