Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน15 พฤษภาคม 2552
บินไทยกำไรพุ่ง5.6พันล.ฟันกำไรค่าเงิน-น้ำมันลด             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

การบินไทย, บมจ.
Aviation




ไตรมาสแรกปี 52 การบินไทยพลิกล็อก กำไรสุทธิกว่า 7.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.6 พันล้านบาท หรือ 255% สวนกระแสที่ทีมผู้บริหารอ้างการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรฯ ฉุดกำไรทรุดหนัก เหตุรับอานิสงส์ต้นทุนราคาน้ำมันลดลง 45% บวกกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกกว่า 4.6 พันล้านบาท ด้านผู้บริหาร โชว์แผนระยะสั้น 3 ปี ตั้งเป้าโตเฉลี่ยปีละ 3-8% พร้อมเตรียมกู้เงินจ่ายหนี้ระยะสั้น-เสริมสภาพคล่องปีนี้อีก 6 หมื่นล้านบาท หลังเงินสดหมุนเวียนลดเหลือแค่ 7 พันล้านบาท/เดือน นักวิเคราะห์แนะหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้น “THAI”

นางงามนิตย์ สมบัติพิบูลย์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 7,868.57 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.63 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,216.09 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.30 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 5,652.48 ล้านบาท คิดเป็น 255.07%

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดเทียวบินลงให้สอดคล้องกับปริมาณการเดินทางเข้า-ออกที่ลดลงจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 และเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งผู้โดยสารลดลงจากปีก่อน 20.3%

ขณะที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,270 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,581 ล้านบาท หรือ 26.1% ส่วนค่าใช้จ่ายไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอยู่ที่ 36,365 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 14,144 ล้านบาท หรือ 28% สาเหตุสำคัญเนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินโดยเฉลี่ยลดลง 45.2% และการควบคุมและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายเพื่อรองรับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ต่างๆ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่ส่วนใหญ่เกิดจากการปรับยอดหนี้สินสกุลเงินตราต่างประเทศคงเหลือ ณ วันสิ้นงวด เป็นเงินบาท จำนวน 4,609 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 663 ล้านบาท ทำให้มีกำไรก่อนภาษีเงินได้ 8,064 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 4,807 ล้านบาท หรือ 147.6% และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA) เท่ากับ 9,512 ล้านบาท

ด้านฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค.52 บริษัทและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 260,351 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 51 จำนวน 817 ล้านบาท หนี้สินรวมทั้งสิ้น 206,582 ล้านบาท ลดลง 7,070 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 53,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,887 ล้านบาท

***บินไทยเล็งกู้6หมื่นล.-โตปีละ3-8%***
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตนั้น บมจ.การบินไทย ระบุว่า บริษัทได้เตรียมแผนระยะสั้นช่วง 3 ปี (2552-2554) เพื่อความอยู่รอดและการเติบโตอย่างมั่นคง โดยปีนี้บริษัทมีแผนจะกู้เงินประมาณ 6 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A330-300 จำนวน 4 ลำ จ่ายคืนหนี้ระยะสั้น และเสริมสภาพคล่อง โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ปีละ 3-8% และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA) จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านบาทในปี 2554 จากเป้าหมายปีนี้ที่ 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท
นายวัลลภ พุกกะณะสุต ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ. การบินไทย ออกมาระบุว่า การบินไทยเตรียมแผนจะกู้เงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ภายในเดือนกรกฎาคม 52 นี้ เพื่อนำไปชำระหนี้ระยะสั้น และเสริมสภาพคล่อง โดยแผนการจัดหาแหล่งเงินได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่เรียบร้อย ก่อนจะที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ แร็วๆ นี้

“การบินไทยจะกู้เงินก้อนแรกจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ภายใน 2-3 เดือนนี้ หรือไม่เกินเดือนก.ค. 52 ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด จากแผนปีนี้จะกู้เงินทั้งหมดประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกู้จากต่างประเทศ เพราะอัตราดอกเบี้ยถูกกว่า จากปัจจุบันการบินไทยมีกระแสเงินสดประมาณ 7 พันล้านบาทต่อเดือน ต่ำกว่าปกติที่จะต้องมีกระแสเงินสดประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน”

หุ้นคึกคักรับกำไรดีเกินคาดการณ์

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบมจ. การบินไทย (THAI) วานนี้ (14 พ.ค.) ราคาหุ้น THAI ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าวผลประกอบการที่ดีกว่าหลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ โดยราคาหุ้นได้ปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 19.20 บาท ต่ำสุดที่ 16.90 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.10 บาท หรือ 0.59% มูลค่าการซื้อขายรวม 770.94 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ให้ความเห็นว่า ราคาหุ้นการบินไทยปรับขึ้นแรงในช่วงเช้า จากการที่บริษัทประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/52 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้รับผลดีจากต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง บวกกับค่าเงินบาทเทียบกับเงินกู้ในสกุลต่างประเทศ ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 4.6 พันล้านบาท

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/52 นั้น ยังต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้ง เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจการบิน รวมทั้งยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ที่ระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว และส่งผลโดยตรงต่อบมจ.การบินไทยด้วย

พร้อมกันนี้ ได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/52 ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ไว้นั้น ไม่ได้มาจากการบริหารงานอย่างมีประสิทธิของบริษัทเอง หลังจากปี 51 ที่ผ่านมาบริษัทประสบปัญหาขาดทุนสุทธิถึง 2.1 หมื่นล้านบาท และขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 12.58 บาท แต่กลับเกิดจากปัจจัยหลักๆ คือ ราคาน้ำมันที่โลกปรับตัวลดลงและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

“จากปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ค่อนข้างมาก จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ลงทุนในหุ้น THAI หรือควรเทขายทำกำไรหากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาตลาดขณะนี้ได้ปรับตัวสูงกว่าราคาประเมินไว้ที่หุ้นละ 13-15 บาท”

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานของบมจ.การบินไทยในอนาคตนั้น จะถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการของทีมผู้บริหารการบินไทยที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ว่าจะมีวิสัยทัศน์และศักยภาพนำพาการบินไทยพ้นวิกฤตในครั้งนี้ ไม่ใช่การปัดความรับผิดชอบให้กับเหตุการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะการชุมนุมปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือต้องรอปัจจัยบวกอื่นเข้ามาสนับสนุนเหมือนไตรมาส 1/52 ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบมจ. การบินไทย ได้มีมติฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง 20,000 ล้านบาท เนื่องจากทำให้การบินไทยเสียหายจากการที่บริษัทต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมด และส่งผลให้อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จากช่วงนี้จนถึงครึ่งแรกของปี 2552 ลดลงเหลือแค่ 50% และจะทำให้ผลประกอบการในปีนี้ประสบภาวะขาดทุน.   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us