โฮมอินชัวรันซ์ เป็นบริษัทในกลุ่มเอเฟียซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยอเมริกาที่มีสาขาทั่วโลก
เปิดดำเนินธุรกิจด้านการประกันภัยในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2468 จนปัจจุบันเป็นเวลา
63 ปี
นับแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2531 ชื่อโฮมอินชัวรันซ์ได้ถูกลบออกไปจากประวัติศาสตร์วงการประกันภัยบ้านเรา
แทนที่ด้วย บริษัทซิกน่า ปรอปเปอร์ตี้ แอนด์ แคสชวลตี้ อินชัวรันซ์ จำกัด
กลุ่มซิกน่าเป็นกลุ่มบริษัทประกันภัยและการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอเมริกา
ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 53,495 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,337,375
ล้านบาท มีรายได้รวมทั้งสิ้น 422,725 ล้านบาท มีพนักงาน 50,000 คน มีสาขาทั่วโลก
1,000 สาขา ใน 130 ประเทศทั่วโลก
อันที่จริงกลุ่มซิกน่าได้เข้าเทคโอเวอร์กลุ่มเอเฟียไปทั้งหมดตั้งแต่ปี
2527 แต่เพิ่งจะได้คืนใบอนุญาตเก่าและออกใบอนุญาตใหม่จากกระทรวงพาณิชย์ โดยซิกน่าจะรับโอนบรรดากิจการ
ทรัพย์สิน หนี้สิน และความรับผิดตามสัญญาประกันภัยของบริษัท โฮมอินชัวรันซ์
จำกัด สาขาประเทศไทยไปทั้งหมด
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลต่อบริษัทหรือต่อวงการประกันภัยอย่างไร?…คงเป็นคำถามที่หลายๆ
คนอยากรู้
ในด้านผู้บริหาร สุรินทร์ ตันติสุวรรณากุล ผู้จัดการใหญ่ประกาศว่า แม้จะมีการเปลี่ยนเจ้าของแล้วก็ตาม
ทีมงานทั้งหมดและระบบงานยังคงเหมือนเดิม พร้อมกันนี้ทางซิกน่าได้นำเงินสดเข้ามาลงทุนด้วย
10 ล้านบาท และยังมีนโยบายที่จะไม่นำผลกำไรออกไป แต่จะลงทุนอยู่ในเมืองไทย
แผนการตลาดของซิกน่าจะมีลักษณะเชิงรุกมากขึ้น มีการริเริ่มประกันภัยใหม่ๆ
ที่บริษัทอื่นไม่กล้าทำ เช่น การรับประกันผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งอาจเสี่ยงภัยต่อการถูกฆาตรกรรมหรือลอบทำร้ายโดยคู่แข่งทางการเมือง, โครงการรับประกันพืชผลของเกษตร,
การประกันภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ที่มักถูกน้ำท่วม
สิ่งที่ทำอยู่ตั้งแต่ครั้งยี่ห้อ "โฮมอินชัวรันซ์" ก็คงทำต่อไป
ที่โดดเด่นคือการขายประกันด้วยระบบส่งเอกสารชี้ชวนทางไปรษณีย์ที่มีอยู่หลายโครงการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายผ่านระบบสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตของอเมริกันเอ๊กซ์เพรส
โครงการล่าสุดซิกน่าไทยร่วมทุนกับบริษัทกรุงเทพประกันชีวิตซึ่งเป็นผู้ออกกรมธรรม์ขายโครงการประกันชีวิตแบบ
"ฉัตรแก้ว" ซึ่งให้การคุ้มครองคู่สมรสด้วระบบการชำระเบี้ยประกันภัยใช้หักอัตโนมัติผ่านบัตรเครดิต
เท่าที่ผ่านมานั้นสุรินทร์บอกว่า การขายทางไปรษณีย์ได้ผลประมาณ 10% ซึ่งคู่แข่งที่เป็นบริษัทประกันภัยด้วยกันวิจารณ์ว่า
"สำหรับคนไทยแล้ว การขายประกันถึงตัวนั่งอธิบายทำความเข้าใจยังยากเลยกว่าจะได้ประกันแต่ละครั้ง
ผมไม่คิดว่าขายทางไปรษณีย์จะได้ผล ราคาคุยมากกว่า"
ซิกน่ามีโครงการที่จะเข้าร่วมขายประกันบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้ตกลงกันแน่นอน!
ในโอกาสที่ซิกน่าจัดประชุมผู้จัดการสาขาภาคพื้นเอเชีย ที่ประเทศไทยระหว่างวันที่
9-15 ตุลาคม ซิกน่าสาขาประเทศไทยจึงถือโอกาสจัดเลี้ยงฉลองอย่างใหญ่โตที่โรงแรมเซ็นทรัล
งานนี้ชูชีพ หาญสวัสดิ์ ซึ่งได้รับเชิญให้เป็นประธานเปิดงานไม่มา แต่ได้มอบหมายให้ชลอ
เฟื่องอารมย์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันภัยมาเป็นแทน มีคนในยุทธจักรประกันภัยและแวดวงการเงินมากันคึกคักพอสมควร
"ผู้จัดการ" ถามทัศนะผู้มาร่วมถึงผลกระทบด้านการตลาด
"ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะรายได้ส่วนใหญ่น่าจะมาจากลูกค้าจากต่างประเทศที่เขาเป็นลูกค้าของซิกน่าในต่างประเทศ
เมื่อมาดำเนินธุรกิจในเมืองไทยเขาก็ย่อมที่เลือกบริษัทประกันรายเดียวกัน
คุณไปดูรายชื่อลูกค้าซิ เอที แอนด์ที, ซิตี้ แบงก์ ฯลฯ การไปหาลูกค้ารายย่อยในเมืองไทยนั้นคิดแล้วต้องเสียต้นทุนสูงไม่ค่อยคุ้ม
แนวโน้มแล้วคิดว่าเขาจะจับลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ๆ มากกว่า"
สุรินทร์ ซึ่งเป็นแม่งานเดินทักทายกับคนทั่วไปหมดจนแทบจะไม่มีเวลาคุยกับ
"ผู้จัดการ" ตอบคำถามในเชิงโต้แย้งอย่างสั้นๆ ว่า
"ลูกค้าที่เป็นชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าเก่าตั้งแต่ยังเป็นโฮมอินชัวรันซ์มีใหม่ก็เอที
แอนด์ที เรามีลูกค้าใหญ่ที่เป็นคนไทยเยอะแยะเช่นเซ็นทรัล ปูนซีเมนต์ โค้ก…สัดส่วนของลูกค้าต่างประเทศประมาณ
30% เราเน้นการหาลูกค้าในประเทศ ไม่คิดจะฝากอนาคตไว้กับตลาดภายนอก ไม้งั้นไม่ออกบริการมามากมาย"
ก็คงต้องดูกันต่อไปว่าเป้าหมายตลาดของซิกน่าจะเป็นอย่างที่สุรินทร์ว่าไว้หรือเปล่า?