Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2531
ถนนที่ยังไปไม่ถึงดวงดาวของ "ถนอม อังคณะวัฒนา"             
 


   
search resources

ถนอม อังคณะวัฒนา
Real Estate




"หาตัวยากชะมัด"

"เอ้า หายไปไหนอีกแล้ว"

"เมื่อกี้ยังส่งเสียงโหวกเหวกอยู่เลย"

บทสนทนาสั้น ๆ อย่างนี้ได้ยินกันบ่อย ๆ ในงานเลี้ยงของคนในแวดวงก่อสร้าง-ที่ดิน ซึ่งคนที่ถูกกล่าวถึงนี้หากจะพบตัวก็ต้องตั้งใจสังเกตกันให้ดี เนื่องจากไม่เพียงแต่รูปร่างที่ไม่สูงนักจะเป็นอุปสรรคแล้ว ความคล่องแคล่วปราดเปรียวเข้าทำนองเปลี่ยนทำเลได้ทุกวินาทีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การพบกับเขาเป็นไปอย่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

แต่นั่นก็เป็น "คุณสมบัติ" ที่มีความสำคัญยิ่งยวดต่อการผลักดันให้ "ถนอม อังคณะวัฒนา คนตัวเล็กเสียงดังได้ไต่เพดานธุรกิจขึ้นสู่ความเป็น "หนึ่ง" ในวงการที่ดินได้อย่างไม่อายใคร เพียงระยะเวลาขวบปีกว่า ๆ กับวัยเพียง 35 ปี มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะลงทุนทำโครงการอาคารชุดมูลค่าหลายร้อยล้านบาทให้สำเร็จในระยะเวลาไล่เลี่ยกันได้ถึง 2 โครงการ

และเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากยิ่งไปกว่านั้นก็ตรงที่ โครงการหลังยังไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างเพียงแค่ลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ไม่กี่ครั้ง ก็ปรากฏว่ามียอดคนสั่งจองไม่น้อยกว่า 90% และในส่วนของโครงการแรกก็มีผู้ที่จองไว้เต็มโครงการ กระทั่งเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ๆ

ความสำเร็จอย่างนี้เหมือนกับ "ฟลุ้ค" อย่างงั้นแหละ!!!

"ผมไม่เถียงว่าความจริงมันเป็นอย่างนั้น เพราะเล่นและค้าที่ดินนี่ว่าไปแล้วมันขึ้นอยู่กับดวงและโชคชะตา จะหนุนส่งที่บางแห่งเราคิดว่ามันไม่ได้ก็ได้ขึ้นมาและทำเงินให้อย่างที่ไม่น่าเชื่อ" ถนอมยอมรับความสำเร็จที่ผูกพันมากับดวงอย่างไม่ปฏิเสธกับ "ผู้จัดการ"

ของพรรค์นี้มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะกลายเป็นอาวุธสำคัญทางการตลาดที่ช่วยสร้างภาพพจน์ให้กับสินค้าไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว นี่แหละหนาที่เขาบอกว่า "คนเราดวงมันจะรวยและดังเสียอย่าง อะไรก็มายั้งหยุดไม่ได้"

ถนอม อังคณะวัฒนา บอกว่าเขาตัดสินใจเลือกทางเดินสายนี้ถูกต้องแล้วกับชีวิต!!!

ใครบ้างจะรู้ว่าก่อนหน้าที่ถนอมจะหันเหชีวิตเข้าสู่วงการที่ดินนั้น เขาได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมงานกับบริษัทน้ำมันใหญ่แห่งหนึ่งในอัตราเงินเดือนสูงน่าพอใจ ทว่าเมื่อนำข้อเสนอนั้นไปปรึกษากับทางบ้านกลับได้รับคำตอบกลับมาว่า "แกเป็นลูกจ้างตายแล้วเกิดอีกสิบปีก็สู้เสี่ยงดวงมาเป็นเถ้าแก่เองไม่ดีกว่าหรือ"

แต่ถนอมอาจจะโชคดีอยู่มากตรงที่ว่า การเสี่ยงดวงของเขานั้นไม่น่ากลัวเกินไปนัก เนื่องจากฐานะทางบ้านจัดอยู่ในขั้นเศรษฐีเมืองจันทบุรีคนหนึ่ง เขาเริ่มสะสมประสบการณ์การเล่นที่ดินด้วยการเข้ามาทำงานกับบริษัทสตรามิตบอร์ด ซึ่งมีชื่อเสียง (ปัจจุบัน คือ บริษัทสตาร์บล็อค) อยู่ที่นี่ได้ 3 ปีก็ปะเหมาะเจอะเจอเข้ากับ วิศิษฐ์ ลีละศิธรแห่งกลุ่มเฮียบตั๊ก ซึ่งกำลังจะเบนเข็มจากวงการอาหารสัตว์เข้าสู่วงการก่อสร้าง-ที่ดิน

เฮียบตั๊กนั้นได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มทุนระดับชาติกลุ่มหนึ่ง ตัวเถ้าแก้เช่น "วิศิษฐ์ ลีละศิธร" นั้นเป็นชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาตั้งรกรากทำมาหากินในหาดใหญ่จนร่ำรวยแล้วขยายธุรกิจเข้าสู่เมืองหลวง

สำหรับถนอม อังคณะวัฒนา ฉลามเปรียวจากจันทบุรี เมื่อปี 2526 ก็กำลังเริ่มเนื้อหอม การร่วมมือกันของคนทั้งคู่จึงเสมือนกับเป็นการรุกครั้งสำคัญของ "ผู้ยิ่งใหญ่แห่งภูธร" โดยแท้เทียว…

เดิมทีเดียวทางกลุ่มเฮียบตั๊กนั้นไม่ต้องการจะสร้างอาคารใหญ่โตหรูหราอย่าง "วอลล์สตรีททาวเวอร์" สิ่งที่กลุ่มนี้เพียงต้องการ OFFICE BUILDING ชั้น 1 แต่เมื่อถนอมเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ของตลาด และวางระบบบัญชีอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วจึงเกิดการเปลี่ยนใจหันมาทุ่มทุนสร้างตึกหรูระยับกลางใจเมือง

วอลล์สตรีท ทาวเวอร์กับภาวะเสี่ยงยามเกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2527 เลยกลายเป็นกรณีศึกษาที่หลายคนให้ความสนใจอย่างมากว่า โครงการนี้สามารถผ่านมรสุมร้ายมาได้อย่างไรและแทบจะพูดได้ว่าเป็นอาคารเดียวที่มียอดขายเต็ม 100% จริง ๆ

"ผมว่ามันเป็นเรื่องของความมีใจสู้ของกลุ่มนักลงทุนที่ไม่หวั่นไหวกับสถานการณ์ร้าย ๆ ขณะนั้น และอีกอย่างคงเป็นเพราะดวงดีกระมัง เพราะทำเลของวอลล์สตรีทฯ ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดีมาก กอปรกับเราพยายามสร้างภาพพจน์ของอาคารนี้ทุกรูปแบบให้ดูเป็นอาคารอัครฐานการขายเลยประสบผลสำเร็จ" ถนอมกล่าวกับ "ผู้จัดการ"

ความสำเร็จของวอลล์สตรีททาวเวอร์ ทำให้ชื่อเสียงของถนอม อังคะวัฒนา เป็นที่กล่าวขวัญกันหนาหู!!!

การสั่งสมประสบการณ์และสร้างเครดิตเท่าที่ผ่านมาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ถนอมกล้าเสี่ยงเป็น "เถ้าแก่" ด้วยการตั้งบริษัทโมเดอร์น โฮม รับสร้างบ้าน และไล่เลี่ยกับการร่วมมือกับคนที่มีชื่อเสียงอย่าง ผศ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ และพรรคพวก เนรมิตโครงการอาคารชุด ซิลเวอร์บีช คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ริมหาดพัทยา

บางคนบอกว่าถนอมเป็นนักการตลาดโดยวิญญาณการเปิดตัวของซิลเวอร์บีช คอนโดมิเนียม จึงออกจะฟอร์มโตยิ่งกว่าทุก ๆ โครงการ แต่ผลที่ "ซิลเวอร์บีชฯ" ได้รับกลับมาก็คุ้มค่าปาน ๆ กันเพราะสามารถขายได้เกือบครบตามเป้า

ถนอมและพรรคพวกเริ่มซื้อที่ดินชายหาดพัทยา เพื่อเตรียมเนรมิตโครงการอื่นเพิ่มเติมกระทั่งในที่สุดก็ได้ที่ดินตรงจุดที่กำลังจะสร้างให้เป็น "ปาร์คบีช คอนโดมิเนียม" อาคารชุดใหญ่ที่สุดของชายหาดพัทยาในปัจจุบันซึ่งที่ดินบริเวณนี้ถนอมบอกว่าไม่นึกฝันว่าจะได้มา

นอกจาก 2 โครงการใหญ่ ๆ นี้แล้ว งานรับสร้างบ้านของบริษัทโมเดอร์นโฮมก็รุดไปข้างหน้าได้อย่างสวยสด ถึงกับสร้างความมั่นใจให้กับถนอมมากทีเดียวว่า "หากผมจะทำโครงการไหนแล้วทำให้มันดี ๆ ไม่ได้ ผมสู้ไม่ทำเลยเสียดีกว่า เพราะทุกวันนี้ผมหยุดสร้างโครงการไปได้อีก 10 ปีก็อยู่กินได้อย่างสบาย ๆ

และเพราะทางที่ได้แผ้วถางเป็นอย่างดี จึงทำให้ถนอมบอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะเบี่ยงเบนตัวเองจากการก่อสร้างอาคารชุดมาทำหมู่บ้านจัดสรรดูบ้าง ขณะเดียวกันเป้าหมายสูงสุดของเขาก็อยากทำให้เป็นจริงในปีหน้าก็คือ การได้สร้างโครงการอาคารชุดขนาดยักษ์ขึ้นใน กทม. ซึ่งนั่นเป็นความหวังสูงสุดยอดที่คนอย่างเขาต้องการ

ความฝันของเขาใกล้จะเป็นความจริงทุกขณะ จังหวะก้าวในปี 2532 ของเขามีความหมายมาก เขาอาจจะก้าวจาก HIGH LIGHT ลงสู่ภาคพื้นดินเสียที "โครงการใหม่มีแน่ บอกได้ว่าไม่ใช่ซื้อโรงแรมอย่างที่ผมฝันก็แล้วกัน"

เอาเป็นว่าปี 2532 นี้ลองมาดูกันอีกสักครั้งว่าจะเป็น "ปีทอง" ของถนอมและพรรคพวกอีกหรือไม่??

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us