|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/2552 รายได้รวม 1,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18 % และกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท เผยธุรกิจดิจิตอล-โชว์บิซ-อีเวนต์-ละครทีวีเป็นพระเอก ส่วนธุรกิจสื่อมีรายได้ลดลงตามภาวะตลาด ทั้งสิ่งพิมพ์ลดลง 43% วิทยุลดลง 27%
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1/2552 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,962 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับรายได้ที่เติบโตมีนัยสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจเพลงโดยรวม (Total Music Business) มีรายได้รวม 919 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจดิจิตอลมีการเติบโตสูงกว่า 80% เป็นผลมาจากโมเดลธุรกิจบอกรับสมาชิก (Subscription Model) คือ ให้ลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกจ่ายเงินรายเดือน (Subscriber) เพื่อดาวน์โหลดคลังเพลงแกรมมี่ได้ไม่จำกัด
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ร่วมสร้างโมเดลดังกล่าวกับสองโอเปอเรเตอร์ ได้แก่ 1.ดีแทค ในรูปแบบบริการแฮปปี้ แวมไพร์ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 จนขณะนี้มีสมาชิกทะลุ 1 ล้านรายตามเป้าที่วางไว้ และ 2.เอไอเอส เพื่อเพิ่มรูปแบบการซื้อเสียงรอสายในรูปแบบบริการ *123 Calling Grammy ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 จนขณะนี้มีสมาชิกเกือบ 7 แสนคน และธุรกิจโชว์บิซที่มีโชว์หลากหลายรูปแบบทั้งจากศิลปินรุ่นเก่าและใหม่ ได้แก่ เดอะ สตาร์ วอร์ / ละครเวทีเนื้อคู่ 11 ฉาก / คอนเสิร์ตชรินทร์ / คอนเสิร์ตไอซ์ ศรัณยู / คอนเสิร์ตปั่นและชรัส
รวมทั้งธุรกิจอีเวนต์มีรายได้ 314 ล้านบาท เติบโต 92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะภาคเอกชนออกมาใช้งบจัดงานอีเวนต์มากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย ในขณะที่หน่วยงานของภาครัฐก็ออกมาจัดงานอีเวนต์เช่นกัน
ส่วนธุรกิจโทรทัศน์มีรายได้ 390 ล้านบาท เติบโต 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากละครซิทคอมและละครหลังข่าวที่ได้รับเรตติ้งสูงติดต่อกันทุกเรื่อง เช่น แก้วล้อมเพชร บ่วงรักกามเทพ เป็นต้น ขณะที่ทีวีเซ็กเมนต์วัยรุ่นประสบความสำเร็จสูงเช่นกัน
ส่วนธุรกิจสื่อมีรายได้ลดลงตามภาวะตลาด อาทิ ธุรกิจสิ่งพิมพ์มีรายได้ 42 ล้านบาท ลดลง 43% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากภาพรวมเม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หดตัว 22% ธุรกิจวิทยุมีรายได้ 113 ล้านบาท ลดลง 27% เป็นผลมาจากสองปัจจัย คือ ปัจจัยแรกได้รับผลกระทบจากภาพรวมเม็ดเงินอุตสาหกรรมโฆษณาผ่านสื่อวิทยุหดตัว 12.6% และปัจจัยที่สองมีการรีแบรนด์ดิ้งคลื่นวิทยุ CHILL 89 FM และ HOT FM 91.5 ทำให้ในช่วงแรกๆ ยังมีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม 1,769 ล้านบาท เติบโต 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากสองปัจจัย คือ ปัจจัยแรกเป็นธุรกิจวิทยุลงทุนรีแบรนด์ดิ้งสองคลื่นวิทยุ และปัจจัยที่สองเป็นธุรกิจทีวีดาวเทียมลงทุนทั้งทางด้านบุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท เติบโต 1 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ เนื่องจากแม้ปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจยังไม่ตื่นตัวและบริษัทฯ ยังมีการลงทุนเพิ่ม แต่บริษัทฯ สามารถรักษาผลกำไรได้ และในปี 2552 ยังคาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือ ไม่ต่ำกว่าผลประกอบการปีที่ผ่านมา
|
|
|
|
|