|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ ทบทวนแผนการดำเนินงานใหม่ หลังประกาศใช้โครงสร้างมาตั้งแต่ต้นปี 52 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเน้นสร้างความเข้มแข็งโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาบุคลากรตลาดทุนด้วยการปรับกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน หวังขยายฐานลูกค้าและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมปรับลดเป้าบริษัทจดทะเบียนใหม่จาก 46 บริษัท เหลือแค่ 37 บริษัท
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วานนี้ (11 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับแผนกลยุทธ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก พร้อมทั้งการติดตามสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที
โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เห็นชอบแนวทางการปรับแผนกลยุทธ์ทั้งในส่วนของกลุ่มงานธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ฯ (Exchange Function) และสถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2552 โดยให้ความสำคัญกับแผนกลยุทธ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และองค์กรในตลาดทุน สามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จได้ แม้ปัจจัยภายนอกจะไม่เอื้ออำนวย
ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยังเน้นสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากรในตลาดทุน เพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที โดยเน้นปรับกลยุทธ์ใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านผู้ลงทุน ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านบริษัทจดทะเบียน และการบริหารจัดการและการพัฒนาองค์กร
สำหรับกลยุทธ์สำคัญด้านการขยายฐานผู้ลงทุน นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำงานร่วมกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อขยายเคาน์เตอร์ให้บริการด้านหลักทรัพย์ผ่านสาขาของธนาคาร เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ฝากเงินธนาคารเข้าถึงการลงทุนในตลาดทุนได้สะดวกขึ้น รวมทั้งจะส่งเสริมให้ผู้ลงทุนประเภท High Net Worth Individual (HNWI) ที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้าถึงรูปแบบการลงทุนประเภทใหม่ๆ และมีการกระจายความเสี่ยงผ่านตราสารที่ช่วยบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของแต่ละกลุ่ม
นอกจากนี้ จะส่งเสริมให้มีการลงทุนในลักษณะทยอยลงทุน เช่นในโครงการ Wealth Builder เพื่อสร้างฐานผู้ลงทุนรายบุคคลให้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังจะส่งเสริมให้มีผู้ลงทุนสถาบันโดยเฉพาะกองทุนรวมให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
กลยุทธ์ด้านที่ 2 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการเพิ่มตราสารประเภทใหม่ๆ ที่มีการคุ้มครองเงินต้น เพื่อให้ผู้ที่มีเงินฝากในธนาคารนำเงินมาลงทุนในตลาดทุนได้อย่างมั่นใจ ซึ่งถือเป็นจังหวะที่ดีหลังจากพ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เริ่มทยอยลดความคุ้มครองเงินต้นของผู้ฝากเงินในธนาคารลงจนเหลือ 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ส.ค.2555 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ จะเร่งศึกษาการออก Interest rate futures ในช่วงครึ่งหลังของปี 52 นี้จากเดิมที่กำหนดไว้ในปี 53 เพื่อเพิ่มตราสารอนุพันธ์สำหรับตลาดเงิน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือใหม่ในการบริหารความเสี่ยงของผู้ลงทุนในตราสารทางการเงินที่อ้างอิงดอกเบี้ยในขณะเดียวกัน จะเร่งออกตราสารอนุพันธ์ และเครื่องมือบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะ Derivative Warrant และ Equity futures ควบคู่ไปกับการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนเรื่องทางเลือกการออมการลงทุน และการกระจายความเสี่ยงด้วยตราสารที่หลากหลาย
กลยุทธ์ด้านที่ 3 ด้านบริษัทจดทะเบียน ได้มีการปรับลดเป้าหมายจำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่จาก 46 เป็น 37 บริษัท ทั้งนี้ จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานดี รวมทั้งสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่มีแผนการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เช่น การควบรวม หรือการปรับโครงสร้างเป็นบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) โดยปรับแนวทางปฏิบัติให้ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากการร่วมลงทุนของผู้ลงทุน Venture Capital โดยเฉพาะบริษัทที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต
กลยุทธ์ด้านที่ 4 การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาบุคลากร และการปรับกระบวนการทำงานที่สำคัญจะเน้นตอบสนองการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ
“การปรับกลยุทธ์การดำเนินการครั้งนี้ เป็นการปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับองค์กรในตลาดทุนอย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ตลาดทุน โดยได้ติดตามสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินและปรับแนวทางการดำเนินงานให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที" นายสุทธิชัยกล่าว
|
|
|
|
|