Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน13 พฤษภาคม 2552
“ดิอาจิโอฯ” ปรับครั้งใหญ่รอบ 4 ปี เท150ล.รีลอนซ์เบนมอร์ขอแชร์30%             
 


   
search resources

Alcohol
ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย), บจก.




ดิอาจิโอฯ ทุ่ม 150ล้านบาท รีลอนซ์เบนมอร์ โฟร์ คาสก์ สกอตช์ ปรับครั้งใหญ่รอบ 4ปี ชูรสชาติใหม่ แพกเกจจิ้ง สร้างมูลค่า ควงคอนเซปต์ความคุ้มค่าตอบโจทย์คอน้ำเมาชะลอการดื่ม หวังปลุกตลาดเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ด 8,000ล้านบาท หลังติดลบ 15% วิกฤตหนักรอบ 5 ปี พร้อมเร่งกระจายสินค้าช่องทางค้าปลีก หวัง 1ปี ตอดแชร์ฮันเดรดฯ โกยแชร์เพิ่ม 15% เป็น 30%

นาย อิศเรศ สุนทราวรกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวิสกี้สแตนดาร์ดมูลค่า 8,000ล้านบาท จากมูลค่าวิสกี้นำเข้า 1.6หมื่นล้านบาท โดยนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2551 ถึง เดือนมีนาคม 2552 ติดลบ 15% มากที่สุดในรอบ 5ปี จาก 2ปีที่ผ่านมาตลาดอยู่ในภาวะทรงตัวหรือเติบโต 5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบต่อตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยว และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย และลดการดื่มเหล้านอกบ้านแต่หันไปดื่มที่บ้านแทน นอกจากนี้ยังทำให้ผู้บริโภคการตัดสินใจซื้อสินค้า มองในเรื่องของความคุ้มค่ามากขึ้น

“วิสกี้เซกเมนต์สแตนดาร์ดสิ้นปีนี้คาดว่าจะทรงตัว อย่างไรก็ตามวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้เหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ด ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ถึง 50% ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนเซกเมนต์อื่นๆ ได้แก่ ซูเปอร์ดีลักซ์ 3-5% และดีลักซ์และพรีเมียม 45% ได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายมีกำลังการซื้อ”

สำหรับแผนการทำตลาดกลุ่มวิสกี้สแตนดาร์ด บริษัทได้รีลอนซ์เบนมอร์ใหม่มาเป็น “เบนมอร์ โฟร์ คาสก์ สกอตช์” วิสกี้ที่ใช้เทคนิคการหมักบ่มแบบพิเศษของประเทศสก็อตเเลนด์ ผ่านการผลิตจากถังถึง 4 ชนิด จากปกติสกอตช์วิสกี้ทั่วไปใช้ 1-2ถัง อีกทั้งยังมีรสชาติเข้มข้นขึ้น สอดคล้องกับพฤติกรรมการดื่มของคนไทยที่นิยมดื่มผสม และบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยจำหน่ายราคาเดิม 349 บาท มีด้วยกัน 2ขนาด 50ซีแอล และ 70ซีแอล เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ชายอายุ 25-35 ปี อาศัยในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ตามต่างจังหวัด

“เราได้ปรับกลยุทธ์การตลาด โดยชูจุดเด่นด้านความคุ้มค่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จากการพิจารณาถึงประเด็นในข้างต้นทางบริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสและเชื่อมั่นในเส้นทางการเติบโตของเบนมอร์ในตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย”

บริษัทได้ทุ่มงบการตลาด 150 ล้านบาท จากปกติใช้งบ 60-70 ล้านบาท โดยเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยแผนการตลาดแบบ3600 ผ่านทุกกิจกรรมทางการตลาด พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์อะโบฟเดอะไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และการทำบีโลว์เดอะไลน์ ผ่านช่องทางสถานบันเทิง เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงร่วมกับผลิตภัณฑ์ และทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี นำร่องจัดกิจกรรม “Be More Hitz” เริ่มขึ้นปลายเดือนมิถุนายน นี้ ที่ จ.เชียงใหม่ แห่งแรก

นอกจากนี้ยังมุ่งการกระจายสินค้าผ่านช่องทางค้าปลีกมากขึ้น เพื่อรองรับกับพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายที่หันมาดื่มเหล้าที่บ้านเพิ่มขึ้น โดยพบว่า ช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดเพิ่มขึ้นเป็น 60-70% ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ ลดลง 30-40% ส่วนการปรับราคาเหล้าสีหรือบรั่นดีเพิ่มขึ้น คาดว่าจะส่งผลดีต่อเหล้าเซกเมนต์สแตนดาร์ดเพียงเล็กน้อย เนื่องจากแม้ว่าจะมีการปรับราคาขึ้น แต่เมื่อเทียบราคาเหล้าสีกับสแตนดาร์ดค่อนข้างห่างกันเท่าตัว ขณะที่การปรับภาษีในครั้งนี้ มีเพียงบรั่นดีและคอนยัคของบริษัทได้ต้องโดนปรับภาษีขึ้น ส่วนเหล้านำเข้าไม่ได้รับผลกระทบ

นายอิศเรศ กล่าวว่า จากการดำเนินการตลาดเชิงรุก คาดว่าในระยะ 1 ปี เบนมอร์ โฟร์ คาสก์ มีส่วนแบ่งเพิ่ม 15% เป็น 30% โดยช่วงชิงส่วนแบ่งจากผู้นำตลาด ฮันเดรด ไพเพอร์ส 85% จากมูลค่าตลาด 8,000 ล้านบาท แม้ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ไทยเบฟ นำเข้าเหล้าใหม่ลงเซกเมนต์สแตนดาร์ด แต่ยังไม่มีการเคลื่อนไหวทางการตลาดมากนัก สำหรับในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ถือว่ามีอัตราการเติบโตตามเป้าหมาย ส่วนไตรมาส 2 คงต้องพิจารณาตัวเลขอีกครั้ง หลังจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นไฮซีซันของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us