Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2531








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2531
ซิกน่า พีแอนด์ซี เทคโอเวอร์ โฮมอินชัวรันซ์คู่แข่งที่น่ากลัวของวงการประกันภัย!?             
 


   
search resources

ซิกน่า กรุ๊ป
สุรินทร์ ตันติสุวรรณากุล
Insurance
โฮมอินชัวรันซ์, บจก.




โฮมอินชัวรันซ์ เป็นบริษัทในกลุ่มเอเฟียซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยอเมริกาที่มีสาขาทั่วโลก เปิดดำเนินธุรกิจด้านการประกันภัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2468 จนปัจจุบันเป็นเวลา 63 ปี

นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2531 ชื่อโฮมอินชัวรันซ์ได้ถูกลบออกไปจากประวัติศาสตร์วงการประกันภัยบ้านเรา แทนที่ด้วย บริษัทซิกน่า ปรอปเปอร์ตี้ แอนด์ แคสชวลตี้ อินชัวรันซ์ จำกัด

กลุ่มซิกน่าเป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยและการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกา ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 53,495 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,337,375 ล้านบาท มีรายได้รวมทั้งสิ้น 422,725 ล้านบาท มีพนักงาน 50,000 คน มีสาขาทั่วโลก 1,000 สาขา ใน 130 ประเทศทั่วโลก

อันที่จริงกลุ่มซิกน่าได้เข้าเทคโอเวอร์กลุ่มเอเฟียไปทั้งหมดตั้งแต่ปี 2527 แต่เพิ่งจะได้คืนใบอนุญาตเก่าและออกใบอนุญาตใหม่จากกระทรวงพาณิชย์ โดยซิกน่าจะรับโอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้สิน และความรับผิดตามสัญญาประกันภัยของบริษัท โฮมอินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทยไปทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลต่อบริษัทหรือต่อวงการประกันภัยอย่างไร?…คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนอยากรู้

ในด้านผู้บริหาร สุรินทร์ ตันติสุวรรณากุล ผู้จัดการใหญ่ประกาศว่า แม้จะมีการเปลี่ยนเจ้าของแล้วก็ตาม ทีมงานทั้งหมดและระบบงานยังคงเหมือนเดิม พร้อมกันนี้ทางซิกน่าได้นำเงินสดเข้ามาลงทุนด้วย 10 ล้านบาท และยังมีนโยบายที่จะไม่นำผลกำไรออกไป แต่จะลงทุนอยู่ในเมืองไทย

แผนการตลาดของซิกน่าจะมีลักษณะเชิงรุกมากขึ้น มีการริเริ่มประกันภัยใหม่ๆ ที่บริษัทอื่นไม่กล้าทำ เช่น การรับประกันผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเสี่ยงภัยต่อการถูกฆาตรกรรมหรือลอบทำร้ายโดยคู่แข่งทางการเมือง, โครงการรับประกันพืชผลของเกษตร, การประกันภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ที่มักถูกน้ำท่วม

สิ่งที่ทำอยู่ตั้งแต่ครั้งยี่ห้อ "โฮมอินชัวรันซ์" ก็คงทำต่อไป ที่โดดเด่นคือการขายประกันด้วยระบบส่งเอกสารชี้ชวนทางไปรษณีย์ที่มีอยู่หลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายผ่านระบบสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตของอเมริกันเอ๊กซ์เพรส

โครงการล่าสุดซิกน่าไทยร่วมทุนกับบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตซึ่งเป็นผู้ออกกรมธรรม์ขายโครงการประกันชีวิตแบบ "ฉัตรแก้ว" ซึ่งให้การคุ้มครองคู่สมรสด้วระบบการชำระเบี้ยประกันภัยใช้หักอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต

เท่าที่ผ่านมานั้นสุรินทร์บอกว่า การขายทางไปรษณีย์ได้ผลประมาณ 10% ซึ่งคู่แข่งที่เป็นบริษัทประกันภัยด้วยกันวิจารณ์ว่า "สำหรับคนไทยแล้ว การขายประกันถึงตัวนั่งอธิบายทำความเข้าใจยังยากเลยกว่าจะได้ประกันแต่ละครั้ง ผมไม่คิดว่าขายทางไปรษณีย์จะได้ผล ราคาคุยมากกว่า"

ซิกน่ามีโครงการที่จะเข้าร่วมขายประกันบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ตกลงกันแน่นอน!

ในโอกาสที่ซิกน่าจัดประชุมผู้จัดการสาขาภาคพื้นเอเชีย ที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 9-15 ตุลาคม ซิกน่าสาขาประเทศไทยจึงถือโอกาสจัดเลี้ยงฉลองอย่างใหญ่โตที่โรงแรมเซ็นทรัล

งานนี้ชูชีพ หาญสวัสดิ์ ซึ่งได้รับเชิญให้เป็นประธานเปิดงานไม่มา แต่ได้มอบหมายให้ชลอ เฟื่องอารมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันภัยมาเป็นแทน มีคนในยุทธจักรประกันภัยและแวดวงการเงินมากันคึกคักพอสมควร "ผู้จัดการ" ถามทัศนะผู้มาร่วมถึงผลกระทบด้านการตลาด

"ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะรายได้ส่วนใหญ่น่าจะมาจากลูกค้าจากต่างประเทศที่เขาเป็นลูกค้าของซิกน่าในต่างประเทศ เมื่อมาดำเนินธุรกิจในเมืองไทยเขาก็ย่อมที่เลือกบริษัทประกันรายเดียวกัน คุณไปดูรายชื่อลูกค้าซิ เอที แอนด์ที, ซิตี้ แบงก์ ฯลฯ การไปหาลูกค้ารายย่อยในเมืองไทยนั้นคิดแล้วต้องเสียต้นทุนสูงไม่ค่อยคุ้ม แนวโน้มแล้วคิดว่าเขาจะจับลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ๆ มากกว่า"

สุรินทร์ ซึ่งเป็นแม่งานเดินทักทายกับคนทั่วไปหมดจนแทบจะไม่มีเวลาคุยกับ "ผู้จัดการ" ตอบคำถามในเชิงโต้แย้งอย่างสั้นๆ ว่า

"ลูกค้าที่เป็นชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าเก่าตั้งแต่ยังเป็นโฮมอินชัวรันซ์มีใหม่ก็เอที แอนด์ที เรามีลูกค้าใหญ่ที่เป็นคนไทยเยอะแยะเช่นเซ็นทรัล ปูนซีเมนต์ โค้ก…สัดส่วนของลูกค้าต่างประเทศประมาณ 30% เราเน้นการหาลูกค้าในประเทศ ไม่คิดจะฝากอนาคตไว้กับตลาดภายนอก ไม้งั้นไม่ออกบริการมามากมาย"

ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าเป้าหมายตลาดของซิกน่าจะเป็นอย่างที่สุรินทร์ว่าไว้หรือเปล่า?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us