Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์11 พฤษภาคม 2552
คอตโต้ประกาศปรับทิศทำตลาด รีแบรนด์ 3 สินค้ารักษาแชร์ผู้นำ             
 


   
www resources

โฮมเพจ เคมีภัณฑ์ซิเมนต์ไทย

   
search resources

Construction
เคมีภัณฑ์ซิเมนต์ไทย, บจก.




ตลาดวัสดุรับศึกหนักอสังหาฯ หดตัว เอสซีจีเตรียมรีแบรนด์สินค้าในเครือ ปรับโฉมใหม่ภายในปีหน้า สร้างแบรนด์ชิงยอดขายรับมือตลาดแข่งดุ หลังประเมินภาพรวมตลาดทุกกลุ่มวัสดุโตติดลบ ประเดิมรีแบรนด์ใหญ่คอตโต้ ผนึก 3 สินค้าสุขภัณฑ์-ก๊อก-กระเบื้องทำการตลาดร่วมกัน ภายใต้โลโก้เดียว

ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างที่หดตัวตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างแทบทุกรายต้องตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้แบบ Conservative พร้อมกับเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อประคับประคองยอดขาย ทั้งการพยายามแย่งมาร์เก็ตแชร์จากคู่แข่ง หรือขยับหนีด้วยการสร้างดีมานด์ใหม่ เพื่อเข้าหาตลาดใหม่ แนวทางของเอสซีจีในฐานะเบอร์หนึ่งของตลาดวัสดุก่อสร้างก็มองไว้ไม่แตกต่างกัน และพบว่าในไตรมาส 1 ตลาดบ้านสร้างใหม่หดตัว 12% ตลาดสุขภัณฑ์หดตัว 16% ตลาดกระเบื้องเซรามิคหดตัว 16% ตลาดกระเบื้องหลังคาหดตัว 6% ทั้งนี้ตลาดระดับกลางได้รับผลกระทบมากที่สุด หดตัวลง 14% ส่วนตลาดระดับบนและตลาดล่างยังทรงตัว นอกจากนี้โครงการจัดสรรในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลยังลดลงยอดขายในหัวเมืองท่องเที่ยวชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ

ดังนั้นทิศทางปีนี้เอสซีจีจะเน้นรุกตลาดกลาง-บน และตลาดต่างจังหวัด ซึ่งเป็นตลาดหลักของบริษัท อย่างไรก็ตาม การปรับรูปแบบการขายสินค้ามาเป็นการขายแบบครบวงจรในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดขายของเอสซีจีมีอัตราการเติบโตที่ดี แม้ภาพรวมตลาดจะหดตัว โดยไตรมาสแรกมียอดขายประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้า โดยทั้งปีคาดว่าจะมียอดขาย 25,000 ล้านบาท ส่วนปี 2551 มียอดขาย 23,000 ล้านบาท

ในปีนี้เอสซีจีมีภารกิจใหญ่ที่จะต้องรีแบรนด์สินค้าในกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่มากมายหลายแบรนด์ แต่ละแบรนด์ทำตลาดมาหลายปี ให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ชัดเจน ล้อไปกับนโยบายการทำตลาดภายใต้แนวคิด 'The Home Solution' หรือการขายสินค้าแบบยกระบบ เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องบ้านอย่างครบวงจรในคราวเดียว ซึ่งการรีแบรนด์สินค้าไม่ใช่กลยุทธ์ที่เอสซีจีเพิ่งจะคิดทำเมื่อตอนเศรษฐกิจตกต่ำ แต่พิชิต ไม้พุ่ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า เป็นแผนระยะยาวที่เอสซีวางไว้ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว หลังจากผลการสำรวจข้อมูลของลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ พบว่า ที่ผ่านมามีความสับสนในเรื่องแบรนด์สินค้าทำให้เอสซีจีตัดสินใจรวมสุขภัณฑ์-ก๊อกน้ำ-กระเบื้อง ภายใต้แบรนด์ 'คอตโต้' มารีแบรนด์ไว้ภายใต้แบรนด์และโลโก้เดียว ภายใต้แนวคิด The Right Solution ตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภคได้ในแบรนด์เดียว จากนั้นจะทยอยรีแบรนด์สินค้ากลุ่มกระเบื้องหลังคาต่อไปให้เสร็จภายในปีหน้า

หลังจากรีแบรนด์คอตโต้แล้ว การพัฒนาสินค้าและการวางแผนการตลาดของทั้ง 3 สินค้าจะต้องทำร่วมกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสินค้าและบริการ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำตลาดทั้งในและนอกประเทศ ภายใต้แนวทางการทำงาน 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.สร้างสรรค์ร่วมกัน (Co Create) โดยจะร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ เช่น มิคกี้เมาส์ ดอยตุงในการออกแบบสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษภายใต้ชื่อ 'Cotto Decor' 2.การคิดค้นนวัตกรรม (Innovation) 3.การมอบความสะดวกสบาย (Hassle Free) เช่น ระบบการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว และการบริการของ Cotto Studio ที่มีบริการครบครันตั้งแต่ออกแบบจนถึงการติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ ช่วยให้การทำห้องน้ำเป็นเรื่องง่าย 4.การสร้างคุณภาพมาตรฐาน (Integrity) ของสินค้าและบริการ

การทำงานร่วมกันของคอตโต้จะเน้นพัฒนาสินค้าเป็นชุดที่มีดีไซน์ที่กลมกลืนกันทั้งสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และกระเบื้อง ช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุดได้พัฒนาออกเป็น 5 แนวคิด ได้แก่ Cotto Eco สินค้าสำหรับผู้ห่วงใยโลกและสิ่งแวดล้อม, Cotto Elegance สินค้าที่เน้นดีไซน์หรูหรา, Cotto Natural สินค้าที่ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติ, Cotto Care สินค้าที่เน้นสุขอนามัยและความปลอดภัยสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ และ Cotto Wellness สินค้าเพื่อความสุนทรีย์ของชีวิต ความหลากหลายของสินค้าเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับบริการติดตั้ง 'Cotto Speed Bathroom' ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้คอตโต้คาดหวังว่า การรีแบรนด์จะช่วยให้มียอดขายเพิ่มขึ้น

สำหรับปีนี้คอตโต้ตั้งเป้ายอดขายไว้ทรงตัวเท่าปีที่แล้ว ได้แก่ กลุ่มสุขภัณฑ์-ก๊อกน้ำ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์ 40% กลุ่มกระเบื้อง 6,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์ 25% คาดการณ์ว่าตลาดรวมสุขภัณฑ์ปีนี้จะหดตัวลง 10% ส่วนตลาดรวมกระเบื้องหดตัว 15% รวมไปถึงตลาดส่งออกด้วย ซึ่งกระทบกับยอดขายของแบรนด์ 'โตโต้' ซึ่งกินสัดส่วน 10-20% ของยอดขายรวมโดยปีนี้โตโต้จะเร่งบุกตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา พร้อมกับเจาะตลาดเก่า เช่น จีน เวียดนามให้ลึกขึ้นผ่านช่องทางการตลาดของเอสซีจีในต่างประเทศและดีลเลอร์ในท้องถิ่น ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 3,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us