"เอไอเอ"ยันยังไม่ขยับแผนลงทุน รักษาสัดส่วนเดิม เน้นความมั่นคงสูง ขณะที่แผน 5 ปี เตรียมเพิ่มการลงทุนในตลาดอสังหาฯ ส่วนแผนการแปลงสภาพเป็นนิติบุคคลยังไม่คืบรอบริษัทแม่และทางการสหรัฐฯชี้ชะตา

นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูง และผู้บริหารอาวุโส บริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะยังคงสัดส่วนของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศไว้ที่ 76% ส่วนที่เหลือจะเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หุ้นกู้และเงินฝาก โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านบริษัทมีสินทรัพย์ลงทุนอยู่ทั้งสิ้น 38,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปีจะทำการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยจะทำการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 10% จากปัจจุบันมีอยู่ไม่ถึง 1% โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มมีการลงทุนดังกล่าวไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นโยบายการลงทุนของบริษัทนั้นยังคงเน้นการลงทุนในส่วนที่มีความมั่นคงสูง เพื่อความมั่นคงในการบริหารงาน เนื่องจากเกรงว่า หากบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงพอร์ตลงทุนใหม่ไม่ว่าจะเป็นช่วงนี้หรือในอนาคต ก็อาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้

"การลงทุนระยาวที่วางไว้ในแผน 5 ปี บริษัทได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ประมาณ 4,550 ล้านบาท มูลค่าเงินดังกล่าวเตรียมไว้สำหรับการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ การฝึกอบรม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาไปสู่รูปลักษณ์ใหม่ขององค์กร ทั้งนี้ เม็ดเงินดังกล่าวจะถูกแบ่งใช้สำหรับโครงการที่รองรับการบริการลูกค้า อาทิ การเปิดศูนย์บริการผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอ"

นายโทมัสกล่าวอีกว่า ในส่วนแผนของกลุ่มเอไอเอ ในเอเชีย ที่แปลงสภาพเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ โดยมีแผนจะจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเอไอจี บริษัทแม่ในนิวยอร์คและรัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้กำหนด ว่าจะเข้าจดทะเบียนในประเทศใดมูลค่าหุ้นเท่าไหร่

ส่วนของประเทศไทยเองไม่มีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว ส่วนผลประกอบการก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าในขณะนี้เป็นอย่างไร เนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ล่าสุดบริษัทได้เปิดศูนย์บริการผู้ถือกรมธรรม์เอไอเอ (AIA Customer Service Center)แห่งใหม่ที่มีขนาดพื้นที่ถึง 576.4 ตารางเมตรบนชั้น 2 อาคารเอไอเอทาวเวอร์ ถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก ที่มีพนักงาน 29 คนพร้อมให้บริการผ่าน 23 เคาน์เตอร์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและเพิ่มระดับความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งจะสอดคล้องกับกลยุทธหลักในการพัฒนาธุรกิจที่มุ่งเน้นนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า จากในปี 2551 พบว่ามีลูกค้าติดต่อโดยตรงที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เฉลี่ยเดือนละ 8,977 คน เวลาในการเข้ารับบริการเฉลี่ยคนละ 12 นาที

"ตลอด 70 ปีของการดำเนินธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย เอไอเอมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าประกันชีวิตและสุขภาพที่มีมากกว่า 5 ล้านกรมธรรม์ และลูกค้าประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกว่า 1.5 ล้านกรมธรรม์มาโดยตลอด ทั้งนี้เพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อบริษัทเสมอมา ซึ่งความไว้วางใจในระยะยาวของลูกค้า ความน่าเชื่อถือขององค์กร และคุณภาพบริการเป็นสิ่งที่สำคัญในการรักษาลูกค้าเก่าและได้มาซึ่งลูกค้าใหม่"นายโทมัส เจมส์ ไวท์กล่าว

สำหรับการให้บริการของศูนย์บริการผู้ถือกรมธรรม์ จะมีทั้งการสอบถามข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกรมธรรม์ การชำระเบี้ยประกัน การเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ การกู้เงินจากกรมธรรม์ การเบิกเงินปันผล การต่ออายุกรมธรรม์ การเรียกร้องสินไหมทดแทนและสอบถามความคืบหน้าในการเรียกร้องสินไหมทดแทน ไปจนถึงการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์รูปแบบใหม่ และการให้คำปรึกษาในการวางแผนทางการเงิน นอกจากนี้ ภายในศูนย์บริการยังมีมุมเครื่องดื่ม ห้องรับรองลูกค้า มุมข้อมูลกรมธรรม์ และมุมอินเตอร์เน็ตไร้สาย โดยเปิดให้บริการในทุกวันทำการเวลา 8.00-17.00 น.