Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 เมษายน 2552
ตลาดหุ้นผันผวนลุ้นม็อบเสื้อแดง             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยผันผวนสุดๆ ปรับตัวขึ้น-ลงหลายรอบตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ โดยแตะระดับสูงสุด 449.68 จุด ก่อนจะปิดที่ 442.56 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.48 จุด หลังจากปรับตัวนักลงทุนหวั่นม็อบ “ไข่แม้ว” จุดชนวนความรุนแรงจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทย วานนี้ (7 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนลบและแดนลบ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงให้น้ำหนักต่อถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นัดชุมนุมใหญ่ เพื่อขับไล่รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

โดยดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขายในภาคเช้า และมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องกดดันให้ดัชนีปรับลงแตะระดับต่ำสุดที่ 441.50 จุด ก่อนจะปรับขึ้นยืนเหนือแดนบวกหลังจากเปิดการซื้อขายในช่วงบ่าย และไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 449.68 จุด จนกระทั้งช่วงสุดท้ายของการซื้อขายได้มีแรงเทขายออกมาอีกระลอก และทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงปิดที่ 442.56 จุด ลดลงจากวันก่อน 3.48 จุด หรือคิดเป็น 0.78% มูลค่าการซื้อขายรวม 13,353.16 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิรวม 1,332.20 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 351.63 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 980.57 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ราคาปิดที่ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือคิดเป็น 2.56% มูลค่าการซื้อขาย 1,171.03 ล้านบาท บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิดที่ 160 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 1.23% มูลค่าการซื้อขาย 1,144.18 ล้านบาท และบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ราคาปิดที่ 96.50 บาท ลดลง 3 บาท หรือ 3.02% มูลค่าการซื้อขาย 961.61 ล้านบาท

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ช่วงบ่ายนักลงทุนเริ่มเกิดความกังวลจากสถานการณ์การเมืองที่ทวีความร้อนแรงขึ้น จากกรณีที่เข้าขัดขวางขบวนของนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.) ที่พัทยา จ. ชลบุรี

“ปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อความผันผวนของดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงต้นสัปดาห์นี้ เกิดจากความกังวลเรื่องการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 8 เม.ย. นี้ และคาดว่าจะยืดเยื้อจนนำไปสู่ความรุนแรง ดังนั้นนักลงทุนต้องจับตาดูบทสรุปของสถานการณ์ทางการเมือง ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาในช่วงใกล้ปิดการซื้อขาย ทำให้นักลงทุนไม่กล้าถือหุ้นนาน เพราะความไม่ชัดเจนของการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้น”

สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยนั้น จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน บวกกันสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน เป็นแรงกดดันที่สำคัญตลาดตลาดหุ้นไทย ดังนั้นในระยะสั้นๆ นักลงทุนควรเลือกหาช่องทางการลงทุนและขายทำกำไรเมื่อมีโอกาส ประเมินแนวรับที่ 441 จุด แนวต้านที่ 444 จุด

นาวสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) หรือ DBS กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ มีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ จากสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. โดยเฉพาะการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย. นี้อาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลลบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนั้นนักลงทุนจะต้องรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประเมินแนวรับตลอดสัปดาห์ที่ 420-410 จุด แนวต้านที่ 450-460 จุด

นายวรุฒม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันซ่า กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ผันผวน โดยดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบจากประเด็นหลักของความกังวลทางการเมืองที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดง ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงและบานปลาย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศได้มีการประเมินว่าภาคธนาคารยังคงได้รับผลกระทบจากการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงที่มากเกินไป และยอดหนี้เสียจะเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่เข้ามามีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมระหว่างฝ่ายเสื้อแดงกับกลุ่มเชียร์ประธานองคมนตรี รวมถึงการสร้างสถานการณ์ต่างๆ

“หากรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังสลายการชุมนุม จับกุมแกนนำ หรือประกาศใช้พ.ร.บ.ฉุกเฉินจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อความเชื่อมั่นการลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างชาติโยกเงินออกจากตลาดหุ้นไทยยาว และฉุดให้ดัชนีฯดิ่งลงหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 400 จุด ดังนั้นนักลงทุนควรชะลอการลงทุนรอดูอยู่นอกตลาด โดยแนวรับอยู่ที่ 400 จุด แนวต้าน 445 จุด”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us