|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง 3.38 หมื่นล้านบาท ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.ให้เหตุผลเงินทุนไหลออกเกิดจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกมากกว่าปัจจัยการเมือง ขณะที่เงินทุนใหม่เข้ามาลงทุนน้อยจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่ดี
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาหรือระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง (สงกรานต์) เมื่อวันที่ 8-15 เม.ย.ตัวเลขฐานะเงินทุนสำรองทางการระหว่างประเทศของธปท.ได้ปรับตัวลดลง 953.39 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 33,845.35 ล้านบาท (ค่าเงินบาท ณ สิ้นงวด 35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) จากล่าสุดเมื่อวันที่ 17เม.ย.มีการประกาศตัวเลขเงินทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งสิ้น 115,713.67 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเป็นสัปดาห์ก่อนหน้าที่จะเกิดสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองอยู่ที่ 116,667.06 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เป็นผลจากความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากปัจจัยการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเงินทุนสำรองฯ พบว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าเพียง 0.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือลดลง 0.28% โดยค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 35.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับวันที่ 3 เม.ย.ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ นางดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวว่า แนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนในช่วงต่อไปว่า ถึงแม้ว่าในเรื่องความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในประเทศบ้าง แต่การเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างประเทศออกไปนั้นเกิดขึ้นจากผลของวิกฤตเศรษฐกิจในต่างประเทศ ซึ่งนักลงทุนจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำแทน
ขณะเดียวกันประเทศไทยไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ไทยน่าจะได้รับผลจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกไปไม่มาก ประกอบกับเมื่อเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดีนัก การนำเงินมาลงทุนใหม่ในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ดังนั้น แนวโน้มในช่วงต่อไป การไหลเข้าและออกของเงินต่างประเทศคงไม่ผันผวนมาก
แต่หากมองแนวโน้มจากการเม็ดเงินการส่งออกสุทธิ จะพบว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่ามูลค่าการส่งออกของไทยจะปรับลดลงมาก แต่การนำเข้าของไทยลดลงมากกว่า ทำให้ดุลการค้าของไทยยังคงเป็นบวก และมีเงินไหลเข้าจากส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง โดย ธปท.คาดว่าทั้งปี 2552 ดุลการค้าของไทยจะเกินดุล ระหว่าง 10,500-13,5000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เช่นเดียวกับนางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธปท.กล่าวว่า สายนโยบายสถาบันการเงินกำลังอยู่ระหว่างจับตาสินเชื่อที่อยู่อาศัย หลังจากที่ล่าสุดในไตรมาสแรกของปีนี้สินเชื่อประเภทนี้มีสัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)อยู่ที่ระดับ 4% จากไตรมาสก่อน 3.6% นับเป็นครั้งแรกที่สินเชื่อบ้านเมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นโดยเริ่มเห็นสัญญาณว่าชาวต่างชาติที่ซื้อคอนโดในไทยเริ่มมีการทิ้งสัญญามากขึ้น
|
|
|
|
|