Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน12 พฤษภาคม 2552
ตลาดหุ้นหั่นเป้าหุ้นไอพีโอเหลือ37ราย             
 


   
search resources

Stock Exchange
สุทธิชัย จิตรวาณิช




บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนแผนการดำเนินงานใหม่ หลังประกาศใช้โครงสร้างมาตั้งแต่ต้นปี 52 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาบุคลากรตลาดทุนด้วยการปรับกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน หวังขยายฐานลูกค้าและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมปรับลดเป้าบริษัทจดทะเบียนใหม่จาก 46 บริษัท เหลือแค่ 37 บริษัท

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (11 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งการติดตามสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที

โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เห็นชอบแนวทางการปรับแผนกลยุทธ์ทั้งในส่วนของกลุ่มงานธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ฯ (Exchange Function) และสถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2552 โดยให้ความสำคัญกับแผนกลยุทธ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และองค์กรในตลาดทุน สามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จได้ แม้ปัจจัยภายนอกจะไม่เอื้ออำนวย

ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังเน้นสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากรในตลาดทุน เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที โดยเน้นปรับกลยุทธ์ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านผู้ลงทุน ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านบริษัทจดทะเบียน และการบริหารจัดการและการพัฒนาองค์กร

สำหรับกลยุทธ์สำคัญด้านการขยายฐานผู้ลงทุน นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อขยายเคาน์เตอร์ให้บริการด้านหลักทรัพย์ผ่านสาขาของธนาคาร เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ฝากเงินธนาคารเข้าถึงการลงทุนในตลาดทุนได้สะดวกขึ้น รวมทั้งจะส่งเสริมให้ผู้ลงทุนประเภท High Net Worth Individual (HNWI) ที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้าถึงรูปแบบการลงทุนประเภทใหม่ๆ และมีการกระจายความเสี่ยงผ่านตราสารที่ช่วยบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละกลุ่ม

นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการลงทุนในลักษณะทยอยลงทุน เช่นในโครงการ Wealth Builder เพื่อสร้างฐานผู้ลงทุนรายบุคคลให้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังจะส่งเสริมให้มีผู้ลงทุนสถาบันโดยเฉพาะกองทุนรวมให้เพิ่มมากขึ้นด้วย

กลยุทธ์ด้านที่ 2 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการเพิ่มตราสารประเภทใหม่ๆ ที่มีการคุ้มครองเงินต้น เพื่อให้ผู้ที่มีเงินฝากในธนาคารนำเงินมาลงทุนในตลาดทุนได้อย่างมั่นใจ ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีหลังจากพ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เริ่มทยอยลดความคุ้มครองเงินต้นของผู้ฝากเงินในธนาคารลงจนเหลือ 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ส.ค.2555 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ จะเร่งศึกษาการออก Interest rate futures ในช่วงครึ่งหลังของปี 52 นี้จากเดิมที่กำหนดไว้ในปี 53 เพื่อเพิ่มตราสารอนุพันธ์สำหรับตลาดเงิน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือใหม่ในการบริหารความเสี่ยงของผู้ลงทุนในตราสารทางการเงินที่อ้างอิงดอกเบี้ยในขณะเดียวกัน จะเร่งออกตราสารอนุพันธ์ และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะ Derivative Warrant และ Equity futures ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนเรื่องทางเลือกการออมการลงทุน และการกระจายความเสี่ยงด้วยตราสารที่หลากหลาย

กลยุทธ์ด้านที่ 3 ด้านบริษัทจดทะเบียน ได้มีการปรับลดเป้าหมายจำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่จาก 46 เป็น 37 บริษัท ทั้งนี้ จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี รวมทั้งสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เช่น การควบรวม หรือการปรับโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) โดยปรับแนวทางปฏิบัติให้ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากการร่วมลงทุนของผู้ลงทุน Venture Capital โดยเฉพาะบริษัทที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต

กลยุทธ์ด้านที่ 4 การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาบุคลากร และการปรับกระบวนการทำงานที่สำคัญจะเน้นตอบสนองการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

“การปรับกลยุทธ์การดำเนินการครั้งนี้ เป็นการปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับองค์กรในตลาดทุนอย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตลาดทุน โดยได้ติดตามสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและปรับแนวทางการดำเนินงานให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที" นายสุทธิชัยกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us