Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 เมษายน 2552
รสก.ฟุบยาววิกฤตรายได้ครม.ขันน็อตปตท.-บินไทย             
 


   
search resources

Commercial and business




รัฐวิสาหกิจยังร่อแร่ สถานการณ์ล่าสุดนำส่งรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นล้าน กนร.บี้นำเงินสดส่งคลังพร้อมปรับปรุงผลประกอบการด่วน เผยยอดนำส่งปี 51 มีรายได้รวมแค่ 3.55 ล้านล้าน เพิ่มจากปีก่อน 16.2% ส่งผลกำไรหด 40% ระบุ ปตท.รายได้เพิ่ม 30% แต่กำไรสุทธิลด 47% ขณะที่ 19 แห่งยังสุญญากาศขาดผู้บริหารสูงสุด ชง ครม.วันนี้ กำชับให้ รมต.ที่รับผิดชอบไปดูแล ส่วนแผนฟื้นฟูการบินไทยเสนอเข้า ครม.เศรษฐกิจพุธนี้

รายงานข่าวจากคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แจ้งว่า คณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ครั้งที่ 2 โดยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับแผนการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ปี 2552 หลังจากกำหนดเป้าหมายจำนวน 93,000 ล้านบาท แต่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย คาดว่า รัฐวิสาหกิจจะสามารถนำส่งรายได้เพียง 85,000 ล้านบาท ปรากฏว่าที่ประชุมรับทราบล่าสุด ณ เดือน มี.ค. 52 หรือ 6 เดือนนับจาก ต.ค. 51 รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้ารัฐบาลเพียง 29,969 ล้านบาท แยกเป็นการจัดสรรกำไรประจำปี 21,740 ล้านบาท เงินปันผล 5,309 ล้านบาท เงินปันผลหลักทรัพย์ 2,920 ล้านบาท

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2551 รัฐวิสาหกิจทั้ง 58 แห่ง มีรายได้รวม 3.55 ล้านล้านบาท สูงกว่าปี 50 กว่า 4.94 แสนล้านบาท หรือสูงกว่า 16.2% ขณะที่มีกำไรรวม 1.22 แสนล้านบาท ต่ำกว่าปี 50 มากถึง 81,857 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 40.1% โดยเฉพาะกลุ่มไฟฟ้าที่พบว่ามีรายได้เพิ่มขึ้น 3% แต่มีกำไรลดลง 12% เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานเพิ่มขึ้นถึง 14% และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 4,851 ล้านบาท

ด้าน บมจ.ปตท.มีรายได้เพิ่มขึ้น 30% มีกำไรสุทธิลดลง 47% เพราะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นมากและขาดทุนจากสินค้าคงคลัง ส่วน บมจ.การบินไทย มีรายได้เพิ่มขึ้น 10% แต่ขาดทุนสุทธิ 21,379 ล้านบาท จากเดิมที่กำไร 4,368 ล้านบาท และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 4,471 ล้านบาท โดยการนำส่งรายได้เข้าคลังของการบินไทยในปี 2551 มีจำนวน 101,430 ล้านบาท

นายกอร์ปศักดิ์ระบุว่า รัฐบาลจึงต้องกำชับไปยังผู้บริหารรัฐวิสาหกิจทุกแห่งบริหารแผนงาน เพื่อให้สามารถนำส่งรายได้เป็นไปตามเป้าหมายโดยเฉพาะเมื่อแต่ละแห่งสามารถมีแผนฟื้นฟู เช่น บมจ.การบินไทย ซึ่งผู้บริหารเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟู คาดว่าปี 2552 จะกลับมามีกำไร

ทั้งนี้ จะมีการเสนอแผนฟื้นฟูการบินไทยให้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจพิจารณาในวันพุธที่ 29 เม.ย.นี้ โดยให้ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น 10,000 ล้านบาท เพื่อให้กลับมามีกำไร 7,000-8,000 ล้านบาท

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนร. เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจที่ยังมีเงินสดส่วนที่เกินกว่าจำเป็นในการดำเนินงาน ให้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดินเพิ่มเติม รวมทั้งให้ปรับปรุงผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจให้เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่าน มาและนำเงินส่งรัฐให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อลดผลกระทบที่อาจมีต่อสถานะการเงินการคลังของประเทศ และเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เร็วขึ้นและจัดทำโครงการลงทุนเพิ่มเติมระหว่างปี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เบื้องต้นคาดว่ารัฐวิสาหกิจจะนำส่งรายได้เข้ารัฐ 85,000-83,000 ล้านบาท แต่จะพยายามดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมายที่ 93,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศหรือไอซีที ร่วมกับกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสะสางปัญหาของ บมจ.ทีโอทีและ บมจ.กสท โทรคมนาคม ที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน ทั้งข้อพิพาทกับเอกชน, การดำเนินงานภายใต้กฎหมายร่วมทุน, การลงทุนในระบบ 3 จี ,ความชัดเจนในโครงการซีดีเอ็มเอ, การลงทุนที่ซ้ำซ้อน,การเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้องค์กรอยู่รอดในระยะยาว การจัดทำข้อเสนอที่ชัดเจนเพื่อให้รัฐบาลกำหนดนโยบายต่อไป เพราะล่าสุดในปี 51 บมจ.ทีโอที มีกำไรสุทธิ 5,602 ล้านบาท แต่เมื่อหักค่าสัมปทานแล้วขาดทุนสูงถึง 15,336 ล้านบาท ส่วน บมจ.กสท โทรคมนาคม มีกำไรสุทธิ 7,265 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรหลังหักสัมปทาน เพียง 114 ล้านบาท

นายอารีพงศ์กล่าวด้วยว่า กนร.ได้รับทราบรายงานสถานการณ์สรรหาผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจพบว่ายังมีอีก 19 แห่ง ใน 58 แห่ง ที่ยังไม่มีผู้บริหารระดับสูง โดยวันนี้ (28 เม.ย.) กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อฝากให้รัฐมนตรีซึ่งกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจไปกำชับผู้บริหารให้เร่งรัดการคัดเลือกผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้มีผู้ตัดสินใจด้านนโยบาย และวางแผนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายอารีพงศ์ยอมรับว่าขั้นตอนการคัดเลือกผู้บริหารมีการเปิดเผยบุคคลระหว่างการคัดเลือกและบางขั้นตอนอาจไม่จูงใจให้มีผู้เข้ามาสมัคร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้วย จึงมีผลต่อผู้บริหารสูงสุด เช่น การบินไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us