|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ความตกต่ำของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากโดนพิษเศรษฐกิจ และการเมืองซัดกระหน่ำ จนทำให้ธุรกิจซบเซาอย่างหนัก แต่เริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้วในขณะนี้
เนื่องจากในภาวะวิกฤตยังมีปัจจัยบวกเข้ามาช่วยบ้าง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจนแตะระดับ 50-55 เหรียญต่อบาร์เรล ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างหลายรายการลดลงตาม รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง ทำให้ธุรกิจเริ่มโงหัวขึ้น เห็นได้จากผลสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่สรุปผลออกมาว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 1 ปี 2552 ดีขึ้น หากเทียบกับไตรมาส 4 ปีก่อน
สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 1 ปี 2552 พบว่าค่าดัชนีไตรมาสปัจจุบัน (Current Situation Index) มีค่าเท่ากับ 42.2 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 4 ปี2551 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 36.3 ถือเป็นสัญญาณการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 4 ปี 2551 แต่เป็น 4 ไตรมาสติดต่อกันแล้วที่ดัชนีมีค่าต่ำกว่าค่ากลาง
การที่ดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการ (ในการสำรวจเดือนมี.ค.2552) เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยและสถานการณ์การเมืองได้ปรับตัวดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2551 ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 4 ปี 2551 เป็นช่วงที่สถานการณ์การเมืองไทยตกต่ำมากที่สุด และสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มส่งผลกระทบประเทศไทยอย่างรุนแรง การมีรัฐบาลใหม่ที่มีภาพลักษณ์ดีขึ้น ทำให้ความรู้สึกเชื่อมั่นกลับคืนมาได้พอสมควร
เมื่อแยกประเภทผู้ตอบเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่าบริษัทจดทะเบียนมีค่าความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบัน เท่ากับ 50.8 ปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 41.4 ค่าดัชนีเพิ่มสูงขึ้นมากแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นมาก ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในไตรมาสปัจจุบันเท่ากับ 33.5 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 31.2
สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 50.4 ปรับตัวดีขึ้นมากจากไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 40.2 โดยในส่วนของบริษัทจดทะเบียนมีค่าความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 57.7 ปรับตัวสูงขึ้นมากจากการสำรวจในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 42.8 ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 43.1 ปรับตัวสูงขึ้นจากการสำรวจในไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 37.6
การที่ดัชนีความคาดหวังใน 6 เดือนข้างหน้าปรับสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการ (ในการสำรวจเดือนมี.ค. 2552) เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยและสถานการณ์การเมืองในครึ่งปีข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
|
|
|
|
|