Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน13 พฤษภาคม 2552
บ้านปูโตสวนศก. กำไรQ1พุ่ง130% โบรกฯแนะ“ซื้อ”             
 


   
www resources

โฮมเพจ บ้านปู

   
search resources

บ้านปู, บมจ.
ชนินท์ ว่องกุศลกิจ
Mining




บ้านปู กำไรสุทธิไตรมาสแรกรวมเกือบ 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 130% รับอานิสงส์ราคาถ่านหินพุ่ง แม้ปริมาณขายจะลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 53% ด้านนักวิเคราะห์ ประสานเสียง ผลงาน “บ้านปู” ดีกว่าคาดการณ์ พร้อมแนะนำให้ซื้อ หลังปรับราคาเป้าหมายใหม่ ขณะที่ราคาหุ้นวานนี้ปิดที่ 314 บาท บวก 3 บาท

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 4,797.54 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 17.65 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,073.95 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 7.63 บาท โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2,723.59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 131.32%

ทั้งนี้ บ้านปูมีรายได้จากการขายรวม 13,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,987 ล้านบาท หรือคิดเป็น 58% จากราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายถ่านหิน 12,343 ล้านบาท คิดเป็น 91% ของรายได้จากการขายรวม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4,808 ล้านบาท หรือ 64% ขณะที่รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำ 1,269 ล้านบาท คิดเป็น 9% ของรายได้จากการขายรวม

“ไตรมาส 1/52 แม้ว่าบ้านปูจะได้รับผลกระทบจากปริมาณการขายถ่านหินที่ลดลง จากการหยุดปรับปรุงท่าเรือบอนตัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนถ่ายถ่านหินรวม 1 สัปดาห์ (16-23 ก.พ. 52) และมีการปิดเหมืองในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยกลับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 71% มาอยู่ที่ระดับ 84.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จากปัจจัยหลักๆ คือ การทำสัญญาล่วงหน้าในช่วงที่ราคาถ่านหินในตลาดโลกเพิ่มขึ้น อีกทั้งการขายถ่านหินคุณภาพสูงในสัดส่วนที่สูงขึ้น และจำนวนที่ลดลงของถ่านหินในประเทศไทย”

นายชนินท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรขั้นต้นรวมทั้งสิ้น 7,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,325 ล้านบาท คิดเป็น 152% อัตราส่วนการทำกำไรขั้นต้นต่อยอดขายรวม (Gross Profit Margin) สำหรับไตรมาสนี้อยู่ที่ 53% โดยธุรกิจถ่านหินมีอัตราส่วนการทำกำไรขั้นต้น 55% และธุรกิจไฟฟ้ามีอัตราส่วนการทำกำไรขั้นต้น 26%

“อัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจถ่านหินไตรมาสนี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 55% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 37% และใกล้เคียงกับไตรมาส 4/51 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 56%”

ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) รวมเท่ากับ 7,080 ล้านบาท ปรับสูงขึ้น 142% และ 13% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าและไตรมาส 4/52 โดยแบ่งเป็น EBITDA จากธุรกิจถ่านหิน 5,623 ล้านบาท (หรือ 79 % ของ EBITDA รวม) และ EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้า 1,457 ล้านบาท

สำหรับต้นทุนขายนั้นเพิ่มขึ้น 11% ผลจากต้นทุนผันแปรที่ปรับตามปริมาณขายถ่านหินคุณภาพดี และการปรับการทำเหมืองในระดับความลึก รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมเพิ่มขึ้น

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานของบมจ.บ้านปู (BANPU) ไตรมาส 1/52 ที่สามารถทำกำไรสุทธิได้เกือบ 4.8 พันล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 17.65 บาทนั้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการไว้ เป็นผลมาจากปริมาณถ่านหินเพิ่มขึ้น โรงไฟฟ้า BLCP ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด และการบันทึกกำไรจากการทำประกันความเสี่ยงราคาถ่านหิน รวมถึงรับบันทึกเงินปันผลจากบมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ซึ่งปกติจะรับรู้เข้ามาในช่วงไตรมาส 2

พร้อมกันนี้ ยังได้ประเมินว่า BANPU เป็นหุ้นที่น่าสนใจมากที่สุดในกลุ่มพลังงาน เพราะมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มมากขึ้น แต่ผลการดำเนินงานของบ้านปู ในไตรมาส 1/52 น่าจะเป็นจุดสูงสุดแล้ว ก่อนจะชะลอตัวในไตรมาสถัดไป แต่ทั้งปีน่าจะโตได้ประมาณ 22% ดังนั้นจึงแนะนำให้ซื้อลงทุน โดยมีราคาเหมาะสมอยู่ที่ 380 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนิตี้ ประเมินว่า BANPU มีผลการดำเนินงานดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3,300 ล้านบาท แม้รายได้จากการขายจะลดลงจากไตรมาส 4/51 ที่ผ่านมา แต่ราคาขายยังคงอยู่ในระดับสูงจากสัญญาขายถ่านหิน (ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยไตรมาส 1/52 เท่ากับ 84.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน) รวมถึงได้ประโยชน์จากการที่ต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง ทำให้ยังสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับสูง

ขณะเดียวกัน BANPU ยังมีเงินปันผลรับจำนวน 239 ล้านบาท และกำไรจากการทำสัญญา Coal swap ถ่านหินที่ทำให้ได้กำไรถึง 794 ล้านบาท รวมถึงได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกจำนวน 387 ล้านบาท ส่วนธุรกิจไฟฟ้าจาก BLCP กลับมารับรู้ผลกำไรที่ดีอีกครั้ง โดยมีผลกำไรสุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 923 ล้านบาท

“เราคงจะมีการปรับคำแนะนำใหม่อีกครั้ง แต่เบื้องต้นมองว่าราคาที่เหมาะสม ณ ระดับการซื้อขาย ที่ พีอี เรโช ปี 52 ที่ระดับ 10 เท่า ราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 340 บาท”

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ล่าสุด วานนี้ (12 พ.ค.) ราคาหุ้น BANPU ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นไทย โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 318 บาท ต่ำสุดที่ 313 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 314 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 3 บาท คิดเป็น 0.96% มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,405.23 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us