|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“โตชิบา” ยันยังลงทุนในไทยต่อเนื่อง ไม่ปรับเปลี่ยน พร้อมอัดงบตลาดเพิ่มขึ้น 15% โชว์ยอดขายไตรมาสแรกปีนี้ เติบโตขึ้น 10% เด่นที่สุดของโตชิบาในภูมิภาคนี้
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ประธานโตชิบาประเทศไทยเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยังคงยืนยันถึง การลงทุนของโตชิบาในประเทศไทยว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังไม่มีการลดการลงทุน เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเข้าใจปัญหาและสถานการณ์ในประเทศไทยดีมีขึ้นมีลงอย่างนี้ มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมาก็ทำให้เศรษฐกิจสะดุดบ้าง แต่กำลังซื้อของผู้บริโภคตนไทยยังดีอยู่ สำคัญที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ทั้งนี้ผลประกอบการของโตชิบาประเทศไทย ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2552 พบว่าเติบโตขึ้น 9-10% ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับโตชิบาประเทศอื่นเช่น สิงคโปร์ และเวียดนาม ที่เราแข่งขันกันมาตลอด ส่วนผลประกอบการของโตชิบาในปีงบประมาณ 2551 (เดือนเม.ย. 2551-มี.ค. 2552) เติบโตประมาณ 15% แบ่งเป็นยอดขายที่มาจาก ดีลเลอร์สัดส่วน 55% และจากโมเดิร์นเทรด 45% โดยมียอดขายประมาณ 4,800 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดเติบโต 10%
นอกจากนั้นในปีนี้จะใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 15% หรือประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อเน้นการทำตลาดเต็มที่ ในจังหวะที่ผู้ประกอบการรายอื่นหลายรายต่างลดงบการตลาดลง เราจึงต้องทำตรงนี้มากขึ้น เพราะกำลังซื้อผู้บริโภคยังมีอยู่ โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด โดยจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเดิมที่เน้นการทำกิจกรรมขนาดใหญ่ มาเป็นกิจกรรมหรืออีเวนต์ขนาดเล็กลงและมีคอนเสิร์ตรวมไปด้วยกับการขายสินค้า ซึ่งจะเป็นอีเวนต์แบบเทลเลอร์เมดมากขึ้น รวมทั้งการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ในทุกกลุ่มสินค้า ที่จะต้องเน้นนวัตกรรม
สำหรับภาวะปัญหาการเมืองนั้น นางกอบกาญจน์ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมของม็อบเสื้อแดง การบริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้าของประชาชนดีขึ้น ทั้งกลุ่มเอชเอและเอวี แต่กลุ่มเอวีจำนวนยูนิตเพิ่มขึ้น ขณะที่จำนวนมูลค่าลดลงกว่า 20-30% เพราะการแข่งขันด้านราคาสินค้า แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ตลาดรวมสะดุด ส่วนไตรมาสที่สองคาดว่าตลาดเริ่มจะกลับมาดีขึ้น เราจึงต้องเน้นการทำกิจกรรมมากขึ้น
|
|
|
|
|