|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แลคตาซิดชูกลยุทธ์ให้ความรู้ผู้บริโภค ตอกย้ำภาพผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพื่อขยายฐานลูกค้า ล่าสุดสื่อสารผ่านหนังโฆษณารูปแบบแอนิเมชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'Lactacyd Journey' สร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค หลังสำรวจพบสาวๆ ไม่ใช้สินค้ามีตัวเลขสูงถึง 50% เพราะความกังวลจากกระแส word of mouth หรือสื่อจากแพทย์ และนี่คือความพยายามของแลคตาซิดในการเพิ่มสาวกสาวใส่ใจสุขภาพ พร้อมขยับการเติบโตขึ้น 4%
เมื่อพูดถึงตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น แน่นอนว่าชื่อเสียงของแบรนด์เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่นด้วยตัวโปรดักส์แล้ว สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ คือ การให้ความรู้และความเข้าใจกับผู้บริโภคอย่างเข้มข้น ชนิดที่เรียกว่า วันนี้ต้องบุกประชิดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทาง เพื่อรักษาและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพราะการสำรวจของแลคตาซิด อินทิเมทล่าสุด พบว่า ผู้หญิงที่ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มีมากถึง 50%
'เดิมตัวเลขของคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอยู่ที่ 80% แต่ล่าสุดพบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้มีผู้ที่เลิกใช้สินค้าไปกว่า 30% เมื่อรวมกับกลุ่มคนที่ไม่เคยใช้เลยอีก 20% ทำให้ตลาดยังมีช่องว่างอีก 50% ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำภาพรวมตลาดเติบโตน้อย โดยปัจจุบันมีมูลค่าเพียง 500 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะโตเพียง 4%' เป็นคำกล่าวของ ฐิติมา เล็กศิวิไล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Personal Health Care บริษัท ซาโนฟี่-อเวติส (ประเทศไทย) จำกัด
จากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้แลคตาซิด อินทิเมท แบรนด์ที่อยู่ในฐานะผู้นำด้วยแชร์ 68% ต้องเร่งรักษาฐานลูกค้าของตนเองไม่ให้หดหายไป พร้อมทั้งขยายตลาดให้กว้างขึ้นด้วย ซึ่งหากดูตัวเลขกลุ่มผู้ใช้ที่มีอยู่ 50% พบว่า กลุ่มคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกวันมีสูงถึง 80% ดังนั้นการให้น้ำหนักความสำคัญครั้งนี้น่าจะมุ่งไปที่ผู้บริโภค 2 กลุ่ม คือ ผู้ที่ไม่เคยใช้เลยที่มีสัดส่วน 20% ซึ่งหากวิเคราะห์การเข้าหาลูกค้ากลุ่มนี้ อาจไม่ใช่เรื่องยากนักถ้าจะเน้นให้ความรู้และสร้างโอกาสการทดลองใช้สินค้า เช่น การแจกสินค้าตัวอย่าง ทว่า กลุ่มสาวๆ ที่เคยใช้แล้วเลิกใช้ภายหลังซึ่งมีมากถึง 30% น่าจะเป็นกลุ่มที่แลคตาซิด หรือผู้เล่นรายอื่นต้องออกแรงสร้างความเข้าใจมากกว่ากลุ่มแรก เพราะปัจจัยสำคัญที่ทำให้สาวๆ กลุ่มนี้เปลี่ยนใจ คือ ข้อมูลที่เกิดจากการบอกปากต่อปากในกลุ่มเพื่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับข้อมูลข่าวสารจากแพทย์ที่ทำให้เกิดความกังวลหากต้องใช้สินค้าประเภทนี้ แม้ทางแลคตาซิดจะโหมให้ความรู้มานานถึง 8 ปีก็ตาม
ฉะนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น การเอ็ดดูเคตจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญและจำเป็นอย่างมากในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของแลคตาซิด แต่จากข้อจำกัดในการสื่อสารที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ล่าสุดทางแลคตาซิด อินทิเมท จึงเลือกหนังโฆษณาในรูปแบบแอนิเมชั่นมาช่วยสร้างความเข้าใจ ภายใต้แคมเปญ Lactacyd Journey เพื่อให้ความรู้กับสาวๆ วัย 15-45 ปี โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่เคยใช้หรือเลิกใช้ไปแล้ว ซึ่ง ฐิติมา อธิบายว่า ลูกค้าทั้งสองกลุ่มนี้จะมองว่าไม่มีความจำเป็นและกังวลเรื่องผลข้างเคียงหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น โดยจะเลือกใช้สบู่เหลว หรือน้ำเปล่าแทน
ต่างจากผู้เล่นรายอื่น เช่น โชกุบุสซึ เดทตอล มิสทิน โดยเฉพาะแบรนด์บีไนซ์ ผู้เล่นที่รั้งอันดับ 2 ในขณะนี้ด้วยแชร์ 12% จะเห็นว่าเน้นการสื่อสารกับผู้บริโภคเชิงอีโมชันนัลเป็นหลัก เช่น การโฆษณาในรูปแบบไทอินผ่านรายการต่างๆ เช่น ทีวีพูล ไลฟ์ โดยให้นักแสดงช่วยเป็นกระบอกเสียงพูดถึงผลิตภัณฑ์ในเชิงอีโมชันนัล ส่วนแคร์ฟี ผู้เล่นที่เคยสร้างสีสันในตลาดนี้ทั้งในมุมอีโมชันนัลและฟังก์ชันนัลเช่นเดียวกับแลคตาซิด รายงานล่าสุดพบว่า แบรนด์ดังกล่าวได้เลิกทำตลาดในสินค้ากลุ่มนี้ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยหันไปโฟกัสสินค้าเรือธงในกลุ่มแผ่นอนามัยแทน
นอกจากการสื่อสารผ่านหนังโฆษณาแล้ว แลคตาซิดยังเน้นบุกประชิดถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยกลวิธีการจัดโรดโชว์ให้ความรู้ตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย ขณะที่กลุ่มสาวออฟฟิศจะเข้าไปในรูปแบบการจัดบูทให้คำแนะนำ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง ซึ่งกลยุทธ์นี้แลคตาซิดให้ความสำคัญพอๆ กับการสื่อสารผ่านหนังโฆษณา โดยดูจากเม็ดเงินที่ใช้มากถึง 20 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงบที่ใช้ผ่านสื่อจำนวน 30 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ด้านการพัฒนาเชิงโปรดักส์ จะเห็นว่าแลคตาซิดเป็นแบรนด์ที่ทำการบ้านเป็นอย่างดี โดยดูจากการแบ่งสินค้าออกเป็น 4 สูตร คือ สูตรสวีทฟลอร่า สูตรเฟรชเรเดียนซ์ สูตรไร้น้ำหอม และสูตรครีมน้ำนมบริสุทธิ์ มีสัดส่วนยอดขายตามลำดับดังนี้ 40% 15% 10% และ 30% ที่เหลืออีก 5% เป็นกลุ่มแผ่นทำความสะอาด จะเห็นว่านอกจากกลิ่นที่มีให้เลือกตามความชอบแล้ว แลคตาซิดยังชิงตอบโจทย์สาวไทยที่กังวลเรื่องน้ำหอม ด้วยสูตรรไร้น้ำหอม ซึ่งไทยเป็นประเทศเดียวที่ขายสูตรดังกล่าว
และนี่คือ ความพยายามอีกครั้งของแลคตาซิดในการเอ็ดดูเคตกับผู้บริโภค โดยหวังว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันกลับมาใช้สินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งหากวัดเป็นตัวเลข ปีนี้แลคตาซิดตั้งเป้าเติบโตขึ้นอีก 4% พร้อมขยับส่วนแบ่งตลาดให้แตะ 70% ภายในสิ้นปีนี้ จากตอนนี้ที่มีอยู่ 68% ตามมาด้วยบีไนซ์ 12%
|
|
|
|
|