|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"พีดี เฮ้าส์" เล็งขายธุรกิจแฟรนไชส์รับสร้างบ้าน รายแรกของเมืองไทย ประเดิม พฤษภาคมนี้ ตั้งเป้า 5 ปี 50 สาขา ยอดขายรวม 4,500 ล้านบาท งบลงทุนสาขาละ 2-2.5 ล้านบาท ระบุคืนทุนภายใน 2 ปี
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือพีดี เฮ้าส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดธุรกิจ "แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดี เฮ้าส์" ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกของเมืองไทย เนื่องจากพบว่าความต้องการบ้านหรือที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะความต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเองและนิยมว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ทำให้ส่วนแบ่งตลาดรวมทั่วประเทศกว่า 80% ตกเป็นของผู้รับเหมารายย่อย แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อดีไซน์หรือแบบบ้าน คุณภาพ บริการ และมีไลฟสไตล์เป็นของตัวเองมากขึ้น
ขณะที่ผู้รับเหมาทั่วไปยังไม่ปรับตัวตามและไม่สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ เหตุเพราะขาดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ ทั้งในด้าน การจัดการ การตลาด สถาปัตยกรรม และวิศวกรรมของการสร้างบ้านอย่างมืออาชีพ ดังนั้นจึงส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของผู้บริโภคและพบปัญหาบ่อยๆ อาทิ งบบานปลาย สร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ จนกลายเป็นความขัดแย้งและนำไปสู่ปัญหาการทิ้งงานหรือสร้างบ้านไม่แล้วเสร็จ ฯลฯ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่จำเป็นต้องเลือกใช้บริการว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อย เหตุเพราะบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่แข่งขันอยู่ในตลาดไม่มีสาขาตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด หรือไม่รับสร้างบ้านในต่างจังหวัด
ปัญหาดังกล่าว ทำให้บริษัทฯมองเห็นโอกาสและช่องทางการขยายธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยการนำระบบแฟรนไชส์มาพัฒนาเพื่อต่อยอดธุรกิจ สำหรับการจะขยายสาขา “ศูนย์รับสร้างบ้าน พีดี เฮ้าส์” ออกไปทั่วประเทศ ทั้งนี้ด้วยระบบแฟรนไชส์ธุรกิจรับสร้างบ้านตามที่บริษัทเซ็ทอัพระบบขึ้นมา จะเป็นการถ่ายทอดโนฮาวส์และการสนับสนุนธุรกิจจากประสบการณ์เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา รวมถึงหน่วยงาน Design Center จากบริษัทแม่หรือสำนักงานใหญ่จะช่วยสนันสนุนการปฏิบัติงาน ด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เพื่อลดความยุ่งยากในการบริหารงานและต้นทุน ภายใต้คอนเซปต์การบริการและสร้างบ้านมาตรฐานเดียวกันทั่วไทย ทั้งนี้จะเริ่มเปิดรับสมัครหรือขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้สนใจลงทุนในเดือนพฤษภาคม 2552 ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มผู้รับเหมารายย่อยหรือบริษัทรับสร้างบ้านในท้องถิ่น โดยปี 2552 นี้มีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 15 สาขา และจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 50 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขายรวม 4,500 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินว่าผู้ลงทุนจะใช้ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 2 ปี จากงบลงทุน 2-2.5 ล้านบาทต่อสาขา
|
|
|
|
|