Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์18 พฤษภาคม 2552
คาดหุ้นเหล็กฉายแววได้ปลายปีหลังมีแผนกระตุ้นศก.ช่วย-ไม่ขาดทุนสต๊อก             
 


   
search resources

Metal and Steel




ราคาเหล็กไต่ระดับจากที่ทำจุดต่ำสุดไว้ในไตรมาสแรก เหตุจีนใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ-ลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ส่วนไทยก็มีลงทุนภาครัฐเช่นกัน แต่คาดว่าหุ้นเหล็กจะได้รับอานิสงส์คงจะเป็นปลายปีเพราะต้นปีอาจขาดทุนจากสต๊อกได้

แม้ราคาเหล็กในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะมีความผันผวนตามการเข้าซื้อสินค้าคงคลังในแต่ละช่วงเวลา แต่ความคาดหวังถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกที่จะกระตุ้นอุปสงค์การใช้เหล็กประกอบกับเม็ดเงินบางส่วนสามารถเข้าสู่ภาคการก่อสร้างอย่างแท้จริง ทำให้ราคา Billet และ Slab ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ ในการผลิตเหล็กของอุตสาหกรรมเหล็กเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 405และ 355ดอลลาร์ต่อตัน ตามลำดับ จากจุดต่ำสุดในไตรมาส1ของปีนี้ที่ 375 และ 295ดอลลาร์ต่อตัน ตามลำดับ นอกจากนี้ ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ต่างเริ่มชะลอการขายสินค้าลง และเริ่มกำหนดราคาขายล่วงเพิ่มขึ้น ดอลลาร์สหรัฐ14-22 ต่อตัน โดย Baosteel ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของจีนได้กำหนดราคาขายเหล็กแผ่นรีดร้อนเดือนมิถุนายน 2552 ที่ระดับ 480 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

วิชชุดา ปลั่งมณี นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. เกียรตินาคิน ประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในปีนี้จะเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น จากกระแสข่าวรัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นการลงทุนในโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างจริงจัง ซึ่งจะส่งผลถึงอุปสงค์ของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างอย่างเหล็กเส้น ขณะที่ผู้ประกอบการเหล็กในจีนได้ประกาศราคาขายเหล็กช่วงเดือนพฤษภาคม ที่อัตราเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนถึงความคาดหวังว่าราคาเหล็กจะไม่ปรับลดลงไปลึกอีกแล้ว

'จีนเริ่มมีการสั่งนำเข้าเหล็กล๊อตใหม่เข้ามาแล้ว เพราะสต็อกเก่าเริ่มหมด ทำให้เป็นผลดีกับผู้ประกอบการเหล็กที่จะได้ระบายสต็อกสินค้าใหม่ได้'

สำหรับในประเทศไทยก็ยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการเมกกะโปรเจคต์และแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งด้วย อาทิ โครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วงสัญญา 1 ที่มีการอนุมัติราคาประมูลของ บมจ.ช.การช่าง(CK) ซึ่งจะต่อเนื่องถึงความคาดหวังถึงสัญญา 2-3 และภาพการก่อสร้างในกลุ่มอสังหา ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคต อาทิ ศูนย์การค้า โครงการที่อยู่อาศัย เป็นต้น

อีกทั้งในเร็วๆ นี้กระทรวงคมนาคมเองเตรียมที่จะเสนอแผนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ต่อคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกเพื่อพิจารณาและอนุมัติโครงการใหม่จำนวน 26 โครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 40,650 ล้านบาท แต่ประเมินว่ากลุ่มเหล็กจะได้รับประโชยน์จากดีมานด์ใหม่ในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มเหล็กมองว่าเริ่มปรับตัวดีขึ้นชัดเจนตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2552 เป็นต้นไป เนื่องจากเชื่อว่าราคาเหล็กโลกจะเริ่มทรงตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถประมาณการต้นทุนและผลกำไรได้ แต่ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก มองว่ายังเสี่ยงต่อการขาดทุนจากการตั้งสำรองจ่ายหนี้ และสต็อกล็อตบางส่วน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ 'เก็งกำไร' ในหุ้น บมจ.ทาทา สตีล(TSTH) มีราคาเป้าหมายที่ 1.90 บาท เนื่องจากประกอบธุรกิจเหล็กเส้นที่ใช้ในการก่อสร้างทำให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากข่าวข้างต้น และ บมจ.จี สตีล(GSTEEL) ที่ราคาเป้าหมาย 0.60 บาท ส่วน บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ที่ราคาเป้าหมาย 0.48 บาท โดยให้เก็งกำไรตามภาพรวมตลาด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us