Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน9 เมษายน 2552
พิษศก.ฉุดตลาดกระเบื้อง ยุโรปย้ายฐานผลิตไปจีน             
 


   
search resources

Tiles and Roofs
พรชัย รัตนเมธานนท์
เดคคอรามา, บจก.




“เดคคอรามา” ผู้นำเข้ากระเบื้องเผยเศรษฐกิจพ่นพิษทำยอดสั่งซื้อวูบ แถมค่าขนส่งแพงลิ่ว ด้านยุโรปย้ายฐานการผลิตไปที่จีนเหตุต้นทุนถูกกว่าครึ่ง พร้อมเดินหน้าพัฒนารีสอร์ทหรู “คาชัวรินา” ชะอำ

นายพรชัย รัตนเมธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ พี แอนด์ เอส จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ชะลอแผนการลงทุนธุรกิจอสังหาฯไปเมื่อปี 39 เนื่องจากประสบปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ และหันมานำเข้%กระเบื้องยางและวัสดุตกแต่งประเภทหินอ่อน จากต่างประเทศ

สำหรับธุรกิจนำเข้ากระเบื้องยาง นั้นบริหารงานภายใต้บริษัท เดคคอรามา จำกัด เป็นการนำเข้าจากประเทศอังกฤษ,สวีเดน และเกาหลี เช่น แบรนด์ ALTRO และ FLEXCO ราคาเฉลี่ย 3,000-6,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนธุรกิจวัสดุตกแต่งภายในประเภทหินอ่อนและโมเสดนำเข้า บริหารงานภายใต้บริษัท คาซา รอคคา จำกัด สินค้าส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศอิตาลี,สเปน และจีน ราคาเฉลี่ย 1,500-10,000 บาท/ตารางเมตร/รุ่น โดยสินค้าของบริษัทจะเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น โรงแรม,โรงพยาบาล,โรงงาน และคอนโดมิเนียม ระดับไฮเอนด์ เช่น เดอะแม็ท กลุ่มแสนสิริบางโครงการ และกลุ่มทีซีซี แลนด์ เป็นต้น

ทั้งนี้ในแต่ละเดือนบริษัทจะนำเข้าสินค้าเฉลี่ยประมาณ 20-70 ตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้แล้วแต่ช่วงจังหวะและเวลาว่าลูกค้าต้องการมากน้อยเพียงใด ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวมประมาณ 200 ล้านบาท/ปี แต่ในปี 52 นี้คาดว่ายอดขายรวมจะไม่ถึง 200 ล้านบาทหรือเพียง 150 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง นอกจากนี้ค่าขนส่งยังปรับขึ้นสูงมาก

“ไม่ใช่เฉพาะตลาดในเมืองไทยที่ชะลอตัว แต่ผู้ผลิตในต่างประเทศประสบปัญหาเช่นเดียวกัน อย่างที่อิตาลี สเปนที่เป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่งของโลกปัจจุบันปิดโรงงานไปแล้วกว่าครึ่ง บางส่วนปิดเพราะขาดทุน แต่บางส่วนปิดเพราะย้ายฐานการผลิตมาที่จีน เนื่องจากมีต้นทุนถูกกว่า 50% แต่คุณภาพไม่ได้แตกต่างกัน แม้ว่าที่ผ่านมาจีนจะถูกกว่าหาว่าผลิตของไม่ได้คุณภาพ แต่อย่างลืมว่าจีนมีโรงงานผลิตกระเบื้องกว่า 6,000 แห่ง และมีจำนวนมากที่ผลิตได้มาตรฐานยุโรป และเป็นข้อดีทำให้สินค้าของยุโรปบางยี่ห้อเราสามารถสั่งซื้อจากจีนได้และมีต้นทุนขนส่งถูกกว่า”

ด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายหลังจากชะลอการลงทุนไปในปี 39 จนกระทั่งเมื่อต้นปี 51 ที่ผ่านมาได้เข้าไปเทกโอเวอร์ โครงการ “คาชัวรินา รีสอร์ท”ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 20 ไร่ เดิมมีทั้งหมด 34 วิลล่า และมีแผนปรับปรุงใหม่และพัฒนาเพิ่มโรงแรมเพิ่มอีก 100 ห้อง ด้วยการขอกู้สินเชื่อจากสถาบันการเงินวงเงิน 30-40% ของมูลค่าโครงการ แต่ในช่วงดังกล่าวเกิดปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้สถาบันการเงินชะลอปล่อยสินเชื่อ และขอลดวงเงินสินเชื่อเหลือเพียง 17% เท่านั้น ดังนั้นจึงปรับลดการพัฒนาเหลือเพียง 35 วิลล่า จำนวน 50 ห้องเท่านั้น ซึ่งเพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยแต่ละวิลล่าจาก 40 ตารางเมตร เป็น 70 ตารางเมตร โดยดึงบริษัท ออกัสท์ ดีไซน์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมปรับปรุงออกแบบโครงการให้ทันสมัยมากขึ้น คาดว่าจะปรับปรุงเสร็จและเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในปลายปี 52 นี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us