|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยทิกเก็ต ทำใจ หลังเจอพิษเศรษฐกิจและการเมืองรุมตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี งัดกลยุทธ์มุ่งหาพาร์ทเนอร์ จัดตลาดลูกค้าตปท. เพิ่มช่องทางขายบัตรใหม่ๆ หวังสิ้นปี เข็นรายได้เท่าปีก่อนที่ 100 ล้านบาท
นายโชคชัย เอี่ยมฤทธิ์ไกร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ จำกัด เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอมรับว่าตกลงราว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ที่ส่งผลให้งานคอนเสิร์ตและงานโชว์มีจำนวนลดลง บวกกับในส่วนของตลาดรากหญ้า ที่บริษัทเข้ามาทำตลาดนี้ผ่านการขายบัตรโดยสารนั้น ก็มียอดตกลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ประชาชนระดับรากหญ้ากลับบ้านน้อยลง อีกทั้งมีเรื่องของการจลาจล จึงส่งผลให้ยอดขายบัตรโดยสารหายไปไม่ต่ำกว่า 20% จากที่คาดการณ์ไว้
จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทต้องมีการปรับรายได้ลดลง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้น่าจะมีรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 10% จากปีก่อน เหลือเพียงทรงตัวเท่าปีก่อนที่ 100 ล้านบาท โดยหลังจากนี้บริษัทจะต้องปรับกลยุทธ์การขายใหม่ เน้นลูกค้าระดับกลาง-ระดับบน ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มงานโชว์และคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศ มุ่งหาพาร์ทเนอร์เป็นหลัก มีการขายบัตรในลักษณะโอเปอร์เรตเซลล์มากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ได้มีการจับมือกับทางสายการบินไทยแอร์เอเชีย ในการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต รวมถึงจับมือกับทางโรงแรมต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการเข้ามาชมคอนเสิร์ตในประเทศไทย ขณะเดียวกันในแต่ละงานที่จัดนั้น ทางบริษัทจะมีการใช้สื่อโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ เพื่อการประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับรู้มากยิ่งขึ้น ภายใต้งบการตลาดผ่านสื่อที่ใกล้เคียงกับปีก่อน เชื่อว่าจะเป็นกลยุทธ์สำคัญ ที่จะทำให้ปีนี้ไทยทิกเก็ตฯมีรายได้เป็นไปตามเป้า โดยรายได้หลักจะมาจากงานโชว์ต่างๆ 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 40% และอีก 50% มาจากคอนเสิร์ต ซึ่งปีก่อนมีสัดส่วนที่ 60% ขณะที่ในกลุ่มของลูกค้าระดับล่าง อย่าง การจำหน่ายบัตรรถโดยสาร ปีนี้มองว่าจะไม่โต เนื่องจากมีการเลิกจ้างงานมากขึ้น
อย่างไรก็ตามในปีนี้ บริษัทยังเดินหน้าต่อเนื่อง ในส่วนของการลงทุนด้านซอฟท์แวร์ใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงซอฟท์แวร์เดิมที่ใช้ และพัฒนาซอฟท์แวร์เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายบัตรใหม่ๆ โดยปีนี้จะเห็นความชัดเจนของช่องทางขายบัตรผ่านมือถือที่ดียิ่งขึ้น ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงพาร์ทเนอร์ของช่องทางจำหน่ายบัตรอื่นๆ อาทิ ไปรษณีย์ไทย เป็นต้น อีกทั้งยังมีการขายลิขสิทธิ์ซอฟท์แวร์เหล่านี้ในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย อีกส่วนหนึ่งด้ว
|
|
|
|
|