ด้วยความที่ประเมินแล้วว่า ลำพังเพียงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในกิจการด้วยแนวคิดแบบหัวเดียวกระเทียมลีบ แม้ว่าจะเป็นกิจการยักษ์ใหญ่อย่างเช่นยูนิลีเวอร์ ก็ไม่น่าจะไปได้รอด

ผู้บริหารของยูนิลีเวอร์ จึงตัดสินใจผนึกกำลังทีมงานของตนเองเข้ากับความสามารถและศักยภาพระดับเซียนของตลาดโลกอย่างสตาร์บัคส์มาช่วยกันคิด ช่วยกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ในสายไอศกรีมของตน

วันนี้ยูนิลีเวอร์กับสตาร์บัคส์ได้จับมือทีมงานของ 2 บริษัทให้เป็นทีมงานร่วมแล้ว โดยรับมอบภารกิจให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมระดับ 'ซูเปอร์พรีเมียม' (Super-premium) โดยเอาเครื่องดื่มรสชาติของสตาร์บัคส์ มาเป็นส่วนประสมใหม่ที่ให้รสชาติแตกต่างจากเดิมให้กับไอศกรีมของยูนิลีเวอร์ อย่างน้อย 4 รสชาติ ส่วนผสมแรกคือ คาราเมล มัคชิอาโต ส่วนผสมที่สองคือ กาแฟและวานิลลาส่วนผสมที่สามคือ จาวา ชิบ ฟราปปูชิโน่ ส่วนผสมที่สี่คือ ช็อกโกแลตดำ

ทีมบริหารของสตาร์บัคส์ดูเหมือนจะประเมินว่า การนำเอาสินค้าเลื่องชื่อของตนไปเป็นส่วนผสมในไอศกรีม เป็นการใช้ศิลปะการผลิตอาหารหวานที่จะสร้างความพอใจของลูกค้าเป้าหมาย ที่มาจากฐานลูกค้าของทั้งยูนิลีเวอร์ และของสตาร์บัคส์

ในมุมของยูนิลีเวอร์นั้น สายผลิตภัณฑ์ไอศกรีมกลายเป็นกลุ่มสินค้าเชิงกลยุทธ์หลักที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของกิจการ เนื่องจากการจำหน่ายไอศกรีมสามารถสร้างยอดขายให้กับยูนิลีเวอร์มากกว่าปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์จากทุกมุมโลก

การที่ยูนิลีเวอร์ตัดสินใจเลือกสตาร์บัคส์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาไอศกรีมเวอร์ชั่นใหม่ประการแรก ความเชื่อถือและความไว้วางใจว่า สตาร์บัคส์ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในฐานะผู้ผลิตกาแฟคุณภาพสูง และมีศักยภาพในการค้นหานวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และเป็นนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จทางการตลาดในระดับสูงอย่างน่าพอใจ

ประการที่สอง ไอศกรีมระดับซูเปอร์พรีเมียม ภายใต้แบรนด์สตาร์บัคส์น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มพอร์ตผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของยูนิลีเวอร์ได้ ตามนโยบายของยูนิลีเวอร์ เป็นการเพิ่มพูนความพอใจให้กับลูกค้าที่จงรักภักดีและซื่อสัตย์กับบรรดาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมของยูนิลีเวอร์อยู่แล้วได้

ประการที่สาม ผลงานการพัฒนาที่เกิดขึ้นคราวนี้ หลังจากสำเร็จแล้ว จะทำการผลิตและส่งเข้าสู่กลไกและกระบวนการทางการตลาดและการจัดจำหน่ายด้วยช่องทางเดียวกับที่สตาร์บัคส์ใช้อยู่กับเครื่องดื่ม ประเภทกาแฟพร้อมดื่ม 'กาโซ่' ซึ่งเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ประการที่สี่ ทั้งยูนิลีเวอร์และสตาร์บัคส์ต่างก็ผ่านประสบการณ์และมีความเข้าใจจนถึงเชี่ยวชาญด้านการทำธุรกิจไอศกรีมมาด้วยกันทั้งนั้น

กรณีของยูนิลีเวอร์ได้ทำการผลิต การตลาดและการจัดจำหน่ายไอศกรีม เบน แอนด์ เจอร์รี่ และกู้ด ฮิวเมอร์ รวมกันถึง 3 แบรนด์ ส่วนสตาร์บัคส์ก็เริ่มทำการผลิตไอศกรีมมาแล้วเหมือนกัน ผ่านการร่วมธุรกิจกับเครเยอร์ ภายใต้แบรนด์ 'แกรนด์ ไอศกรีม' ตั้งแต่ปี 1996

ยิ่งกว่านั้น สตาร์บัคส์ยังมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและยาวนานกว่า 13 ปี กับเนสท์เล่และเครเยอร์ และได้ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ดังกล่าว เมื่อสตาร์บัคส์เปลี่ยนพันธมิตรมาเป็นยูนิลีเวอร์แทน เพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างไอศกรีมที่แปลกใหม่ และสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการไอศกรีมได้ดีกว่าพันธมิตรเดิม