Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 เมษายน 2552
“เบบี้มายด์”หวั่นคู่แข่งตัดราคา-เลียนแบบสินค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท โอสถสภา จำกัด

   
search resources

โอสถสภา, บจก.
Baby Products




เบบี้มายด์หวั่นตลาดรวมสินค้าแม่และเด็กแข่งดุ คาดเทรนด์ลอกเลียนสินค้าและตัดราคามาแรง ทุ่มงบตลาด 20 ล. อัดเกมตลาดเต็มที่ ขยายกลุ่มผู้ใหญ่ หวังกระตุ้นตลาดรวมให้โต 20-30% จากปรกติโตแค่ 7%

นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อแม่และเด็กแบรนด์ “เบบี้มายด์” เปิดเผยว่า ตลาดรวมผลิตภัณฑ์แม่และเด็กใน 3 กลุ่มใหญ่คือ น้ำยาซักผ้าเด็ก น้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กและน้ำยาล้าล้งขวดนมปีนี้จะคาดว่ามีอัตราการเติบโบโตตเพียง 7% เท่านั้น อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี และการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ปีนี้มีแนวโน้มว่า ผู้ประกอบการจะหันมาลอกเลียนแบบสินค้าของคู่แข่งที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งการแข่งขันด้านการตัดราคา ซื้อ 1 แถม 1 ชิ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นมากนักในตลาดสินค้าแม่และเด็กนี้ โดยเฉพาะเรื่องการลอกเลียนแบบสินค้า

ขณะที่ตลาดรวมเองก็เติบโตน้อย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายใหญ่อย่าง เบบี้มายด์ ต้องเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นตลาด โดยหวังที่จะให้ตลาดรวมเติบโตมากกว่า 20-30% ในทุกกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันเบบี้มายด์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งที่มากกว่า 50% ในทุกกลุ่ม ซึ่งอันดับสองนั้นถูกทิ้งห่างเพราะมีแชร์แค่ 10-20% เท่านั้นเอง

โดยตลาดรวม น้ำยยาซักผ้าเด็กปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 338 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมน้ำยาปรับผ้านุ่มเด็กในปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 124 ล้านบาท และตลาดรวมน้ำยา ล้างขวดนมอยู่ที่ 171 ล้านบาท

สำหรับแผนตลาดของเบบี้มายด์ปีนี้ นายวิเชียรกล่าวว่า จะขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หลังจากที่เริ่มทดลองมาเม่อปีที่แล้วและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการขยายตลาดรวมให้เพิ่มขึ้นด้วย โดยตั้งงบการตลาดปีนี้ไว้ที่ 20 ล้านบาท ดำเนินกิจกรรมตลาดเต็มที่ ทั้งเปิดตัวสินค้าใหม่ การจัดโรดโชว์ และการจัดอีเวนต์ เป็นต้น รวมทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ยกเว้นสื่อทีวี เพราะเป็นเจ้าตลาดอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้

ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าใหม่ทุกกลุ่มเพื่อขยายตลาดกลุ่มผู้ใหญ่ตามแผนงานคือ 1.กลุ่มน้ำยาซักผ้าา เปิดตัววสูตร แฟมิลี่ทัช ที่สามารถใช้ซักเสื้อผ้าผู้ใหญ่ได้ 2.กลุ่มน้ำยาปรับผ้ายนุ่ม เปิดตัว 2 สูตร ใหม่คือ พิงค์ฟลอเร่และเทนเดอร์ซอฟท์ จากเดิมมีกลิ่นเดียวสำหรับเด็ก 3.กลุ่มล้างขวดนม สามารถนำไปขยายสู่การล้างผักผลไม้ได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us