|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
“ออสสิริส”ค้านแนวคิดลดน้ำหนักสัญญาโกลด์ ฟิวเจอร์สเหลือเพียง 10 บาท ชี้กระทบอุตสาหกรรมทองคำจริง แนะควรพัฒนาให้เกื้อกูลซึ่งกันและกันมากกว่า จะมองเพียงช่วยเพิ่มปริมาณสัญญาและสภาพคล่อง ส่วนแนวคิดทำเป็น ออปชั่น ยังอีกไกล ล่าสุดโบรกเกอร์ร้านทอง เตรียมเพิ่มธุรกรรมใหม่ รับเป็นดีลเลอร์ทองคำแท่งเพิ่มช่องทางล่อใจนักลงทุน พร้อมกลยุทธ์เด็ดชวนถือทองแท่งก่อนปรับโยกเป็นทองกระดาษ รับกำไรอื้อช่วงราคาขาขึ้น
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.ซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงแนวคิดการใช้ทองคำจริงมาส่งมอบให้ลูกค้าหลังสัญญาซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สที่ถืออยู่นั้นหมดสัญญาว่า เรื่องดังในขณะนี้มองว่ายังไม่มีความจำเป็น อีกทั้งกลไกของโกลด์ ฟิวเจอร์สเป็นเพียงการอิงราคากับทองคำจริงเท่านั้น และมีองค์ประกอบอื่นๆที่แตกต่างกัน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะปรับลดน้ำหนักสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สจากปัจจุบันที่ ใช้น้ำหนักทองคำ 50 บาทต่อ1 สัญญา ให้มาเหลือเพียงน้ำหนัก 10 บาทต่อ 1 สัญญา เพราะเรื่องนี้จะสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นกับบรรดาผู้ค้าทองคำจริงได้ ซึ่งส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจทั้งสองธุรกิจ จึงมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรเร่งรีบดำเนินการตามที่มีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องในช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีการอนุมัติให้ลดนำหนักทองคำเหลือเพียง 10 บาทต่อ 1 สัญญา เรื่องนี้จะส่งผลกระทบไปถึงการทองคำแท่งที่มีน้ำหนัก 1- 5 บาท จะเกิดการผันผวน จนอาจทำให้ความต้องการสินค้าลดลงไปด้วย เพราะนักลงทุนอาจคิดว่าถ้านำเงินมาลงทุนในสัญญาล่วงหน้าจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่ในความเป็นจริงการลงทุนในทองคำแท่งยังมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนในเครื่องมือการเงินประเภทอื่นๆ ดังนั้นจึงมองว่าน้ำหนักสัญญาที่ 50 บาท น่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้ซื้อขายในปัจจุบันนี้
“สัญญาที่ใช้น้ำหนักทองคำเพียง 10 บาทนั้น ส่วนตัวผมยังมองว่ายังไม่พร้อมที่จะให้เกิดขึ้นในช่วงนี้ แน่นอน มันอาจสร้างสภาพคล่อง และสร้างปริมาณสัญญาจำนวนมากให้เกิดขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงในการลงทุนก็ยังมีเช่นกัน ดังนั้นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมันมีเสียมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่ควรเร่งดำเนินการ ความจริงน่าจะให้ทั้งทองคำจริง หรือทองคำล่วงหน้าเติบโตไปอย่างเสมอภาคและเกื้อหนุนระหว่างกันและกันมากกว่าที่จะไปสร้างผลกระทบให้อีกฝ่ายหนึ่ง โดยมองว่าโกลด์ ฟิวเจอร์สน่าจะมาช่วยพัฒนาตลาดทองคำให้ในประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ในช่วง 5-10ปีข้างหน้าจากนี้ ”
ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า สมาคมผู้ค้าทองคำต้องการให้สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาทบทวนการวางเงินลงทุนขั้นต่ำของโกลด์ฟิวเจอร์สจากปัจจุบบันที่ใช้เพียงประมาณ 60,000 กว่าบาทจนถึง 75,000 บาทนั้น นายบุญเลิศ กล่าวว่าเรื่องนี้ตนมีความเข้าใจถึงความเสี่ยงจากราคาทองคำที่อาจเกิดขึ้นได้ และในส่วนของ “ที.ซี.ออสสิริส ฟิวเจอร์ส” ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ดังนั้นเวลาที่บริษัทติดต่อหรือชักชวนให้ลูกค้าเข้ามาลงทุนจะกำชับให้เจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทชี้แจงแก่ลูกค้าให้รับทราบว่า ควรวางเงินต้นมากกว่าขั้นต่ำที่กำหนดไว้ หรืออย่างน้อย 10%ของมูลค่าสัญญา ซึ่งปัจจุบันไม่มีลูกค้าของบริษัทรายใดวางเงินเพียงแค่ระดับขั้นต่ำเลย
ส่วนที่หลายคนคาดหวังให้ บมจตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) (TFEX) ทำการเพิ่มธุรกรรมด้านทองคำเพิ่มเติม เช่นออปชั่นนั้น นายอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ที.ซี.ออสสิริส กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้นมีความเป็นไปได้ แต่ยังมองว่ายังเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะนำมาพูดถึงในเวลานี้ เพราะสิ่งสำคัญที่ทุกฝ่ายควรร่วมกันในปัจจุบัน คือการผลักดันให้โกลด์ ฟิวเจอร์สได้รับความน่าสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น หรือทำให้กลายเป็นช่องทางลงทุนรองที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้มากกว่าปัจจุบัน เพื่อผลักดันในธุรกรรมนี้มีการเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยว่า หลังจากที่TFEX ได้เปิดให้มีการซื้อขายโกลด์ ฟิวเจอร์ส มาได้ 2 เดือนแล้ว ขณะนี้ได้มีหลายโบรกเกอร์เริ่มมองหาช่องทางเพิ่มในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ด้วยการวางแผนเพิ่มธุรกิจการเป็นดีลเลอร์ทองคำแท่ง เป็นธุรกิจเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง
“ขณะนี้มีหลายบริษัทกำลังศึกษาข้อมูล และจัดหาระบบข้อมูลต่างๆมาเตรียมการรองรับธุรกิจใหม่นี้ ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้ประกอบการร้านทอง แต่ก็มีบริษัทหลักทรัพย์ที่สนใจดำเนินธุรกิจประเภทนี้ด้วย แต่จากปัจจัยสถานการณ์การเมือง และสภาพวะวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้การเปิดให้บริการธุรกิจประเภทนี้คงสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นไตรมาส3”
ส่วนสาเหตุ ที่ทำให้บรรดาโบกรเกอร์โกลด์ ฟิวเจอร์สเริ่มหันมาสนใจการทำธุรกิจดีลเลอร์ทองคำแท่ง เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่าธุรกิจนี้ในประเทศไทย แม้มีนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การให้บริการและผู้ให้บริการประเภทนี้โดยตรงยังมีอยู่น้อยราย เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวจะต้องให้ความสำคัญถึงการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งในด้านการส่งมอบทองคำ และการส่งข้อมูลข่าวหรือความเคลื่อนไหวของราคาทองคำแท่งให้ลูกค้าได้รับทราบ และไม่พลาดโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อธุรกรรมการเป็นดีลเลอร์ทองคำแท่งสามารถเปิดให้บริการได้เป็นที่เรียบร้อย อาจมีการชักชวนลูกค้าที่ลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สเข้ามาทำกำไรในจุดนี้ โดยการชักชวนให้ลูกค้าเข้ามาลงทุนในรูปแบบทองคำแท่ง และเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นก็ให้เปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่เป็นโกลด์ ฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นตลาดสินค้าล่วงหน้าแทน ดังนั้นราคาของสินค้าก็จะปรับตัวสูงขึ้นปีอีกขั้นหนึ่ง แล้วจึงให้ลูกค้าทำการปิดสัญญาเพื่อรับต้นทุนและผลตอบแทนกลับคืนไปในระดับที่สูงกว่า
|
|
 |
|
|