|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ในอดีตคนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อบ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม แต่หลังจากวิถีชีวิตเปลี่ยนไป คนวัยทำงานเริ่มแต่งงานน้อยโดยเฉพาะคนโสดเลือกอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมมากกว่า
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมผู้ซื้อคอนโดมิเนียมและผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมภายในเวลา 1 ปี โดยเลือกสำรวจคอนโดมิเนียมในรัศมี 2 กิโลเมตรจากแนวรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่า ส่วนใหญ่เป็นตลาดคนโสดที่มีรายได้ 2-4 หมื่นบาท
ศูนย์ข้อมูลฯ ได้ว่าจ้างบริษัท มาร์เก็ตติ้งมูฟ จำกัด สำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 420 คนในช่วงปลายปี 2551 แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มที่ได้ซื้อคอนโดมิเนียมแล้ว 205 ราย และกลุ่มที่สนใจจะซื้อคอนโดมิเนียมภายใน 1 ปี จำนวน 215 ราย
กลุ่มที่ได้ซื้อคอนโดมิเนียมแล้วในช่วงเวลาไม่เกิน 1 ปีที่ผ่านมา เป็นกลุ่มที่ซื้อคอนโดมิเนียมในราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท และซื้อในช่วงเวลาไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่สำรวจจากแบบสอบ ถามผู้ซื้อจำนวน 205 ราย พบว่าเป็นคนโสดร้อยละ 54 มีช่วง อายุ 25-34 ปี ทำงานบริษัทเอกชนร้อยละ 41 รายได้ส่วนตัวเฉลี่ย 2-4 หมื่นบาท จำนวนร้อยละ 61
คนโสดเหล่านี้จะซื้อคอนโดมิเนียมในราคา 1.6-2 ล้านบาท และซื้อห้องขนาด 30.5-40 ตารางเมตร มีพื้นที่ใช้สอย 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยศึกษาข้อมูลจากแผ่นพับประชาสัมพันธ์
ส่วนกลุ่มที่สนใจจะซื้อคอนโดมิเนียมภายใน 1 ปี จำนวน 215 ราย เป็นกลุ่มคนโสดที่มีช่วงอายุระหว่าง 25-34 ปี และมีรายได้เท่ากับกลุ่มที่ได้ซื้อคอนโดมิเนียมไปแล้ววิถีชีวิตของกลุ่มคนโสดเปลี่ยนไปโดยเลือกพักอาศัยอยู่ใกล้สำนักงานหรือใกล้รถไฟฟ้าใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศรัณยพงศ์ เที่ยงธรรม ผู้จัดการศูนย์ที่ปรึกษาทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ บอกว่ากลุ่มตัวอย่างของผู้สำรวจส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในห้องเช่าประเภทแฟลตหรืออพาร์ตเมนต์ เป็นกลุ่มที่ยังไม่มีหน่วยงานวิจัยเคยสำรวจมาก่อน
สำหรับภาระค่าใช้จ่ายหลักๆ ของผู้ซื้อคอนโดมิเนียมมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวร้อยละ 50-60 ที่เหลือเป็นภาระเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว ร้อยละ 10 มีเงินฝากประมาณ 5 หมื่นถึง 2 แสนบาทขึ้นไป แต่กลุ่มที่ซื้อคอนโดมิเนียมไปแล้วมีเงินเก็บสูงถึงระดับ 5 แสนบาท เก็บจากเงินฝาก 100% ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประเภทอื่น ได้แก่ RMF/LTF หรือลงทุนในหุ้น พันธบัตร ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าจะสามารถนำไปหักภาษีได้ก็ตาม
นอกเหนือจากเป้าหมายหลักในการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยแต่จากสถานการณ์น้ำมันแพง ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมคึกคักจึงทำให้ผู้ซื้อบางส่วนหวังขายต่อหรือปล่อยให้เช่า เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ดีสำหรับอนาคต
สำหรับวิธีการชำระเงิน ผู้ซื้อจะยืมเงินผู้อื่นเพื่อวางดาวน์ส่วนการโอนยังคงใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน ดังนั้นมาตรการภาครัฐจึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียม เพราะอัตราดอกเบี้ยที่ขึ้น-ลงมีผลต่อการตัดสินใจในการซื้อเป็นอย่างมาก
อย่างเช่นกรณีคำถามของศูนย์ข้อมูลฯ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหากขึ้นร้อยละ 10 กว่า ผลสำรวจพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่าครึ่งหนึ่งตัดสินใจที่จะหยุดซื้อคอนโดมิเนียม
ตลาดคนโสดเป็นตลาดที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คงจะไม่สามารถมองข้ามได้อีกต่อไป เพราะเป็นกลุ่มที่มีเงิน มีการศึกษาและไม่มีภาระเรื่องครอบครัว
|
|
|
|
|