|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ตลาดหุ้นไอพีโอ เตรียมฟื้น หลังภาวะตลาดหุ้นขึ้นต่อเนื่อง เบื้องต้น เทรด มิถุนายนี้3 บริษัท “ควอลลีเทค –เจมาร์ท- โตโยไทย ” เชื่อหากไม่มีข่าวร้ายเพิ่มเติมไตรมาส3หุ้นใหม่จะคึกคัก ด้านบล.ฟิลลิป – กิมเอ็ง –เอเชีย พลัส เตรียมเข็นไอพีโอในมือออกมาขายเพียบ ส่วน“ภัทรียา”คาดมีน้องใหม่เพิ่ม 6-7 ราย
นายเล็ก สิขรวิทย รองผู้อำนวยการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)หรือ ASP เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้นั้น มาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัว ถึงแม้ขณะนี้จะมีข่าวด้านลบ และบวกออกมาสลับกันแต่เชื่อว่าแนวโน้มต่อไปจะมีข่าวที่เป็นด้านบวกออกมามากขึ้น ส่งผลให้บริษัท ที่มีการเตรียมตัวจะมีการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(ไอพีโอ) ที่ได้มีการเลื่อนออกไปในช่วงปีที่ผ่านมานั้น เริ่มที่จะกลับมาเสนอขายหุ้นแล้ว โดยเริ่มมีข่าวบริษัทใหม่จะเข้าจดทะเบียนในช่วงเดือนมิถุนายนนี้แล้ว และคาดว่าหุ้นไอพีโอจะกลับมาคึกคักเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาส3/52 หากไม่มีข่าวด้านลบที่รุนแรงซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเสนอขายหุ้น
ทั้งนี้ เบื้องต้นบล.เอเซีย พลัส คาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในปีนี้ได้ประมาณ 2 บริษัท คือ บริษัทเจมาร์ท ที่จะมีการเสนอขายหุ้นในวันที่ 17-18 มิถุนายนนี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในวันที่ 25 มิถุนายน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมที่จะมีการนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)กับนักลงทุน ล่าสุดบริษัทได้มีการนำเสนอข้อมูลให้กับนักวิเคราะห์ไปแล้ว ส่วนอีก 1 บริษัท คือ บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (mai) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางก.ล.ต.นอกจากนี้บริษัทได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)แล้ว
สำหรับบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (หุ้น)ละ 1 บาท คิดเป็น 20% ของทุนชำระแล้วภายหลังเสนอขายหุ้น และเสนอขายหุ้น 5 ล้านหุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญต่อหุ้นสามัญของบริษัท ทำให้ภายหลังเสนอขายหุ้นมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 255 ล้านบาทต่อหุ้น ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยมีASP เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ควอลลีเทคประเดิมปลายเดือนนี้นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากการที่ภาาะตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ถือเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มมีบริษัทที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ ได้มีการทำการตลาดบ้างแล้ว เช่น บริษัท โตโย - ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน.) หรือ TTCLที่จะมีการเสนอขายหุ้นในปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ กลางมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ จากการทีบริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. ควอลลีเทค ก็จะมีการเสนอขายหุ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดmai ในต้นเดือนหน้า และคาดว่าจะสรุปราคาเสนอขายหุ้นได้ในสัปดาห์ที่บริษัทจะมีการเซ็นสัญญาการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการแจ้งข้อมูลเพิ่มในเรื่องงบการเงิน และราคาขายหุ้นให้กับก.ล.ต.
KESTเข็น2IPOเข้าเทรดQ3
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ แบ่งออกเป็น ดีลM&A จำนวน 9-10 ดีล, Property Fund 2-3 ดีล, Equity Private Placement 1-2 ดีล, Fixed Income จำนวน 2-3 ดีล, Financial Advisory (FA) 2-4 ดีล และงานเกี่ยวกับการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) ประมาณ 10-15 ดีล ซึ่งจำนวนงาน IPO ทั้งหมดนี้มีอยู่จำนวน 2 ดีล ที่เตรียมจะนำเข้าจดทะเบียนในระหว่างไตรมาส 3-4 ของปีนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ปี 52 จากเดิมที่ 9% เป็น 10% หลังภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เริ่มฟื้นตัว และประเมินว่าตลาดหุ้นในช่วงนี้ยังคงเป็นขาขึ้น แต่นักลงทุนควรระวังแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นจนอาจทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง ดังนั้นจึงแนะนำให้ควรทยอยการซื้อขายหุ้นและบริหารจัดการพอร์ตของตนเองให้ดี เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
ตลท.เชื่อมั่นไอพีโอเริ่มคึกคัก
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา บรรยากาศตลาดหุ้นปรับตัวดีขึ้นทั้งในด้านของดัชนีและปริมาณการซื้อขาย(วอลุ่ม) โดยเชื่อว่าจะส่งเสริมให้บรรยากาศในการนำหุ้นไอพีโอทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาด mai มีความคึกคักยิ่งขึ้น เพราะเท่าที่ได้หารือกับบริษัทที่รอเข้าจดทะเบียน รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน พบว่าหากดัชนีปรับตัวขึ้นมากกว่า 500 จุด ถือเป็นจังหวะที่ดีในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขาย
“เท่าที่เคยหารือกันก็พูดในแนวทางเดียวกันว่า หากดัชนีปรับขึ้นมากกว่า 500 จุด อาจเป็นจังหวะดีที่จะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ผ่านทุกขั้นตอนการขอยื่นเข้าจดทะเบียนแล้ว แต่ขณะนี้ยังรอจังหวะการเข้าซื้อขายเท่านั้น มีประมาณ 6-7 บริษัท โดยคาดว่าบริษัทเหล่านั้นจะสามารถซื้อขายได้หมดภายใน ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 นี้”นางภัทรียากล่าว
|
|
 |
|
|