Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 กันยายน 2546
ตลท.สั่งCAPEชี้แจงข้อมูลเพิ่มขายสินทรัพย์ลดพนักงานมีนัย             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   
search resources

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เคพโทรนิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)




ตลท.ให้ CAPE แจงเพิ่ม กรณีขายทรัพย์สินของบริษัท ตลอดจนการลดพนักงานถึง 80% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีนัยต่องบการเงิน โดยให้ส่งรายละเอียดภายใน 16 ก.ย.นี้

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ บริษัทเคพโทรนิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (CAPE) มีมติให้ฝ่ายบริหารดำเนินการขายเครื่องจักรและอุปกรณ์ไม่เกินร้อยละ 10 ของ สินทรัพย์ทั้งหมด และต่อมามีมติให้ดำเนินการขายเครื่องจักรและวัตถุดิบใน สัดส่วนไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าสุทธิของทรัพย์สินรวม สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2546

รวมทั้งบริษัทได้ดำเนินการลดจำนวนพนักงานจากเดิม 295 คน เหลือ เพียง 60 คน และเปลี่ยนสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาจ้างการให้บริการ เพื่อให้เหมาะสมกับแผนการผลิตในปัจจุบัน รายละเอียดตามข่าวที่ปรากฏในระบบ SET SMART วันที่ 16 , 27 มิถุนายน 2546 และ 25 สิงหาคม 2546 นั้น

เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวของบริษัทจะมีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัท ประกอบกับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2546 บริษัทมียอดขายเพียง 46 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 62 และมีผลขาดทุนสุทธิ 107 ล้านบาท

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปได้มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทอย่างเหมาะสมตลาดหลักทรัพย์จึงขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้

1. ลักษณะและขอบเขตการประกอบธุรกิจของบริษัทภายหลังการขายเครื่องจักรและอุปกรณ์ดังกล่าว โดยเปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนแรกของปี 2546 ทั้งนี้ขอให้ระบุถึงประเภทของสินค้าที่ผลิต กำลังการผลิต และปริมาณการผลิตจริงในงวด 6 เดือนแรกของปี 2546 และอัตราการใช้ กำลังการผลิต ตลอดจนแผนการผลิต ในครึ่งปีหลัง รวมถึงชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานในปัจจุบันว่า โรงงานของบริษัทยังคงเปิดดำเนินการผลิตสินค้าหรือไม่ อย่างไร

2. มูลค่าทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิต โดยแสดงแยกมูลค่าของที่ดิน อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ ตลอด จนวัตถุดิบ ณ 30 มิถุนายน 2546 เปรียบ เทียบกับมูลค่าทรัพย์สินที่บริษัทมี นโยบายจะขายและมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือ

3. เหตุผลที่บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างแรงงานเป็นสัญญาจ้าง การให้บริการ โดยอธิบายถึงความแตกต่างของสัญญาทั้งสองและประโยชน์ของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

โดยขอให้บริษัทนำส่งข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์เพื่อเผยแพร่ต่อผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปผ่านระบบการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 16 กันยายน 2546

ในวันเดียวกัน CAPE เปิดเผยว่าตามที่ได้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) จำนวน 63,220,000 หน่วย ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 ซึ่งวันกำหนดการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญครั้งที่ 21 ของ บริษัทฯ คือ วันที่ 1 ตุลาคม 2546 นั้น

โดยผู้ที่สนใจให้ยื่นความจำนงใน การใช้สิทธิ : เวลา 8.30 น. ถึง 15.30 น. ของวันที่ 16-30 กันยายน 2546 อัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยมีสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญได้ 1.074 หุ้น ราคาที่จะซื้อหุ้นสามัญตามสิทธิ หุ้นละ 10 บาท

บริษัทฯจะไม่มีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อพักการโอนสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ ยกเว้นการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย จะมีการปิดสมุดทะเบียน 21 วัน ก่อนวันครบกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา CAPE แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติการขายเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานบางส่วนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมดให้กับบุคคลอื่น โดยราคาขายจะต้องไม่ต่ำกว่ามูลค่าของสิน ทรัพย์คงเหลือรวมทั้ง ลดจำนวนพนักงานโดยประมาณ 220 คนเพื่อให้เหมาะสมกับแผนการผลิตในปัจจุบัน

ซึ่งการลดพนักงาน เนื่องจากไลน์การผลิตที่ปิดลง เช่น CRT เป็นผลจากลูกค้าที่หดหายและไม่มีออร์เดอร์แล้วในปัจจุบันและตลาดหันมาใช้หลอด ภาพ LCD ที่มีมาร์จินดีกว่าแทน ที่สำคัญคือการแข่งขันด้านการตลาด ซึ่งจีนหันมาผลิต CRT และมีต้นทุนต่ำกว่า มาก เนื่องจากได้เปรียบของค่าแรงที่ถูก กว่าของไทย ส่งผลให้ CAPE ไม่สามารถสู้ราคาขายได้ ทำให้ลูกค้าหันไปซื้อสินค้าจากจีนแทน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us