Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2530
การเปิดตัวครั้งแรกของ ยัสปาลแอนด์ซันส์ 37 ปีแห่งความสำเร็จ             
 


   
search resources

ยัสปาลแอนด์ซันส์
ยัสปาล ซิงห์
Garment, Textile and Fashion




วันที่ 7 กรกฎาคม 2530 ยัสปาลแอนด์ซันส์ นับอายุของตัวเองได้ครบ 37 ปีบริบูรณ์ นับตั้งแต่ริเริ่มก้าวย่างเข้าสู่ถนนสายธุรกิจสายนี้ อายุเกือบ 4 ทศวรรษของยัสปาลแอนด์วันส์บนถนนสายนี้ค่อนข้างที่จะยาวนาน มีความสำเร็จซ่อนอยู่เบื้องหลังให้กับผู้ริเริ่มและเป็นเจ้าของได้ภาคภูมิใจ

บริษัท ยัสปาลแอนด์ซันส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจอย่างเงียบ ๆ ลึก ๆ รู้กันภายในวงการอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องนอน ห้องน้ำ กับเสื้อผ้าสำเร็จรูประดับสูงว่ายัสปาลแอนด์ซันส์คือยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมประเภทนี้

ยัสปาลแอนด์ซันส์ นอกจากจะเป็นเจ้าของแบรนด์ "ยัสปาล" ในเสื้อผ้าสำเร็จรูปในวงการแฟชั่นระดับสูงแล้ว ยังเป็นเจ้าของแบรด์ "แซนตาส" บนเครื่องนอนและผ้าขนหนูอีกด้วย

ก่อนหน้าที่จะถึงครบรอบวันเกิดของตัวเอง ยัสปาลแอนด์ซันส์ เพิ่งจะทุ่มทุน 20 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตของตัวเองและย้ายโรงงานซอยนานาไปอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 64 หยก ๆ การขยายกำลังการผลิตของตัวเองในครั้งนี้ เป็นการสั่งซื้อเครื่องจักรเย็บผ้านวมจากอิตาลี มาติดตั้งเพิ่มอีก 3 เครื่องจากเดิมที่มีอยู่ 1 เครื่อง ทำให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว

"วันนี้นอกจากจะเป็นวันที่เลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดแล้ว ยังเป็นการฉลองการขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของเราอีกด้วย" ยัสปาล ซิงห์ ประธานกรรมการบริษัท ยัสปาลแอนด์ซันส์ จำกัดกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ในคืนงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 37 ปีของยัสปาลแอนด์ซันส์ ณ ห้องแกรด์บอลรูม โรงแรมแชงกรีล่า เมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎาคม 2530 ที่ผ่านมา

แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนกว่า 1,000 คนหลั่งไหลเข้ามาในห้องแกรด์บอลรูมในคืนวันนั้นจนทำให้ห้องแกรนด์บอลรูมที่ว่าใหญ่โตของโรงแรมแชงกรีล่าคับแคบลงไปถนัด

บุคคลที่เด่นที่สุดในงานวันนั้นย่อมเป็นประธานของงานแต่ที่น่าแปลกใจก็คือประธานในงานคืนนั้นกลับไม่ใช่ ยัสปาลซิงห์ ประธานบริษัทยัสปาลแอนด์ซันส์ในปัจจุบันแต่กลับเป็นสัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ ประธานกลุ่มเซ็นทรัลที่ใคร ๆ ต่างรู้จักกันดี

"สาเหตุที่เราเชิญคุณสัมฤทธิ์มาเป็นประธานในงานคืนนี้ก็เนื่องจากว่า คุณสัมฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย เราเองก็ค้าขายกับเซ็นทรัลมานานประมาณ 20 ปีมาแล้ว เราจึงสนิทสนมกับเซ็นทรัลมาก แลโดยส่วนตัวของผมแล้วผมก็สนิทสนมกับคุณสัมฤทธิ์มาตั้งแต่เด็ก เราเรียนหนังสือที่อัสสัมชัญ บางรัก มาด้วยกัน" ยัสปาล ซิงห์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

งานในคืนวันนั้น เริ้มต้นด้วยการเลี้ยงแบบคอกเทล ภายในบริเวณงานมีห้องอีกห้องหนึ่งซึ่งถูกจัดไว้สำหรับโชว์ผลิตภัณฑ์ของบริษัทยัสปาล แอนด์ ซันส์โดยเฉพาะ ผู้มาในงานสามารถเดินเข้าดินออกเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์เหล่านั้นได้ตลอดเวลา

ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมายภายในงานเลี้ยงที่ค่อนข้างจะใหญ่โตนี้ "ผู้จัดการ" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ ยัสปาล ซิงห์ ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างเดินจิ้มอาหารรับประทานกันไปเรื่อย ๆ แต่นับเวลาก็เกือบหนึ่งชั่วโมงเหมือนกัน

ยัสปาล ซิงห์ แขกโพกผ้าขาววัย 58 ปีผู้นี้ ไม่ใช่คนอินเดียที่เข้ามาค้าผ้าในเมืองไทยอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน ยัสปาล ซิงห์เกิดในประเทศไทยนี้เอง ชีวิตในวัยเด็กของเขาเริ่มต้นที่พาหุรัด

"พ่อของผมอพยพเข้ามาในเมืองไทย ตั้งแต่สมัยที่ผมยังไม่เกิด ท่านมีอาชีพค้าผ้าขนหนูอยู่ที่พาหุรัดนั่นแหละ เมื่อท่านเสียผมจึงรับกิจการค้าผ้าขนหนูนี้มาดำเนินงานต่อ เริ่มต้นชีวิตของผมจึงเป็นพ่อค้าผ้าขนหนูอยู่ที่พาหุรัด" ยัสปาล ซิงห์ เล่าความหลักกับ "ผู้จัดการ"

ในช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ยัสปาล ซิงห์ กับพี่ ๆ น้อง ๆ ต่างก็ค้าผ้าเร่อยู่ที่พาหุรัดเมื่อธุรกิจเร่มิดีขึ้นเป็นลำกับ พวกเขาก็เริ่มสั่งผ้าขนหนูที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทย

ในปี 2495 บริษัทของพวกเขาที่ตั้งชื่อกันว่า บริษัท คายานซิงห์ อาวดาร์ ซิงห์ยัสปาลสโตร์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงบทบาททางการค้าและการประกอบการของตัวเอง เมื่อ อาวตาร์ ซิงห์ ประกาศตัวเองในการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท แคนนอนมิลส์ จำกัด แต่ผู้เดียวในประเทศไทย โดยได้รับอนุญาตจากบริษัทแคนนอนมิลส์ จำกัดของอเมริกาแล้ว

จากการที่ต่างคนต่างขายโดยให้บริษัทที่บิดาก่อตั้งไว้คือบริษัท คายาน ซิงห์ อาวตาร์ ซิงห์ ยัสปาลสโตร์ เป็นผู้สั่งผ้าขนหนูเข้ามาให้ต่างคนต่างขาย อาวตาร์ ซิงห์ พี่ชายคนโตก็อ้างสิทธิ์ ในการจำหน่ายผ้าขนหนูและผ้าปูที่นอนยี่ห้อแคนนอนไป และตั้งบริษัทใหม่ของตัวเองชื่ เจพีอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นตัวแทนจำหน่าย เช่นนี้ ทำให้ยัสปาลซิงห์ ต้องถอยร่นออกมาจากบริษัท และเริ่มมองหาเส้นทางของตัวเอง

การจดทะเบียนบริษัท ยัสปาล แอนด์ ซันส์ เริ่มขึ้นเมื่อ 37 ปีที่แล้ว ยัสปาล ซิงห์ต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับการสั่งผ้าขนหนูเข้ามาขายแล้วก็ติดตรายี่ห้อ "ยัสปาล" ลงไป ถึงแม้จะไม่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ดังเช่นยี่ห้อแคนนอนของพี่ชาย แต่ยัสปาลซิงห์ ก็ดูจะมีความภาคภูมิใจไม่น้อย

นอกจากผ้าขนหนู ยัสปาลแอนด์ ซันส์ ยังได้ขยายธุรกิจของตัวเองออกไปทางผ้าปูที่นอนผ้าคลุมเตียง ผ้านวม และชุดเครื่องนอนทั้งหมด ธุรกิจดำเนินไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ถึงช่วงนี้ยัสปาล แอนด์ ซันส์ เริ่มสร้างแบรนด์ใหม่ของตัวเองเพื่อจับตลาดบนโดยเฉพาะโดยใช้ชื่อแบรด์ว่า "แซนตาส" ราคานั้นไม่ต้องพูดถึง สูงลิบลิ่ว

ในปี 2515 ยัสปาลแอนด์ซันส์ เริ่มขยายธุรกิจของตัวเองเข้าสู่ธุรกิจแฟชั่นเสื้อผ้าสำเร็จรูปโดยจับตลาดบนอีกเช่นกัน เสื้อผ้าสำเร็จรูปเหล่านี้ จะถูกผลิตออกมาเพียงจำนวนจำกัด และจะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ ภายใต้ชื่อยี่ห้อ "ยัสปาล" อีกเช่นกัน

ปี 2522 เป็นปีแรกที่ยัสปาลแอนด์ ซันส์ เริ่มตั้งโรงงานผลิตผ้านวมและผ้าปูที่นอนเป็นของตัวเองขึ้น และก้าวหน้าจนก้าวเข้าสู่ตลาดหมอนอีกตัวหนึ่ง

ปี 2528 ยัสปาลแอนด์ซันส์จึงได้ติดต่อซื้อลิขสิทธิ์การผลิตหมอนของดูปองท์ และได้ติดต่อให้บริษัท ZUCCHI ซึ่งเป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ดีไซน์แบบให้ นับแต่นั้นมาหมอนแซนตาสภายใต้มาตรฐานของดูปองท์จึงเกิดขึ้นในประเทศไทย

งานครบรอบวันเกิดของยัสปาล แอนด์ ซันส์ คืนนั้นจึงเต็มไปด้วยแขกเหรื่อจากต่างประเทศและในประเทศไทยจำนวนมาก

"ตลาดช่วงนี้กำลังดี และเราก็คาดว่าปีต่อไปคงดีกว่านี้แน่โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศเมื่อปีที่แล้วเราเอ็กซ์ปอร์ตไป 10 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าอย่างน้อย ๆ คงจะทำยอดขายได้ถึง 20-25 ล้านบาท" ยัสปาล ซิงห์ บอกกับ "ผู้จัดการ"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us